X
ฆ่าเสือไซบีเรีย

สุดโหด! วางยาเสือในสวนสัตว์อุบลฯหวังขโมยขายหนัง ตำรวจรวบตัวได้แล้ว

อุบลราชธานี – ตร.อุบลฯรวบ 4 ผู้ต้องหาฆ่าและจำหน่ายหนังเสือโคร่งไซบีเรีย เชื่อไม่ใช่ขบวนการค้าสัตว์ สุดโหดผสมยาฆ่าหญ้าในอาหาร หวังขโมยหนังขายได้ 2 หมื่น

สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อ วันที่ 27 เมษายน 2560 นายสมศักดิ์ ไกรอุภัย นักบริหาร 7 หัวหน้าฝ่ายพัฒนาสวนสัตว์อุบลราชธานี ได้รับมอบอำนาจจากนายสัตว์แพทย์วันชัย ตันวัฒนะ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.วิจิตร พุฒพิมพ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ว่ามีคนร้ายเข้าไปงัดห้องในโรงพยาบาลสัตว์ของสวนสัตว์แล้วขโมยเอาหนังเสือโคร่งที่ตายไป จึงขอให้ไปตรวจที่เกิดเหตุและสอบสวนสาเหตุการตายของเสือตัวดังกล่าวด้วย เนื่องจากพบเป็นการตายอย่างผิดปกติ

ต่อมา พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รองผู้กำกับสอบสวนได้ตั้งทีมสืบหาข้อเท็จจริง กระทั่งทราบว่า คนร้ายรายนี้ เป็นคนเลี้ยงเสือคือ นายประวิทย์ ทองใบ อายุ 27 ปี และนายวิชัย แท้ไธสง อายุ 39 ปี นำยาฟูราดาน ซึ่งเป็นยาฆ่าหญ้าชนิดรุนแรงให้เสือกิน ทำให้เสือโคร่งที่ชื่อแครกเกอร์เสียชีวิต และพบเป็นศพในตอนเช้าวันที่ 13 เม.ย.2560 หลังจากนั้น สวนสัตว์มีการผ่าพิสูจน์ซาก ซึ่งพบเป็นการตายผิดปกติ จึงนำซากพร้อมหนังเสือเก็บรักษาไว้ในโรงพยาบาลของสวนสัตว์ เพื่อทำการสอบสวนคนงานที่ดูแลเสือ

ระหว่างกำลังสืบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลางดึกวันที่ 26 เม.ย.มีคนร้ายเข้าไปงัดประตูโรงพยาบาลและขโมยเอาหนังเสือไป จึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจากการสืบสวนก็พบว่า นอกจากนายประวิทย์ ทองใบ และนายวิชัย แท้ไธสง จะร่วมกันทำให้เสือเสียชีวิตแล้ว ยังใช้ให้นายสุรชัย ความสวัสดิ์ อายุ 37 ปี อดีตคนงานของสวนสัตว์ให้เข้าไปขโมยเอาหนังเสือ ส่งไปขายให้กับนายอำนาจ อินชูกูล อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นพ่อค้าที่รับซื้อในกรุงเทพฯราคา 2 หมื่นบาท

หลังได้ข้อเท็จจริง ในวันที่ 15 พ.ค.2560 พนักงานสอบสวน จึงแจ้งข้อหานายประวิทย์ และนายวิชัย ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์โดยวางยาฆ่าเสือโคร่ง ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน ร่วมกันค้าซากสัตว์สงวน สัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในบางข้อหา แต่ปฏิเสธไม่ได้เป็นผู้วางยาฆ่าเสือแต่อย่างใด

ด้านนายสุรชัย ความสวัสดิ์ อดีตคนงานถูกแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นและใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การหลบหนี และร่วมกันรับของโจร สำหรับนายอำนาจ อินชูกูล ซึ่งถูกซัดทอดเป็นคนรับซื้อและถูกจับได้เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา ถูกดำเนินคดีรับของโจร มีซากสัตว์ป่าสงวนหรือซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธอ้างได้รับซื้อเป็นของกินจากนายประวิทย์จริง แต่ไม่ใช่ซากหนังของเสือโคร่งแต่อย่างใด

พ.ต.ท.ปราโมทย์ ยังได้เปิดเผยอีกว่า ในฐานะหัวหน้าทีมพนักงานสอบสวนได้นำทีมเข้าสืบสวนกลุ่มผู้ต้องสงสัยกลุ่มแรกคือ คนงานที่เลี้ยงดูแลเสือที่ตาย โดยพบว่าในคืนที่เสือเสียชีวิต คือวันที่ 13 เม.ย. มีคนงานพักอาศัยอยู่ใกล้กรงเสือจำนวน 2 คน คือ นายประวิทย์ ทองใบ อายุ 27 ปี และนายวิชัย แท้ไธสง อายุ 39 ปี

หลังนั้นเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ยังพบถุงใส่สารฆ่าแมลงฟูราดานถูกทิ้งไว้ใกล้กรงเสือ จึงเรียกตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวน ซึ่งช่วงแรกทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ จึงได้ทำการสอบปากคำพยานแวดล้อมเพิ่มรวม 19 ปาก ทำให้แน่ใจว่าคนงานทั้งสองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเสือและการหายไปของกะโหลกเสือเมื่อปลายปี 2559 และหนังเสือในปี 2560 จึงได้ทำการหว่านล้อม กระทั่งผู้ต้องหายอมรับสารภาพ ก่อนจะขโมยหนังเสือโคร่งไซบีเรียไปขาย เคยแอบเข้าไปขโมยกะโหลกของเสือที่ตายตามธรรมชาติ และเก็บรักษาไว้ในโรงเก็บซากสัตว์ของสวนสัตว์ส่งให้นายอำนาจ อินชูกูล ซึ่งเป็นเพื่อนกับนายประวิทย์ ไปติดต่อขายให้กับคนต้องการมาแล้วครั้งหนึ่ง

โดยได้เงินจากการขายกะโหลกประมาณ 1,000 บาท และครั้งนี้ เมื่อมีเสือตายก็เลยใช้ให้นายสุรชัย ความสวัสดิ์ อดีตคนงานของสวนสัตว์ที่ถูกให้ออกจากงานเข้าไปขโมยหนังเสือที่สวนสัตว์ดองเก็บไว้ในโรงพยาบาลสัตว์ แล้วนายประวิทย์ก็ได้ส่งหนังเสือไปให้นายอำนาจไปติดต่อหาคนซื้ออีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้เงินถึง 20,000 บาท แต่นายประวิทย์และนายวิชัย ยังคงให้การปฏิเสธไม่ได้เป็นคนวางยาทำให้เสือตาย ยอมรับร่วมกันขโมยซากไปขายจริงเท่านั้น

พนักงานสอบสวนเชื่อว่า แรงจูงใจที่สองคนงานร่วมวางยาฆ่าเสือครั้งนี้ มาจากต้องการเงินใช้เป็นครั้งคราว ไม่ถึงขั้นเป็นขบวนการค้าซากสัตว์ เพราะเคยส่งกะโหลกเสือไปให้เพื่อนขายมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อต้องการเงินใช้อีก ก็เลยตัดสินใจวางยาฆ่าเสือ เพื่อรอจังหวะขโมยเอาหนังเสือหรือชิ้นส่วนสำคัญอื่นๆไปขายอีก แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนติดตามจับกุมผู้ต้องหามาได้ทั้งหมด ในชั้นนี้ แม้ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธไม่ได้วางยาฆ่าเสือ แต่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึง

จึงได้สรุปสำนวนส่งฟ้องต่อศาลไปตั้งแต่เดือนกรกฏาคม 2560 เป็นชุดแรก และหลังจับตัวนายอำนาจ เพื่อนที่เป็นนายหน้านำชิ้นส่วนเสือไปขายในกรุงเทพฯ ได้เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ซึ่งยังคงให้การปฏิเสธอ้างไม่ได้นำหนังไปขาย แต่เป็นการสั่งซื้ออาหารจากนายประวิทย์เท่านั้น ก็ได้ทำการสั่งฟ้องตามไปเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา โดยศาลนัดสืบพยานโจทย์เป็นนัดแรกในเดือนมิถุนายนศกนี้

ข่าวโดย : เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สุชัย เจริญมุขยนันท

สุชัย เจริญมุขยนันท

นิเทศศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ หลักสูตรโปรดิวเซอร์ เนชั่น วิทยากรพิราบน้อย โครงการเผยแพร่ความรู้ทางวิทยุ มูลนิธิหมอชาวบ้าน วิทยุเนชั่น ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยประจำจงอุบลราชธานี ผู้จัดการศูนย์ข่าวประชาสังคมอุบลราชธานี ปัจจุบัน เลขาธิการมูลนิธิสื่อสร้างสุข ผู้อำนวยการทีวีชุมชนอุบลราชธานี E : [email protected] F : ทีวีชุมชนอุบลราชธานี T : 0818786440 LINE : SUCHAINEWS