เจิมศักดิ์ชี้ศึกครั้งใหม่ ไม่เตรียมตัว คนไทยจะล้มกันทั้งระบบ

อุบลราชธานี – ดร.เจิมศักดิ์แจงสังคมสูงวัย เป็นสงครามครั้งใหม่ที่ประเทศไทยไม่เคยเจอมาก่อน ต้องเตรียมรองรับให้ดี สวัสดิการรัฐเอกชนจะล่มไม่เป็นท่า เหตุโครงสร้างประชากรเปลี่ยน คนรุ่นใหม่มีน้อยคุณภาพต่ำ รับภาระไม่ไหว เสนอเก็บแวตเพิ่มใส่เป็นเงินสะสมให้คนไทย

วันนี้ (20 พฤศจิกายน 2561) ที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โครงการวิจัยกระบวนหนุนเสริมการสร้างระบบกลไกและพื้นที่รูปธรรมรองรับสังคมสูงวัย สนับสนุนโดยกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ออกแบบระบบรองรับสังคมสูงวัย โดยมี รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีตสมาชิกวุฒิสภา ร่วมเป็นวิทยากร

ดร.เจิมศักดิ์กล่าวว่า สังคมสูงวัยจะเป็นปัญหาหนักในอีก 10 กว่าปีข้างหน้า หากไม่มีการเตรียมระบบรองรับ คนที่มี ช่วงอายุ 40-60 วันนี้ จะได้รับผลกระทบมากที่สุด รองลงมาก็ต่ำกว่า 40 ปี คนรุ่นนี้จะต้องลุกขึ้นมาช่วยกันคิดว่าจะวางระบบรองรับมันอย่างไร สิ่งนี้ถือเป็นเป็นข้าศึกใหม่ สงครามใหม่ที่ประเทศไทยยังไม่เคยเจอมาก่อน เป็นสงครามที่หนีไม่ได้ด้วย เพราะอีกสิบกว่าปี จำนวนสัดส่วนของผู้สูงอายุจะมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึง 1 ใน 3 ของคนทั้งประเทศ ไปไหนจะเจอผู้สูงอายุ 30%

คนวัยทำงานสัดส่วนจะน้อยลง เด็กที่เกิดใหม่ก็จะเกิดจากคนท้องที่ไม่พร้อม ส่วนคนพร้อมดันไม่ท้อง พอเด็กกลุ่มนี้โตขึ้นมาเป็นวัยทำงาน เป็นคนจ่ายภาษี ก็เป็นคนด้อยคุณภาพคุณภาพ คนห้าสิบปัจจุบันเริ่มแก่ พึ่งพาลูกก็ไม่ได้

ดร.เจิมศักดิ์กล่าวอีกว่า สวัสดิการจากรัฐ อย่างข้าราชการบำนาญคิดว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว อย่าได้วางใจ ระบบบำนาญเป็นระบบที่ไม่ยั่งยืน เพราะผู้ที่จ่ายให้คือคนรุ่นหลัง คนที่ทำงานแล้วเสียภาษีคือคนจ่ายให้ พอคนทำงานรุ่นนี้มีน้อยลง คุณภาพก็มีปัญหา จะเป็นอย่างไรลองคิดดู ถ้าคนรุ่นหลังมีมากขึ้น ๆ เหมือนสมัยก่อนก็ไม่มีปัญหา แต่โครงสร้างประชากรเปลี่ยนไปแล้ว เด็กเกิดใหม่เกิดมาแบบพ่อแม่ไม่พร้อมเยอะ จะเป็นอย่างไร น่ากลัวมาก

คนที่อยู่ในระบบประกันสังคม ก็ไม่ยั่งยืนเช่นกัน ให้ระมัดระวัง ระบบวางไว้ให้ท่านหักเงินเดือน 5% นายจ้าง 5% รัฐ 2-3% ไม่ได้ใส่ชื่อเรา เอาไปไว้ส่วนกลาง พออายุมากขึ้น ผู้สูงอายุใช้มากขึ้น ถ้าคนรุ่นใหม่ถามจะลงขันไปทำไม มีแต่คนแก่ใช้ เกิดไม่จ่าย ไม่เข้าระบบล้มทั้งยืน

อีก 20 ปีถ้าไม่แก้ไข พังแน่ กลุ่มชาวบ้านส่วนใหญ่ยิ่งลำบาก ได้เบี้ยยังชีพเล็ก ๆ น้อย ๆ  พึ่งลูกก็ไม่ได้ รัฐก็ไม่มีปัญญาให้มากกว่านี้

คนอายุ 60 คิดว่าจะอยู่อีกกี่ปีตาย ส่วนใหญ่จะบอกอีก 20 ปี อายุ 60 หยุดทำงาน ถ้าจะใช้เงินเดือนละ 20,000 บาท วันที่เราหยุดทำงานและอีก 20 ปีตาย ต้องมีเงินออม โดยประมาณ 5 ล้าน ถ้าบอกมักน้อย หมื่นนึงก็อยู่ได้ ก็ต้องมี 2 ล้านห้า ถ้าไม่มีจะอยู่ได้อย่างไร

ทางออกคือ กองทุนการออมแห่งชาติ ให้คนไปออมธนาคารของรัฐ รัฐจะเติมให้อีกส่วนหนึ่ง ทั้งประเทศมีคนใช้แค่ 4-5 แสนคน อายุมากขึ้นเขาก็จะเติมให้มากขึ้นเรื่อย ๆ พอจะช่วยได้ แต่คนก็ยังไม่ค่อยสนใจ

อีกทางคือตนเสนอให้ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 3% เป็น 10% แต่อีก 3% นี้เก็บสะสมให้คนเสียภาษีแต่ละคนไปถึงวัยเกษียณนำมาใช้ได้ หลายจังหวัดที่ไปสอบถามส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย

ข่าวโดย : สุชัย เจริญมุขยนันท