สุดทนพ่อ ด.ช.วัย 11 ปี ปั่นจักรยานหนีออกจากบ้านหาแม่ที่ กทม
จากกรณีที่สังคมโซเชียลแชร์เรื่องราว เด็กชายวัย 11 ปี หนีออกจากบ้านเพื่อไปหาแม่ที่กรุงเทพฯ เมื่อช่วงค่ำวาน (1 ก.พ.64) โชคดีคุณครูในจังหวัดศรีสะเกษพบเห็นและนำภาพมาโพสต์ตามหาผู้ปกครองนั้น
ล่าสุดนายสรพงษ์ ชายแก้ว ปลัดอาวุโส อำเภอสำโรง นางจำเนียร สายราช ปลัดอำเภอฝ่ายปกครองอำเภอสำโรง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลศรีมงคล เดินทางไปยังโรงเรียนบ้านบุ่ง อำเภอสำโรง เพื่อพูดคุยกับเด็กชาย คิว นามสมมุติ อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.4 เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งจะเข้าดูแลเรื่องความปลอดภัยของเด็ก
น้องคิวเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า เนื่องจากกดดันจากการที่ถูกพ่อบังคับให้เล่นเกมส์ไพ่ เป็นเพื่อนกับพ่อตลอดทั้งวันซึ่งตนไม่อยากเล่น ทำให้พ่อไม่พอใจใช้ไม้ไผ่ตีก้นมานานนับปี แต่ละครั้งจะตีประมาณ 10-20 ครั้ง แล้วแต่ความโมโห เมื่อวานตนกลับบ้านไปก็พบว่าพ่อเก็บตัวเล่นเกมส์อยู่ในห้องและพยายามที่จะให้ตนเข้าไปเล่นด้วยเช่นเดิม พอไม่เล่นก็โมโห แต่เมื่อวานไม่ได้โดนทำร้าย ตนรู้สึกอึดอัดจึงได้ตัดสินใจหยิบจักรยานปั่นออกจากบ้านเพื่อไปหาแม่ที่กรุงเทพ โดยปั่นมาตามถนนอุบล-ศรีสะเกษ จนมีครูโบมาพบเรียกให้จอดแล้วติดต่อครูที่โรงเรียนมารับตัวกลับบ้าน
ข่าวน่าสนใจ:
- "สุวัจน์" จัดงานเลี้ยงต้อนรับ นักเทนนิสหญิง WTA 250 รายการ "แอลไลด์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2024
- AOT ระดมกำลังช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จัดทีมจิตอาสาดูแลครบวงจร
- ตรัง สุดทน! ฝนตกน้ำทะลักท่วมบ้านนับสิบรอบ เดือดร้อนหนัก หลังไฟฟ้าปักเสาแรงสูง ทำท่อระบายน้ำแตกไหลเข้าบ้าน เคยร้องหน่วยแต่เรื่องเงียบ
- เพชรบูรณ์ - ผู้บริหารเทศบาล-ผู้ดูแลศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ปัดแจงข้อเท็จจริง เหตุด.ญ.วัย 2 ขวบ ถูกลืมในรถตู้รับ-ส่ง 7 ชม.
ล่าสุดเมื่อเช้า (2 ก.พ.) พ่อได้เรียกตนเข้าไปคุยเพื่อถามว่าทำไมต้องหนีออกจากบ้าน ตนก็ตอบตามตรงว่าไม่อยากอยู่กับพ่อ พ่อก็หัวเราะแล้วบอกให้ไปเอาไม้ไผ่ที่ใช้ตีประจำมาตีก้นตนอีก 20 ครั้ง ก่อนมาโรงเรียนครั้งนี้คุณย่าเห็นได้เข้ามาห้ามไว้ตนถึงได้ออกมาโรงเรียนตามปกติ เด็กชายคิวยังบอกอีกว่า ตนเองรักย่า ย่าคอยปกป้องตลอดอยากอยู่กับยายไม่อยากอยู่กับพ่อ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อน
ขณะที่ นางบัวลา เจริญทัศน์ อายุ 74 ปี ย่าของเด็กชายคิวเล่าว่า ผู้ที่ก่อเหตุเป็นพ่อแท้ๆ ของของหลาน ส่วนแม่ได้เลิกลาแยกทางกันไปนานแล้ว พ่อเองมักบังคับให้ลูกชายเล่นเกมส์ หลังจากเลิกเรียนก็จะกักตัวให้ลูกเล่นเกมส์ด้วย แต่ลูกไม่ชอบจะให้เล่นก็เล่นได้ชั่วครั้งชั่วคราว ตัวของลูกชายเองก็ไม่ไปไหนหมกตัวอยู่แต่ในห้องไม่คบเพื่อน เรื่องของการตีหลานตนเองก็ไม่รู้ว่ากี่ครั้งแต่เมื่อเช้าเห็นกับตา ส่วนประเด็นเรื่องของสารเสพติด หรือป่วยไม่มีเพราะไม่ออกไปไหนเลย และก็ไม่ได้ไปหาหมอ
ด้านนางสาวปวีณา ดุจดา อายุ 42 ปี ครูประจำชั้น ป.3 ที่ได้รับการติดต่อจากครูโบกล่าวว่าเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น .ได้รับการประสานจากครูโบ (ผู้โพสต์) มาทางเฟซบุ๊กว่ารู้จักน้องคิวหรือไม่ จากนั้นก็ส่งภาพมาให้ดูตนจึงได้ประสานไปทางย่าของน้องคิวออกไปรับน้องพร้อมกับครูอีกท่านที่เป็นญาติกัน
น้องคิวเป็นคนที่พูดง่าย แต่ไม่ค่อยพูด ชอบอยู่คนเดียว ซึ่งทางโรงเรียนเองก็ช่วยกันดูแลเป็นพิเศษเพราะจากการเยี่ยมบ้านก็ทราบปัญหานี้มาบ้างทางโรงเรียนจึงได้จัดให้เป็นนักเรียนกลุ่มพิเศษ ประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ล่าสุดก่อนเกิดเหตุน้องคิวได้คุยกับเพื่อนชั้น ป.4 ว่าจะปั่นจักรยานไปหาแม่ที่กรุงเทพ แต่เพื่อนๆ ก็ไม่ได้คิดอะไร ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากเก็บกดเรื่องของพ่อมาเป็นเวลานานจนถึงที่สุดจึงได้ตัดสินใจหนีออกจากบ้านดังกล่าว
นายชินวัต ทองปรีชา นายอำเภอสำโรง เปิดเผยว่า เบื้องต้นตนเองได้สั่งการให้ นายสรพงษ์ ชายแก้ว ปลัดอาวุโส อำเภอสำโรง นางจำเนียร สายราช ปลัดอำเภอฝ่ายปกครองอำเภอสำโรง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลศรีมงคล ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ขั้นต้นให้แยกเด็กชายคิวออกไปอยู่กับญาติเป็นการชั่วคราว พรุ่งนี้จะมีทีมสหวิชาชีพ นักจิตวิทยา ของจังหวัดลงพื้นที่อีกครั้งเพื่อตรวจสอบสภาพจิตใจของเด็กหาทางเยียวยาและนำพ่อของเด็กไปตรวจสุขภาพอย่างละเอียดอีกครั้งว่าป่วยหรือไม่อย่างไร
ส่วนเรื่องของการดูแลระยะยาวได้มีการประสานงานกับทางโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 32 เพื่อนำน้องคิวไปเรียนต่อที่นั้นแต่ทั้งนี้ยังต้องทำความเข้าใจกับผู้ปกครองก่อน ด้านสภาพจิตใจของน้องคิวตอนนี้ไม่รับพ่อแล้วแต่ยังคงรักและห่วงย่า ซึ่งต้องใช้เวลาในการดูแลสภาพจิตใจของน้องคิวด้วยทีมงานที่มีความชำนาญ
เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์ ข่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: