X
ไฟไหม้วัด

ไฟไหม้วัดบ้านปากน้ำ หลวงพ่อเงินครั้งที่ 3 ในรอบ 1 เดือน

อุบลราชธานี – ไฟไหม้วัดบ้านปากน้ำ หลวงพ่อเงินครั้งที่ 3 ในรอบ 1 เดือน

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 10 ม.ค. ร.ต.อ.ชาตรี  บังศรี  รองสารวัตร สอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ชั้น 3 กุฏิสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดบ้านปากน้ำบุ่งสะพัง ต.กุดลาด อ.เมืองอุบลราชธานี จึงพร้อมด้วยรถดับเพลิงขององค์การบริหารส่วนจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด รวมทั้งจาก อบต.กุดลาดและใกล้เคียงรวม 8 คัน รีบรุดไปที่เกิดเหตุ

พบต้นเพลิงเป็นอาคารขนาดใหญ่สูง 4 ชั้น และมีชั้นใต้ดินใช้เก็บสิ่งของอีก 1 ชั้น ต้นเพลิงอยู่บริเวณห้องเก็บของ ชั้นที่ 3 ชาวบ้านพลเมืองดี และพระเณรในวัดได้ช่วยกันดับไว้ก่อนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไปถึง โดยเพลิงได้สร้างความเสียหายเพียงห้องเดียวลุกลาม  ตรวจสอบภายในห้องต้นเพลิงเป็นห้องสำหรับเก็บสิ่งของประเภทหมอน ผ้า เครื่องใช้ที่ญาติโยมนำมาถวาย ไม่มีพระเณรพักอาศัย

สอบถามสามเณรชินวัตร  คุตนา อายุ 16 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าตนเองพักในอยู่ห้องข้างเคียงห้องต้นเพลิง ขณะที่นั่งพิงกำแพงรู้สึกร้อนแผ่นหลังจึงได้ออกไปดูพบว่าไฟกำลังลุกไหม้อยู่ภายในห้องซึ่งใช้เป็นห้องเก็บของ  จึงได้เรียกพระเณรที่อยู่ชั้นเดียวกันมาใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงที่เตรียมไว้ช่วยกันดับ จนเพลิงสงบก่อนเจ้าหน้าที่มาถึง

สามเณรชินวัตรยังเล่าอีกว่าเมื่อวาน (9 ม.ค.)ช่วงเวลาเดียวกันก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ห้องเดียวกันมาแล้วครั้งหนึ่งความเสียหายไม่มากสามารถช่วยกันดับไว้ได้  จากนั้นก็เข้าไปเคลียร์พื้นที่ในห้องนำเอาสิ่งของที่ถูกไฟไหม้ออกมาไว้ข้างนอก  โดยมีพระธิติโชติ ที่มาช่วยกันดับเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดเพลิงไหม้น่าจะเกิดจากอาถรรพ์  จึงได้พูดขึ้นว่า “แน่จริงให้ไหม้อีก” ตนเองก็ไม่ได้คิดอะไร แต่เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมจึงได้มีการซื้อสายยางและเตรียมเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงไว้ประจำแต่ละชั้นหากเกิดเกรณีเพลิงไหม้ขึ้นมาอีก และก็เกิดขึ้นจริงตามคาด

ขณะที่สามเณรและชาวบ้านเชื่อว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ทั้งเล็กน้อยไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่และครั้งใหญ่ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 -2564 รวม 8 ครั้ง อาจจะเกิดจากเรื่องอาถรรพ์ภายในวัด  เพราะในเรื่องของความขัดแย้งระหว่างคนในวัดและชุมชนกับวัดไม่มี    ส่วนผลการตรวจสอบของพิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุบลราชธานี  ของเหตุการเพิลงไหม้วันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สมอาจ  แคนเภาว์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี เปิดเผยว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานการตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด ซึ่งอยู่ในระหว่างการสอบสวน

วัดบ้านปากน้ำบุ่งสระพัง เป็นวัดเก่าแก่ที่มีพระพุทธรูปคู่เมืองอุบลเป็น หลวงพ่อเงิน อายุ กว่า 700 ปี ซึ่งจากการที่เพลิงไหม้บ่อยครั้งขนาดนี้ทำให้ชาวบ้านวิตกกังวล เกรงจะเกิดอาเพศ ต่างๆนานา ยืนยันชาวบ้านและวัดไม่มีความขัดแย้งใดๆต่อกัน

เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์ ข่าว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สุชัย เจริญมุขยนันท

สุชัย เจริญมุขยนันท

นิเทศศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ หลักสูตรโปรดิวเซอร์ เนชั่น วิทยากรพิราบน้อย โครงการเผยแพร่ความรู้ทางวิทยุ มูลนิธิหมอชาวบ้าน วิทยุเนชั่น ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยประจำจงอุบลราชธานี ผู้จัดการศูนย์ข่าวประชาสังคมอุบลราชธานี ปัจจุบัน เลขาธิการมูลนิธิสื่อสร้างสุข ผู้อำนวยการทีวีชุมชนอุบลราชธานี E : [email protected] F : ทีวีชุมชนอุบลราชธานี T : 0818786440 LINE : SUCHAINEWS