จากรายงานของคณะทำงานติดตามวิเคราะห์สถานการณ์ และกำหนดมาตรการแนวทางการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 จ.อุบลราชธานี วันที่ 27 ธันวาคม 2562 – 2 มกราคม 2563 มีรายงานในส่วนของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร รวม 6 รายคือ
1.นายพิชิต ศรีระบุตร อายุ 31 ปี เหตุเกิดที่ อ.เขื่องใน ขับรถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วชนรถกระบะ เวลา 19.00 น. วันที่ 27 ธันวาคม 2562
2.นายทรัพยา สะทาสุ อายุ 15 ปี เหตุเกิดที่อ.นาเยีย ขับจักรยานยนต์เสียหลักล้มเอง เวลา 22.15 น. วันที่ 27 ธันวาคม 2562
3.นายธนัตถ์ แก้วคำ อายุ 15 ปี เหตุเกิดที่ หน้าปั๊ม ปตท.บ้านก่อ อ.วารินชำราบ ขับรถเร็วชนรถหัวลากที่จอดอยู่ข้างทาง เวลา 04.40 น. วันที่ 28 ธันวาคม 2562
4.ดช.ธนาสร เข็มเพชร อายุ 7 ปี เหตุเกิดที่อ.เขมราฐ เด็กนั่งบนรถจักรยานยนต์รอแม่ จู่ ๆ มีรถกระบะเมาสุรา มีรถตัดหน้าพุ่งมาชน เวลา 14.57 น. วันที่ 28 ธันวาคม 2562
5.นส.วิภาพร วีระบัลย์ อายุ 19 ปี เหตุเกิดหน้าโชว์รูมเชฟโรเล็ต อ.เมือง นั่งจักรยานยนต์ซ้อนสามด้วยความเร็ว รถกระบะชนแล้วหนี เวลา 11.29 น. วันที่ 30 ธันวาคม 2562
6.นายวัฒนา ใสแสง อายุ 18 ปี เหตุเกิดโค้งดอนเสือ อ.พิบูลมังสาหาร ขับรถจักรยานยนต์ด้วยความเร็ว ชนกับรถกระบะ เวลา 16.10 น. วันที่ 30 ธันวาคม 2562
ขณะที่นักข่าวพลเมืองได้ตรวจสอบการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ ในช่วงเวลาเดียวกัน พบว่ามีการเสียชีวิตถึง 12 ราย ชื่อตรงกัน 6 รายมีที่ไม่ปรากฎในรายงาน 6 รายดังนี้
1.ไม่ทราบชื่อ รถเลขทะเบียน หษ9863 อบ. เหตุเกิดที่ อ.ศรีเมืองใหม่ รถล้มเอง เวลา 22.50 น. วันที่ 29 ธันวาคม 2562
2.นายคฑาวุฒิ รูปคม อายุ 29 ปี เหตุเกิดที่ ต.กระเดียน อ.ตระการพืชผล รถล้มเอง เวลา 11.30 น. วันที่ 29 ธันวาคม 2562
3.นายรัญทม วิสาท อายุ 60 ปี เหตุเกิดที่ ต.อ่างศิลา อ.พิบูลมังสาหาร ขี่จักรยานยนต์มาถูกรถยนต์ชน เวลา 10.00 น. วันที่ 29 ธันวาคม 2562
4.น.ส.จีรนันท์ กัณฑ์โย อายุ 17 ปี เหตุเกิดที่อ.สว่างวีระวงศ์ จักรยานยนต์ชนต้นไม้ เวลา 15.18 น.วันที่ 30 ธันวาคม 2562
5.นายวุฒินันท์ วงศ์ชำนาญ อายุ 22 ปี เหตุเกิดที่ ต.นาเลิง อ.ม่วงสามสิบ จักรยานยนต์ ล้มเอง เวลา 06.18 น. วันที่ 31 ธันวาคม 2562
6.นายปรีชา เจริญทัศน์ อายุ 17 ปี เหตุเกิดที่ ต.โคกสว่าง อ.สำโรง จักรยานยนต์ล้มเอง เวลา 08.30 น. วันที่ 31 ธันวาคม 2562
สำหรับเหตุผลที่ไม่มีการลงรายชื่อผู้เสียชีวิตอีก 6 รายดังกล่าว แหล่งข่าวกล่าวว่า เป็นเพราะ การนิยามการเกิดเหตุ เช่น อุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี จะไม่นับเป็นยอดผู้เสียชีวิตในเทศกาล หรือ บางกรณีไม่ได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ มาเสียชีวิตหลังรายงานตัวเลขแล้ว ก็ไม่นับ ให้ไปนับอีกทีหลัง 30 วันไปแล้ว หรือ บางกรณีก็เกิดจากเจ้าหน้าที่เกรงจะถูกเจ้านายตำหนิว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตสูง จึงตกลงร่วมกันว่าไม่นับ โดยเชื่อว่าจังหวัดอื่น ๆ ก็มีนิยามเช่นนี้เช่นกัน หากเราไม่ทำก็จะมียอดสูงกว่าจังหวัดอื่น ๆ ทำแบบนี้มาหลายสิบปีแล้ว ไม่รู้เรื่องกันเลยหรือ เอาจริง ๆ ควรเป็นข้อตกลงร่วมกันทั่วประเทศว่านิยามการนับตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างไร จึงจะไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกัน
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกท่าน หากเรายังใช้วิธีแก้ปัญหาแบบเดิม ๆ เราจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และโยนความผิดให้คนไทยไม่มีวินัย ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรแต่เพียงอย่างเดียว ทั้งที่เหตุที่เกิดขึ้นมีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย หากไม่ช่วยกันคิดวิธีใหม่ ๆ คนไทยก็ยังคงจะตายกลางถนนติดอันดับต้น ๆ ของโลกต่อไปอีกนาน
สุชัย เจริญมุขยนันท
