เพชรบูรณ์-สั่งผกก.-หน.จราจรทุกสภ.ทำการบ้าน สรุปข้อมูลอุบัติเหตุสงกรานต์ หาจุดบกพร่องหลังยอดเจ็บตายสูงลิ่ว เสนอ รรท.ผบก.ภ.เพชรบูรณ์
วันที่ 22 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีคำสั่งเด้ง พล.ต.ต.สัณห์ โพธิ์รักษา ผบก.ภ.จ.เพชรบูรณ์ ไปปฎิบัติหน้าที่ ศปอ.ตร. ด้วยสาเหตุหย่อนยานแก้จราจรช่วงสงกรานต์ล้มเหลว จนทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อเนื่องและมีผู้บาดเจ็บเสียชีวิตสูงขึ้น พร้อมมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.ภิญโญ หวลกสินธุ์ ผบก.ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทน (รรท.) ผบก.ภ.จ.เพชรบูรณ์ ล่าสุดมีรายงานว่า ทางตำรวจภูธรจ.เพชรบูรณ์มีคำสั่งไปยัง ผกก.และหน.จราจรของสภ.(รองผกก.หรือสว.) ให้เตรียมข้อมูลงานจราจรของแต่ละสภ.ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปี 2560 และปี 2561 พร้อมเปรียบเทียบสถิติการเกิดอุบัติเหตุ,จุดเสี่ยง,มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุ,วิเคราะห์สรุปบทเรียนและโครงการต่างๆของ สภ. เพื่อนำเสนอต่อ พล.ต.ต.ภิญโญ ในการประชุมในวันที่ 23 เมษายนนี้
แหล่งข่าวจากนายตำรวจระดับสูงในจ.เพชรบูรณ์รายหนึ่ง กล่าวว่า ในการสรุปและนำเสนอข้อมูลดังกล่าวเพื่อจะกลับมาดูเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนว่า ตรงไหนยังมีข้อบกพร่องหรือปัญหาทั้งที่มีการปฏิบัติงานกันอย่างเต็มที่แล้ว แต่ยังไม่สามารถลดการการเกิดอุบัติเหตุได้เป็นเพราะอะไร ทั้งที่มาตรการก็ดีแต่ทำไมผลที่ออกมาจึงเป็นตรงกันข้าม นี่คือสาระสำคัญในการประชุมวันที่ 23 เมษายนที่จะถึงนี้ ซึ่งไม่ได้เป็นการเช็คบิลในแต่ละ สภ.ตามกระแสข่าวลือ ซึ่งมีความคลาดเคลื่อนไม่เป็นความจริง
แหล่งข่าวจากนายตำรวจฯรายนี้กล่าวอีกว่า สำหรับยอดตายและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุสงกรานต์ปีนี้ ทางตำรวจก็ไม่มีคาดคิดผลจะออกมาแบบนี้ ส่วนสาเหตุหลักก็จะมาจากเมาสุราและขับรถเร็วรวมทั้งขาดความรับผิดชอบ ดังนั้นเมื่อขาดความรับผิดชอบก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นง่าย นอกจากนี้สมรรถนะของรถยนต์ในปัจจุบันนี้ค่อนข้างสูง ประกอบถนนดี ทำให้ขับรถเร็วและเมื่อขาดความรับผิดชอบ ก็เร่งทำความเร็วกันเต็มที่โดยไม่สนใจจะขัดต่อกฎระเบียบหรือกฎหมายหรือไม่
“นอกจากนี้โทษที่ได้รับค่อนข้างต่ำยิ่งรถมีประกันทำให้คนขับขี่ที่ขาดความรับผิดชอบเกิดความย่ามใจ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุประกันภัยจะรับผิดชอบไป หลังชดเชยค่าเสียหายโดยฝ่ายผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความและไปแถลงต่อศาล สุดท้ายส่วนใหญ่จะได้รับการลดโทษเหลือแค่รอการลงอาญา จนทำให้ผู้กระทำผิดไม่เกิดความรู้สึกกลัวเกรงต่อบทลงโทษ ฉะนั้นควรมีการแก้ไขกฎหมายเพิ่มโทษรุนแรงขึ้นและต้องติดคุกจริงๆ”แหล่งข่าวจากนายตำรวจฯกล่าวย้ำ
