X

จี้โรงแรมเขาค้อเร่งยื่นขออนุญาต-แจ้งให้ข้อมูล ตามคำสั่ง คสช.ที่ 6/2562 ผู้ประกอบการฯทุ่งสมอ-แคมป์สนยังเมินยื่นจดแจ้ง

เพชรบูรณ์-จี้โรงแรมเขาค้อเร่งยื่นขออนุญาต-แจ้งให้ข้อมูล ตามคำสั่ง คสช.ที่ 6/2562 ในขณะที่ตำบลทุ่งสมอ-แคมป์สน ผู้ประกอบการยังเมินยื่นจดแจ้ง

วันที่ 19 กรกฎาคม นายอำนาจ พูลยอด ปลัดอำเภอเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ กล่าวรายงานข้อเท็จจริงสภาพปัญหาโรงแรมในพื้นที่อำเภอเขาค้อ ในที่ประชุมขับเคลื่อนวาระสำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์(Morning Brief ต่อเนื่อง) มีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นประธานฯ โดยระบุว่า ในการสำรวจขณะนี้มีโรงแรม 673 แห่ง แต่จะมีข้อสรุปสุดท้ายในราวสัปดาห์หน้าว่าในพื้นที่เขาค้อมีเท่าไหร่ เพื่อจะได้แบ่งแยกว่าอยู่ในพื้นที่ป่าไม้ พ.ศ.2484, ป่าสงวนแห่งชาติ, เขตสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า, อุทยานแห่งชาติและที่ดินราชพัสดุ

นายอำนาจกล่าวว่า ส่วนผลการดำเนินงานที่ผ่านมาได้มีผู้ประกอบการที่อยู่ในข่ายทำธุรกิจโรงแรมและอยู่ในเขตพื้นที่ป่า ได้ยื่นแจ้งตามคำสั่ง หน.คสช.6/2562 ตามข้อ 5 ได้แก่ อบต.เขาค้อจำนวน 42 แห่ง, อบต.หนองแม่นา จำนวน 25 แห่ง, อบต.เข็กน้อย จำนวน 5 แห่ง ส่วนอบต.ทุ่งสมอและเทศบาลตำบลแคมป์สนมีผู้ประกอบการเพียงแค่สอบถาม แต่ยังไม่มีรายใดยื่นขอจดแจ้ง ซึ่งราวสัปดาห์จะมีการประชุมผู้ประกอบการของ 2 ตำบลนี้ เพื่อชี้แจงให้ผู้ประกอบการได้ทราบอีกครั้งเพื่อไม่ให้ตกขบวน ส่วนการแจ้งสถานที่พักที่ไม่เข้าข่ายเป็นโรงแรม โดยมีห้องพักไม่เกิน 4 ห้อง ซึ่งเข้าข้อยกเว้นตาม พ.ร.บ.โรงแรมนั้น มีจำนวนทั้งสิ้นรวม 185 แห่ง

นายอำนาจกล่าวอีกว่า สำหรับการแจ้งต่อผู้ประกอบการนั้นดำเนินการไปหมดแล้ว ทั้งในส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เหล่านี้ และยังทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการหากไม่อยู่ก็จะปิดประกาศไปพร้อม ส่วนของท้องถิ่นก็จะใช้วิธีส่งไปรษณีย์แบบตอบรับ เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการอ้างว่าไม่รู้ไม่ทราบ และหากได้ข้อมูลหมดแล้วก็จะมีการตรวจเช็คว่ามีการก่อสร้างก่อนปี 2541 และก่อสร้างระหว่างปี 2541-2557 และก่อสร้างหลังปี 2557 ส่วนที่อยู่ในเขตลุ่มน้ำก็คงจะแยกและจัดลำดับ โดยจะประสานงานป่าไม้เพื่อนำมาครอบลงในแผนที่

อย่างไรก็ตามนายสืบศักดิ์ได้ให้ความสนใจกับกรณีที่ผู้ประกอบการโรงแรม ในเขตพื้นที่ตำบลทุ่งสมอและตำบลแคมป์สน ยังไม่ยอมไปยื่นขอจดแจ้งขออนุญาตประกอบกิจการโรงแรมให้ถูกต้อง โดยนายอำนาจกล่าวชี้แจงว่า ในพื้นที่ 2 ตำบลนี้มีทั้งที่เป็นพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์และพื้นที่ป่ารวมทั้งที่ดินราชพัสดุ คาดการณ์ว่าทางผู้ประกอบการยังเห็นว่ายังอยู่ในเงื่อนเวลา 90 วัน โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 9 กันยายนนี้ จึงแค่ไปสอบถามข้อมูลแต่ยังไม่จดแจ้ง ซึ่งนายสืบศักดิ์กล่าวย้ำว่า เรื่องนี้ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายและตามระบบ แต่จำเป็นต้องทำ ไม่เช่นนั้นจะตกขบวนแล้วจะยุ่ง ก่อนหน้านี้ได้มอบให้ทางคณะทำงานโดยเฉพาะทางมรภ.เพชรบูรณ์ให้ช่วยวางระบบและแนวทางแก้ไขปัญหา เพื่อนำเสนอแต่ทั้งนี้อำนาจไม่ได้อยู่ที่จังหวัด

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน