X

ศปป.4 เดินหน้าสอบ ลูกสาวรอส.หุ้นส่วนตึกยักษ์เขาค้อ งงถูกจี้ถามเรื่องนายทุนอีกรายอ้างเป็นญาติจนรอดคดี

เพชรบูรณ์-ศปป.4 เดินหน้าสอบ ลูกสาวรอส.หุ้นส่วนตึกยักษ์เขาค้อ ยันบิดาไม่ได้ขายที่ดิน งงถูกจี้ถามเรื่องนายทุนอีกรายอ้างเป็นญาติจนรอดคดี  ด้านตร.ปัดไม่มีสัญญาร่วมทุนแค่เชิญ รอส.มาให้ปากคำและเซ็นชื่ออาจเข้าใจผิด

เวลา 15.30 น.วันที่ 7 มีนาคม ความคืบหน้ากรณีคณะเจ้าหน้าที่เตรียมหาหลักฐานเพื่อรื้อฟื้นคดีการก่อสร้างตึกยักษ์รีสอร์ทหรูกลางเขาค้อ หลังอัยการหล่มสักสั่งไม่ฟ้องโดยวินิจฉัยว่า รอส.เจ้าของที่ดินร่วมลงทุนกับผู้ต้องหาจึงไม่เป็นความผิดตามข้อกล่าวหา ล่าสุดที่ศูนย์อำนวยการ ชุดปฎิบัติการโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็กเขาค้อ พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฎิบัติการพิเศษ ศปป.4 กอ.รมน. พร้อมคณะจนท.ป่าไม้ ได้เดินทางมานางประจวบ แล้ภูเขียว ลูกจ้างประจำ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์ ลูกสาวนายละออ จีนใจตรง ราษฎรอาสาสมัคร(รอส.)เจ้าของที่ดินหุ้นส่วนตึกยักษ์รีสอร์ทมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาทกลางเขาค้อ  เพื่อสอบปากคำถึงสัญญาหรือข้อตกลงร่วมทุนซึ่งนายละอออ้างว่าได้ทำไว้กับนายทุน

ทั้งนี้นางประจวบให้การว่า ช่วงปี 2557 นายอภิชาหรือยุทธได้มาติดต่อสามีโดยมีผู้ใหญ่แพงเป็นคนพามาพบ โดยแจ้งว่าบอกว่าจะขอใช้ที่ดินสร้างสวนเกษตรห้องประชุมสำหรับให้คนมาท่องเที่ยว ทัศนศึกษา ไม่ทราบมาก่อนว่า จะมีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่เช่นที่ปรากฏในขณะนี้ โดยทางนายอภิชาหรือยุทธเสนอจ่ายเงินเป็นค่าดูแลบิดาเดือนละ 10,000 บาท โดยจ่ายให้มาแล้ว 120,000 บาท และถ้ามีกำไรในอนาคตจะจ่ายเพิ่มให้

นางประจวบกล่าวว่า ประมาณปี 2559 ตำรวจชื่อสงัดได้เชิญตัวบิดาไปพบเพื่อให้การเรื่องนี้ โดยตนเองไม่ได้เข้าไปภายในห้องเพราะถูกห้าม โดยทราบว่าบิดาได้เซ็นเอกสารบางอย่างแต่ไม่ทราบรายละเอียด ส่วนกรณีนางทองคำ บริรุ่งมงคล ตามสำนวนคดีที่อ้างเป็นญาตินั้น หลังสอบถามบิดาแล้วทราบว่าเป็นคนรู้จักกันโดยบิดาอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ โดยไม่มีการแบ่งผลประโยชน์เหมือนกรณีตึก 3 หลัง นอกจากนี้เนื่องจากครอบครัวไม่ได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินแปลงนี้เพราะมีความลาดชัน จึงได้ตอบรับข้อเสนอดังกล่าวไปเพราะมีเงื่อนไขที่ดีกว่า

อย่างไรก็ตามระหว่างพ.อ.พงษ์เพชรสอบถามถึงคดีนางทองคำซึ่งนายละออเป็นเจ้าของที่ดินเช่นกัน โดยนางทองคำถูกจับกุมดำเนินคดีพร้อมคดีตึกยักษ์และภายหลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง เพราะขาดเจตนาเพราะเนื่องจากผู้ต้องหาอ้างเป็นญาตินายละออ ปรากฏว่านางประจวบถึงกับแสดงอาการงงๆ จากนั้นจึงขอโทรศัพท์ไปสอบถามบิดาจนได้รับคำตอบว่าเป็นคนรู้จักและอยู่หมู่บ้านเดียวกันบิดา นอกจากนี้ขณะทางเจ้าหน้าที่ให้ลงชื่อในบันทึกให้ถ้อยคำนางประจวบมีท่าทีลังเลบ่ายเบี่ยง โดยแจ้งว่าเกรงจะถูกต่อว่าจากพี่น้อง จากนั้นยังยังขอใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายบันทึกภาพโดยอ้างว่าจะส่งไปให้น้องชายดูเพื่อความสบายใจทางเจ้าหน้าที่จึงแก้ไขบางถ้อยคำที่คิดว่าจะมีผลกระทบ จนทำให้นางประจวบยินยอมลงชื่อในบันทึกฯดังกล่าว

ข่าวแจ้งว่า หลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำนางประจวบแล้ว พ.อ.พงศ์เพชรยังโทรศัพท์ไปยัง สภ.เขาค้อ เพื่อสอบถามประเด็นเรื่องนายละออทำสัญญาร่วมทุนกับนายทุนตึกยักษ์เพื่อจะขอเป็นหลักฐาน ซึ่งได้รับแจ้งว่าไม่มีการทำสัญญาใดๆทั้งสิ้นมีแต่เพียงเชิญนายละออมาสอบปากคำในฐานะพยานเจ้าของที่ดิน และให้มีการเซ็นชื่อยืนยันคำให้การอาจทำให้นายละออเข้าใจผิด

DCIM100MEDIADJI_0040.JPG

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน