“พ.อ.พงษ์เพชร”นำคณะเจ้าหน้าที่ทลายแก๊งตัดไม้ที่น้ำหนาว พบไม้ถูกตัดโค่นจากอช.ภูผาม่านรอยต่อเลย-ขอนแก่น แฉมีใบสั่งนายทุนจ่อส่งออกนอกประเทศ
วันที่ 19 มิถุนายน พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.๔ กอ.รมน. กล่าวว่า ทางศปป.4 กอ.รมน.ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังเดินหน้าทวงคืนผืนป่าและทำลายขบวนการตัดป่าไม่ทำลายป่าในพื้นที่ภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 17-18 มิถุนายนที่ผ่านมา คณะเจ้าหน้าที่ ศปป.4 ประสานการปฏิบัติกับหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) โดยบูรณาการหน่วยงานเพื่อป้องกันและปราบปรามขบวนการค้าไม้มีค่าข้ามชาติในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ สรุปผลการปฏิบัติการ ดังนี้ออกหมายจับผู้ต้องหารวม 5 คน จับกุม 2 คนตามพ.ร.บ.อาวุธปืนและยาเสพติด.นอกจากนี้ยังตรวจยึดไม้รวม 24 ท่อน/แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตรรวม 3.03 ลบ.ม. ตรวจยึดรถไถ 2 คัน รถไถสีฟ้า ยี่ห้อฟอร์ด 1 คัน และรถไถสีส้มยี่ห้อคูโบต้า 1 คัน ตรวจยึดอาวุธปืนยาว 1 กระบอก
พ.อ.พงษ์เพชรกล่าวว่า ขบวนการทำไม้ที่น้ำหนาวทางเรามีการติดตามมาโดยตลอด ส่วนขบวนการนี้ถือเป็นแก๊งใหญ่และเป็นมืออาชีพ และในการจับกุมครั้งนี้หลังได้รับรายงานจากสายข่าวได้จัดเจ้าหน้าที่ไปซุ้มเฝ้าจับตา จากนั้นมีการขยายผลโดยมีการนำคณะเจ้าหน้าที่เข้าไปที่เป้าหมายเพื่อทำการตรวจสอบ จนพบผู้ต้องหาและเมื่อเค้นสอบปากคำทำให้ทราบว่า ไม้ชุดนี้ถูกลักลอบตัดและชักลากมาจากป่าอุทยานภูผาม่าน จ.เลย จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบตอไม้ โดยพบว่าพื้นที่ป่าบริเวณนี้เป็นรอยต่อระหว่างจ.เลยและจ.ขอนแก่น
“สำหรับพื้นที่ไม้ถูดตัดโค่นมีทั้งไม้ประดู่ ไม้ชิงชันและไม้พะยูง ซึ่งสภาพยังเป็นป่าที่ค่อนข้าวสมบูรณ์ และเนื่องจากเป็นพื้นที่รอยต่อคาบเกี่ยว 2 จังหว้ด จึงทำให้ทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานหรือเจ้าหน้าที่ป่าไม้เกิดการเกี่ยงกันเพราะถือว่าสุดเขตรับผิดชอบ ทำให้ขบวนการทำไม้อาศัยช่องว่างตรงนี้ลักลอบตัดไม้และทำไม้ และใช้รถไถเล็กลำเลียงออกมาพร้อมมีการรวมหมอนไว้ก่อนจะใช้รถไถใหญ่ชักลากออกมาอีกที จากนั้นจึงใช้รถปิ๊กอัพเคลื่อนย้ายหรือลำเลียงไม้ออกจากพื้นที่”พ.อ.พงษ์เพชรกล่าว
พ.อ.พงษ์เพชรกล่าวอีกว่า เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะไม่รู้ไม่เห็นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะมีทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานและหน่วยพิทักษ์อุทยาน เมื่อวานนี้จึงบรี๊ฟให้เจ้าหน้าที่ฟังว่าต้องช่วยกันไม่ใช่พื้นที่คาบเกี่ยวกันแต่ต่างฝ่ายต่างปัดไม่รับผิดชอบ และต้องเป็นหูเป็นตาคอยช่วยเหลือกัน แต่อย่างไรก็ตามปฏิบัติการเมื่อวานนี้มีการบูรณาการหน่วยงานต่างๆในพื้นที่เข้ามาช่วยกันอย่างเต็มที่ เพราะขบวนการตัดไม้ทำไม้กลุ่มนี้เป็นแก๊งใหญ่หากสกัดกั้นได้จะทำให้การลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในเขตพื้นที่น้ำหนาวจะเบาบางลง เพราะแก๊งอื่นส่วนใหญ่จะเป็นรองแก๊งนี้
หน.ชป.ศปป.4 กอ.รมน.ยังกล่าวอีกว่า สำหรับไม้ลอตนี้เป็นไม่เกรดเอ อายุไม่ต่ำกว่ากว่า 200 ปี และสังเกตจากการเลื่อยหนา 4 นิ้ว หน้ากว้างกว่า 70 ซม.ความยาวราว 210 ซม. เป็นไม้ที่ไม่มีตำหนิส่วนใหญ่จะเป็นไซต์ที่ทำส่งออกนอกประเทศ จากสายข่าวแจ้งว่าเป็นไม้ตามออเดอร์และก่อนจะนำไม้ออกมีนายทุนนั่งรถไปดูไม้ก่อน แต่ในเป้ของ 1 ในผู้ต้องที่มีการตรวจค้นพบเป็นเศษตัวอย่างไม้ขนาดราวฝ่ามือจำนวน 2 แผ่น เฉพาะเส้นทางไม้ตรงนี้ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบขยายผล และในการจับกุมแก๊งตัดนี้กลุ่มนี้พบว่า 1 ในผู้ต้องหามีการใข้ยาเสพติดด้วย
“ไม้ชุดนี้หากถูกลักลอบนำออกต่างประเทศได้จะมีมูลค่ามหาศาล 1 แผ่นคาดว่ามีมูลค่านับแสนบาท เมื่อวานนี้ทางเจ้าหน้าที่จับรถไถได้คันเดียว 13 แผ่น คิดดูจะมีมูลค่าเท่าไหร่ และยังมีไม้ที่ถูกตัดโค่นและถูกแปรรูปอีกบางส่วนที่ตกค้างอยู่ในป่า จึงกำชับให้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องป้องกันป่าผืนนี้ให้ได้ โดยเฉพาะรู้แล้วว่าขบวนการนี้และเส้นทางไม้จะต้องชักลากไม้ออกทางไหน”พ.อ.พงษ์เพชรกล่าวและว่า ก็เข้าใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ พอพ้นนอกพื้นที่เขตรับผิดชอบก็ไม่มีอำนาจที่จะติดตามได้ โดยเฉพาะขบวนการทำไม้มีการเชื่อมโยงหลายพื้นที่ และข้ามจังหวัด ซึ่งแก๊งทำไม้จะรู้ดีว่าจะใช้เส้นทางตรงไหนหลบหลีก หรือป่าโซนไหนทางเจ้าหน้าที่จะไม่ค่อยเข้าไปลาดตระเวณ
หน.ชป.ศปป.4 กอ.รมน. กล่าวว่า การจับกุมทุกคดีหากทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทำกันอย่างจริงจังผู้กระทำผิดก็จะไม่รอด ส่วนกรณีที่คดีไม่คืบทั้งทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้และอุทยานฯรวมทั้งทางชายฝั่งก็ต้องกลับมาดูว่า ขนาดชุดส่วนกลางลงไปทำยังได้ขนาดนี้ หากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เหล่านี้ทำอย่างจริงจัง ไม่มีนอกมีในหรือผลประโยชน์แอบแฝง เชื่อว่าจะทำได้ดีกว่านี้โดยเฉพาะแทบทุกคดีจะจับกุมได้เกือบหมด
