X

เกษตรกรโร่! แจ้งดำเนินคดี จนท.กองทุนฟื้นฟูฯรวมหัวสหกรณ์ หลังถูกทวงหนี้สินทั้งที่ไม่ได้ทำเรื่องกู้ยืม

เพชรบูรณ์-เกษตรกรโร่! แจ้งดำเนินคดี จนท.กองทุนฟื้นฟูฯรวมหัวสหกรณ์ หลังถูกทวงหนี้สินทั้งที่ไม่ได้ทำเรื่องกู้ยืม

เวลา 10.00 น.วันที่ 4 มีนาคม ที่สภ.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ นายหินชนวน  อโศกตระกูล หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดเพชรบูรณ์ นำเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์การเกษตรภูมิไทหล่มเก่าจำกัด, สหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตหล่มเก่าจำกัดและสหกรณ์มะขามหวานหล่มเก่าจำกัดจำนวนราว 40 คน รุดเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.หล่มเก่า หลังถูกทวงหนี้สินจากสำนักกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดเพชรบูรณ์ ทั้งที่ไม่ได้ทำเรื่องกู้ยืมกองทุนแต่อย่างใด และภายหลังตรวจพบเอกสารมีพิรุธถูกปลอมแปลงลายมือชื่อ

ทั้งนี้มีเกษตกรจำนวน 198 ราย ที่อยู่ในข่ายถูกปลอมปลอมแปลงเอกสารการกู้ยืมเงิน โดยมีวงเงินกว่า 43 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นทางตำรวจสภ.หล่มเก่ารับคดีไว้เพียง 20 รายก่อน โดยพ.ต.อ.ชินเดช ดีแท้ ผกก.สภ.หล่มเก่า พร้อมพ.ต.ท.จำเนียร คำวิเศษ รอง ผกก.สอบสวนฯ ได้ชี้แจงกับกลุ่มเกษตรกรและมีการตกลงโดยเบื้องต้นทางตำรวจรับคดีไว้ 20 รายส่วนที่เหลือให้ทยอยเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในภายหลัง ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะเร่งสอบปากคำ หลังจากนั้นก็จะสรุปสำนวนส่งให้ปปช.พิจารณารับเรื่องไปดำเนินการต่อ เหมือนคดีก่อนหน้านี้ซึ่งมีเกษตรกร 13 รายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ลักษณะเดียวกัน โดยทางพนักงานสอบสวนขอระยะเวลาราว 30 วันในการสรุปสำนวนส่งทางปปช.

นายหินชนวน อโศกตระกูล กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากว่าเกษตรกรและชาวบ้านได้รับใบแจ้งหนี้จากกองทุนฟื้นฟู แต่ชาวบ้านได้มาแจ้งว่าไม่ได้เป็นหนี้แต่อย่างใด  ตนจึงได้ทำการบันทึกข้อความพร้อมทั้งนำสัญญากู้ยืมมาให้ตรวจสอบ พบ ซึ่งชาวบ้านได้แจ้งว่าไม่ใช่ลายมือตนเอง จึงคาดว่าถูกปลอมแปลงรายมือชื่อ รวมทั้งนำเอกสารนำไปใช้ในสัญญาสำนักงาน จึงแนะนำให้เกษตรกรเดินทางมาแจ้งความ เพราะก่อนหน้านี้ได้มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นมาแล้วในพื้นที่อำเภอเขาค้อ มีเกษตรกรได้รับความเสียหาย 13 ราย ซึ่งขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินคดีอาญา

ด้านนางสง่า นาเมือง อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 5 ต.ฝายนาแซง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า เมื่อประมาณปลายปี 2558 ได้มีคนในหมู่บ้านเดียวกันได้มาชักชวนเพื่อที่จะกู้เงินฟื้นฟูจำนวน 1 หมื่นบาท พร้อมทั้งขอสำเนาเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านตนจึงมอบให้ไปพร้อมกับรับรองสำเนาถูกต้อง แต่ไม่ได้เซ็นต์สัญญากู้ใดๆ ทั้งสิ้น แต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้มีหนังสือจากกองทุนฟื้นฟูแจ้งมาว่าตนเป็นหนี้จำนวน 75,000 บาท รู้สึกตกใจมากจึงได้ปรึกษากับลูกๆ เดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่กองทุน จึงได้พบว่าถูกปลอมแปลงรายมือชื่อเพื่อขอกู้เงินกับกองทุนฟื้นฟูดังกล่าว

นางสมจิตร เกตุสำเนา อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/72 หมู่ 11 ต.น้ำก้อ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้มีอดีตเจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งหนึ่งมาชักชวนให้กู้เงินกับสหกรณ์อำเภอหล่มเก่าและจะเป็นผู้เดินเรื่องให้ ตนจึงได้มอบสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมรับรองสำเนาถูกต้องมอบให้ไป จากนั้นอีก 2 อาทิตย์ตนได้ไปทวงถามได้คำตอบว่าสหกรณ์ไม่อนุมัติ ตนจึงขอเอกสารคืนแต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงและผลัดมาโดยตลอด กระทั่งมีหนังสือแจ้งว่าตนเป็นหนี้อยู่กับกองทุนฟื้นฟูจังหวัดเพชรบูรณ์จำนวนหนึ่ง จึงเดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่

 

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน