X

ผจก.บ.อีโค่ฯ เผยบริษัทฯได้บทเรียน ขออภัยประชาชนทำให้กังวลใจ

เพชรบูรณ์ –ผจก.บ.อีโค่ฯ เผยบริษัทฯได้บทเรียน รับปากจะระมัดระวังให้มากขึ้น ขออภัยประชาชนทำให้กังวลใจ ย้ำบริษัทฯพร้อมมีส่วนร่วมนำเสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลก

วันที่ 2 มีนาคม นายนาวิน พรรณธรรม ผู้จัดการฝ่ายบริหารและมวลชนสัมพันธ์ บริษัทอีโค่โอเรียนท์รีซอสเซส(ประเทศ)จำกัด ให้สัมภาษณ์โดยชี้แจงถึงกรณีบริษัทฯชะลอโครงการขุดเจาะปิโตรเลียม(หลุมSTN-2)ใกล้แหล่งโบราณสถานสำคัญของอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งอยู่ระหว่างเสนอขึ้นบัญชีทะเบียนมรดกโลกว่า สาเหตุที่บริษัทฯตัดสินใจชะลอโครงการฯเนื่องเพราะเกิดจากเสียงท้วงติงและข้อห่วงใย จากการรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 หลังจากมีการรวบรวมข้อห่วงใยโดยเฉพาะกรณีที่จะเกิดผลกระทบต่อแหล่งโบราณสถาน และเกรงจะเป็นอุปสรรคต่อการนำเสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลก ซึ่งประเด็นทางบริษัทฯให้ความสำคัญในอันดับต้นๆจึงนำกลับมาทบทวนใหม่ ส่วนหลุมเจาะ ซึ่งอยู่ในเขตอ.วิเชียรบุรีไม่ได้มีผลกระทบก็ยังสามารถจะดำเนินการต่อไปได้

นายนาวินยังตอบข้อถามกรณียังมีเสียงความต้องการเรียกร้องให้บริษัทฯยกเลิกหลุมเจาะ STN-2 ไม่ควรแค่ชะลอเท่านั้นหากมีความจริงใจด้วยว่า  การชะลอก็คือการจะไปคุยกันเพราะการชะลอมีความหมายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้หลายอย่างเช่น หากไม่เหมาะสมขัดต่อการขึ้นทะเบียนมรดกโลกแน่นอนก็สามารถยกเลิกได้ หรือชะลอเพ่อจะหาพื้นที่ใหม่ที่เหมาะสมไม่กระทบแหล่งโบราณสถานและทุกฝ่ายยอมรับก็ได้ ก็มีเหตุผลหลายอย่างที่บริษัทฯจะทำได้จากการชะลอ แต่ถ้าหากบอกว่ายกเลิก  STN-2 ก็จะไม่มีชื่อในกระบวนการทำงาน แต่ถ้าเลื่อนไปบริเวณจุดพื้นที่ที่ไม่กระทบและทุกคนยอมรับได้ก็สามารถเดินหน้าต่อไป ฉะนั้นคำว่าชะลอจึงเป็นไปได้หลายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

“ตรงนี้ขอให้ทุกคนได้สบายใจได้ เพราะปกติในการสำรวจขุดเจาะก็คำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของชุมชนอยู่แล้ว และที่ผ่านมาเราก็อยู่ร่วมกันได้ด้วยดีไม่ได้มีปัญหาอะไรที่ชาวบ้านและชุมชนไม่ยอมรับ เพียงแต่ว่าฐานนี้เป็นประเด็นใกล้อุทยานใกล้เขาคลังนอกและจะขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย ทางบริษัทฯก็รับฟังและก็พร้อมปรับและชะลอแล้วตามที่หลายๆท่านเรียกร้องมา เพราะฉะนั้นในอนาคตให้สบายใจได้ซึ่งบริษัทจะนำไปเป็นบทเรียนแล้วก็จะระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น ก่อนจะดำเนินการในจุดอื่นโดยเฉพาะจุดที่มีความอ่อนไหวทางด้านต่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องศาสนาวัฒนธรรมและชุมชนรับปากจะระมัดระวังให้มากขึ้นขอให้สบายใจได้”นายนาวินกล่าว

เมื่อถามว่าบริษัทประกาศจะสนับสนุนการเสนอเมืองโบราณศรีขึ้นทะเบียนมรดกโลกมั่นใจแค่ไหน นายนาวินกล่าวว่า “ปกติกิจกรรมหรืองานในชุมชนหรือท้องถิ่นปกติทางบริษัทก็มีส่วนร่วมและให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ส่วนการสนับสนุนการขึ้นทะเบียนมรดกโลกก็เป็นความสำคัญ ที่ชาวเพชรบูรณ์มีความตั้งใจในการนำเสนอเมืองศรีเทพขึ้นทะเบียนมรดกโลกให้ได้ เราก็อยากจะมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ ไม่ทางใดทางหนึ่งถ้าบริษัทช่วยได้ก็ยินดีช่วยตามกำลัง ขอให้สบายใจได้”

นายนาวินตอบข้อถามว่ามีการสรุปบทเรียนจากเหตุการณ์นี้หรือไม่ นายนาวินกล่าวว่า ก็คงต้องใช้ความระมัดระวังให้มากๆ ก่อนที่จะกำหนดจุดที่จะขุดเจาะและก่อนที่จะมีการดำเนินการก็ต้องมานั่งคุยกับผู้เกี่ยวข้องให้มากขึ้น หรืออาจจะต้องปรึกษาหารือกันก่อนทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)ด้วยซ้ำไป ข้อนี้คงจะต้องนำมาปรับปรุงพัฒนาการทำงานของเราให้มากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหรือเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำขึ้นมากอีก

ผู้จัดการฝ่ายบริหารและมวลชนสัมพันธ์ บริษัทอีโค่โอเรียนท์รีซอสเซส(ประเทศ)จำกัด ยังกล่าวถึงสถานการณ์การขุดเจาะปิโตรเลียมของบริษัทด้วยว่า ในช่วงปลายปีถึงต้นปีที่ผ่านมาผลการผลิตรวมปิโตรเลียมทุกแปลงทุกหลุมเฉลี่ยอยู่ที่ราว  700-800 บาร์เลนต่อวัน ซึ่งลดลงไปเยอะมากหลังจากที่เคยเฉลี่ยนอยู่ที่ราว 1200-1300 บาร์เลนต่อวัน สนที่หายไปถือว่ามีผลต่อการดำเนินการของบริษัท ก็เลยเป็นสาเหตุทำให้บริษัทต้องหาแหล่งใหม่และก็ต้องผลิตปิโตรเลียมให้ได้ ซึ่งการหาแหล่งปิโตรเลียมแงใหม่ก็เป็นปกติของทุบริษัทนำมันอยู่แล้วที่จะต้องขยับขยายขึ้นอยู่เรื่อยๆ

นายนาวินกล่าวย้ำว่า “ต้องขออภัยชาวเพชรบูรณ์และประชาชนที่ติดตามข่าวเรื่องนี้ทั่วประเทศ ที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจและทำให้เกิดความห่วงกังวล ในเรื่องนี้ ณ วันนี้ทางบริษัทฯก็ได้รับฟังข้อคิดเห็นและก็ทบทวนโครงการแล้ว ก็ขอให้สบายใจได้ว่า การทบทวนหรือชะลอโครงการไม่ใช่ว่าพอทุกคนเผลอแล้วใน 3-6 เดือนจะกลับไปทำใหม่ ถ้าจะกลับไปทำใหม่หมายความว่าเราได้ศึกษาครบทุกด้านกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และมีความเห็นพ้องตรงกันให้ทำได้ไม่กระทบ และมีผลกระทบหรือเป็นอุปสรรคต่อการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน