X

“อาจารย์ชา”ยื่นค้านคำสั่งเพิกถอนโฉนด 57 แปลง อ้างขบวนการยังไม่สิ้นสุด ขู่ฟ้องสื่อหรือคนประโคมข่าว

เพชรบูรณ์-“อาจารย์ชา”ยื่นค้านคำสั่งกรมที่ดินเพิกถอนโฉนด 57 แปลง อ้างขบวนการยังไม่สิ้นสุด ขู่ฟ้องสื่อหรือคนประโคมข่าวให้ระวัง

วันที่ 31 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกรมที่ดินมีคำสั่งเพิกถอนโฉนดที่ดินบริเวณภูขี้ไก่ พื้นที่รอยต่อ อ.หล่มเก่า-อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 57 แปลง เนื้อที่ 2,195 ไร่ ล่าสุด นายอนัตต์ณังธะโคตร ญาณ์ธนโชติ หรือ“อาจารย์ชา” กล่าวชี้แจงว่า ไม่เกินความคาดหมาย รู้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้ แต่เมื่อเพิกถอนมาแล้วก็ได้ยื่นคัดค้านไปแล้ว แต่หากยังยืนกรานคำสั่งเดิมมาอีก ก็จะนำเรื่องขึ้นฟ้องต่อศาลปกครอง ตอนนี้เพิ่งเริ่มขบวนการแรกอยู่แต่เมื่อถึงศาลปกครองก็จะเป็นขบวนการสุดท้าย หากผลการตัดสิน ให้เพิกถอนตามคำสั่งกรมที่ดินเราก็จำเป็นจะต้องยอมรับ แต่ขั้นตอนต่อไปเราก็ต้องไปต่อสู้ตรงจุดอื่นตามความเหมาะสม แต่หากศาลตัดสินไม่เพิกศาลเราก็ทำตามเจตนารมณ์เดิมต่อเนื่องก็แค่นั้นเอง

นายอนัตต์ณังธะโคตร กล่าวว่า ตอนนี้อยากจะฝากสื่อต่างๆหรือคนที่ไม่เกี่ยวข้องก็ดี ถ้าเอาเรื่องราวเหล่านี้ไปประโคมข่าวให้คนเข้าใจผิดว่ามีการเพิกถอนโฉนดที่ดินแล้วอันนี้ต้องระวัง อาจารย์ก็ต้องทำตามกฎหมายอาจจะฟ้องร้องได้เกิดอาจทำเกิดความเสียหาย เพราะฉะนั้นอะไรจะเกิดขึ้นขอให้จบในขั้นตอนสุดท้ายก่อน แล้วค่อยมาว่ากันว่าใครผิดใครถูก ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่ามีใครผิดใครถูก แต่ก็มีคนบางกลุ่มนำเรื่องราวเหล่านี้ไปขยายผล ให้คนอื่นได้รับรู้โดยเข้าใจว่าเราเป็นฝ่ายผิดแล้ว โฉนดถูกเพิกถอนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจริงๆตรงนี้ยังไม่ใช่และยังไม่ได้ถึงขั้นตอนนั้น

อาจารย์ชากล่าวอีกว่า ต้องไปดูว่ากระบวนการเพิกถอนทั้งหมดนี้ อย่างเช่นกรมสืบสวนพิเศษหรือดีเอสไอเอาหลักฐานอะไรมาทำเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นอาจารย์จึงต้องสู้ไปทุกเรื่อง โดยคำสั่งของดีเอสไอก็ไม่ชอบเหมือนกัน เพราะมีการกล่าวหาว่าออกโฉนดโดยไม่ชอบ แต่จริงๆแล้วชอบไม่ชอบ เรามีหลักฐานอยู่แล้วเช่นกันเรื่องการออกโฉนด แต่คำสั่งเพิกถอนที่ออกมาอ้างภูเขาแล้วตรงไหนเป็นภูเขา ส่วนที่อ้างความลาดชันแล้วใครที่เป็นคนตรวจดูความลาดชันในตอนที่ออกโฉนดในครั้งนั้น ตรงนี้จึงเป็นขบวนการที่จะไปต่อสู้กันในชั้นศาล ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็มีหลักฐานต้องเอาไปโต้แย้งกัน ก็ต้องไปดูกันที่ศาลว่าจะลงเอยกันอย่างไร แต่ในตอนนี้ขอให้ทุกคนได้รู้ว่าขั้นตอนยังไม่ได้สิ้นสุด เพราะฉะนั้นอย่าไปพูดว่าที่ตรงนี้ถูกเพิกถอนแล้ว ซึ่งจะทำให้อาจารย์เกิดความเสียหายได้ เพราะขบวนการยังไม่ได้สิ้นสุดยังไม่ได้มีการเพิกถอนจริงๆ

นายอนัตต์ณังธะโคตร กล่าวย้ำว่า ขั้นตอนขณะนี้ยังเป็นแค่เพียงคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่เท่านั้น ส่วนใครจะผิดจะถูกก็ต้องไปว่ากันที่ศาล ซึ่งจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐทำผิด โดยเจ้าหน้าที่ที่ดินทำผิด ส่วนใดส่วนหนึ่งหรือเพราะดีเอสไอยังไม่รู้ แต่เค้าโครงดูแล้วเกิดจากความไม่เท่าเทียมในการตรวจสอบของดีเอสไอโดยที่อื่นบริเวณอื่นไม่ตรวจสอบ ตรวจสอบแต่ชื่อคุณปณิธาน(เจ้าของที่ดิน)เพียงอย่างเดียวหรือของคนอื่นที่คุณปณิธานขายไป เพราะฉะนั้นก็คงต้องไปสู้กันในชั้นศาลกันอีกที แต่ตอนนี้ยังไงอาจารย์ก็ยังมีสิทธิ์และกรรมสิทธิ์ กระทำการใดๆก็ได้ในสถานที่แห่งนี้ จนกว่าศาลจะมีคำสั่งหรือคำตัดสิน

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน