เพชรบูรณ์ – “ป่าเปลี่ยนสี” อันซีนน้ำหนาว มนต์เสน่ห์ทางธรรมชาติ ที่ชวนให้ไปสัมผัส
เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายปี ลมหนาวเริ่มพัดพาความสดชื่นมาเยือนธรรมชาติ ในขณะที่ผืนป่าเต็งรังที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมเปลี่ยนสีจากเขียวสดใส กลายเป็นสีเหลือง ส้ม และแดงเต็มภูเขา เสมือนภาพที่ราวกับถูกแต่งแต้มโดยจิตรกรผู้ชำนาญ
จนสร้างบรรยากาศอันสวยงามตราตรึงและมีเสน่ห์ ให้ธรรมชาติดูมีชีวิตชีวา จนสถานที่แห่งนี้ได้เป็นกลายเป็นจุดหมายปลายอีกแห่งในช่วงฤดูหนาวของนักเดินทางแบกเป้ รวมถึงผู้หลงไหลรักธรรมชาติ และรักการถ่ายภาพ จะเดินทางมาเยี่ยมเยือน
ข่าวน่าสนใจ:
ปรากฏการณ์ป่าเปลี่ยนสีเกิดขึ้นได้อย่างไร นับเป็นคำถามพื้นๆที่มักถูกตั้งคำถาม การเปลี่ยนสีของใบไม้ในฤดูหนาว เป็นผลมาจากการที่อุณหภูมิและปริมาณแสงลดลง ทำให้ต้นไม้ลดการผลิตคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ซึ่งเป็นสารที่ให้สีเขียวแก่ใบ เมื่อคลอโรฟิลล์ลดลง สารสีอื่นในใบไม้ เช่น แคโรทีนอยด์ (Carotenoids) ที่ให้สีเหลืองและแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) ที่ให้สีแดง เริ่มปรากฏออกมาแทน สร้างความหลากหลายของสีสันให้กับผืนป่า ซึ่งถือเป็นการเตรียมตัวของต้นไม้ในการเข้าสู่ช่วงพักตัวของฤดูหนาว ทำให้ป่าเต็งรังในอุทยานฯ เกิดการเปลี่ยนสีที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว มีผืนป่าเต็งรังครอบคลุมพื้นที่กว่า 20,000 ไร่ ซึ่งในช่วงฤดูหนาว ป่าทั้งหมดจะค่อยๆ เปลี่ยนสีไปตามธรรมชาติ โดยจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นปรากฏการณ์นี้ได้อย่างเต็มอิ่ม นอกจากจะอยู่ในพื้นที่อุทยานฯแล้ว ยังมีอีกหลายจุดที่กระจายอยู่ตามนอกพื้นที่ รอบๆเขตอุทยานฯน้ำหนาว การได้เห็นสีสันที่สวยงามของใบไม้เหล่านี้ ทำให้ธรรมชาติดูงดงามราวกับพรมธรรมชาติขนาดใหญ่ที่เปลี่ยนสีได้เอง จึงเป็นภาพที่ควรค่าแก่การบันทึกและเก็บความประทับใจอย่างยิ่ง
นายสมเกียติ กาติ๊บ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว กล่าวว่า ปรากฏการณ์ป่าเปลี่ยนสี โดยปกติจะเริ่มตั้งแต่ราวปลายเดือนธันวาคมจนถึงเดือนมกราคม ส่วนจะเปลี่ยนสีช้าหรือเร็วขึ้นอยู่ปัจจัยหลายด้าน ทั้งสภาพความชื้น ในอากาศและในดิน หากมีฝนตกจนทำให้ความชื้นในดินสูงการสลัดใบของต้นไม้เหล่านี้จะค่อนข้างช้า แต่หากฝนขาดช่วงหรือเกิดความแห้งแล้งมาก ธรรมชาติของต้นไม้เหล่านี้ก็จะสลัดทิ้งใบหรือผลัดใบค่อนข้างเร็ว
“โดยปกติตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปจะไม่มีฝนตก สภาพอากาศมีความหนาวเยือนเข้ามาเยือน จะทำให้สังเกตุเห็นป่าบางส่วนเริ่มเปลี่ยนสีจากเขียวไปเหลืองแบบประปราย ฉะนั้นในห้วงปลายพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม การเปลี่ยนสีของพรรณไม้เหล่านี้ จะเริ่มทยอยเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อยๆ จนปลายเดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนมกราคม ผืนป่าไม้เต็งรังเหล่านี้ จะทยอยเปลี่ยนสีจนเต็มทั้งผืน”
“เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาตินี้ 1 ปีจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวและนักเดินทางมาสัมผัสปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เป็นภาพที่น่ามหัศจรรย์ น่าตื่นตาตื่นใจ”นายสมเกียรติกล่าวทิ้งท้าย
โดยจุดชมวิวและเส้นทางที่ไม่ควรพลาด สำหรับการชื่นชมความงามของป่าเปลี่ยนสีที่น้ำหนาว โดยจุดชมหรือเส้นทางที่มีความสะดวกและปลอดภัย มีลานจอดรถและมีเส้นทางเดินป่าระยะทางสั้นๆ ได้แก่ ที่บริเวณหลังภูกงเกวียน หลักกิโลเมตรที่ 417 ทางหลวงหมายเลข 12 (หล่มสัก-ชุมแพ) โดยจุดนี้นอกจากเป็นจุดชมวิวที่สามารถสัมผัสและเห็นการเปลี่ยนสีของต้นไม้เต็งรังอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังเป็นจุดที่ชมความปรากฏการณ์ป่าเปลี่ยนสีของป่าทั้งผืนในระยะไกล ทำให้ได้บรรยากาศที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ ทั้งในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นอีกด้วย
สำหรับในการเดินทางยังอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว หากเดินทางโดยรถส่วนตัวจากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 21 (กรุงเทพ-หล่มสัก) โดยมุ่งหน้าสู่จังหวัดเพชรบูรณ์ และเมื่อถึงสี่แยกพ่อขุน อำเภอหล่มสัก เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 12 (หล่มสัก-ชุมแพ) โดยขับไปประมาณ 30 กิโลเมตร ก็จะถึงอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว นอกจากนี้ในการเดินทางยังใช้บริการรถโดยสารประจำทาง โดยมาลงที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.หล่มสัก จากนั้นต่อรถโดยสารประจำทางไปอำเภอชุมแพ ซึ่งจะผ่านอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว
โดยสรุป “ป่าเปลี่ยนสีที่น้ำหนาว” เป็นปรากฏการณ์ที่หาชมได้ยากในธรรมชาติ ความงดงามของป่าที่เปลี่ยนสีเป็นเฉดเหลือง ส้ม แดง และเขียว เป็นภาพที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ และทำให้ผู้ที่ได้มาเยือนหลงใหล การเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้ดื่มด่ำกับธรรมชาติอันงดงาม แต่ยังได้เก็บความทรงจำที่อบอุ่นและน่าประทับใจกลับไป
“นี่คือช่วงเวลาที่ธรรมชาติได้แสดงความงดงามออกมาอย่างเต็มที่ จึงท้าทายให้ออกเดินทาง เพื่อไปสำรวจและดื่มด่ำกับความงดงามที่ธรรมชาติได้มอบให้”
: สุนทร คงวราคม รายงาน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: