X

ศาลอุทธรณ์ภาค 6 ตัดสินคดีนายทุนโกงที่ดินตายาย ยืนตามศาลชั้นต้น จำคุก 2 ปีคืนโฉนด

เพชรบูรณ์-ศาลอุทธรณ์ภาค 6 ตัดสินคดีนายทุนโกงที่ดินตายาย ยืนตามศาลชั้นต้นจำคุก 2 ปีคืนโฉนด ด้านนายทุนหลบหนีไม่ไปศาล จนต้องอ่านคำพิพากษาลับหลัง

วันที่ 13 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้(12ธ.ค.) ที่ศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6 ในคดีหมายเลขที่ดำที่ 1050/2559 คดีหมายเลขแดงที่ 1170/2560 หลังจากพนักงานอัยการเป็นโจทก์ และนายสุเมธ อายุ 79 ปี ชาวบ้าน ต.ดงขุย อ.ชนแดน ซึ่งเป็นผู้พิการตาบอดเป็นโจทก์ร่วม ยื่นฟ้องนายปรีดา ปรางค์ชัยภูมิ เป็นจำเลยต่อศาลชั้นต้น ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอมและฉ้อโกง โดยศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาสั่งจำคุกนายปรีดา 2 ปี และให้คืนโฉนดที่ดิน หากคืนไม่ได้ให้ชดใช้เงินแก่ผู้เสียหายจำนวน 1.8 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ในการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ นายปรีดาจำเลยไม่ได้เดินทางมาศาล  หลังจากที่ก่อนหน้านี้ศาลได้ออกหมายจับนายปรีดา สาเหตุไม่ได้มาศาลตามนัดหมาย ทำให้มีการเลื่อนการอ่านคำพิพากษา กระทั่งเกิน 1 เดือนยังนำตัวจำเลยมาศาลไม่ได้ ผู้พิพากษาจึงอ่านคำพิพากษาศาลลับหลังจำเลย

(ภาพจากแฟ้มข่าว)

 

โดยศาลอุทธรณ์ภาค 6 ตัดสินพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264 วรรคแรก(เดิม),  268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 264 วรรคแรก(เดิม), 341 (เดิม) เมื่อจำเลยเป็นผู้ปลอมและใช้เอกสารปลอม ให้ลงโทษฐานใช้เอกสารปลอมตามมาตรา 268 วรรคแรก ประกอบมาตรา 264 วรรคแรก(เดิม) แต่กระทงเดียวตามมาตรา 268 วรรคสอง และความผิดฐานฉ้อโกงกับความผิดฐานใช้เอกสารปลอมเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ทั้งสองบทมีอัตราโทษเท่ากัน ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 268 วรรคแรก ประกอบ 264 วรรคแรก(เดิม) ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 ส่วนโทษ และนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น  ยกอุทธรณ์ของโจทก์ร่วมที่ขอให้ลงโทษจำเลยสถานหนักขึ้น

สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากนายสุเมธได้นำโฉนดที่ดินเนื้อที่ 19 ไร่ 46 ตารางวาไปจดจำนองไว้ หลังกู้เงิน 200,000 บาทจากญาตินายปรีดา แต่ภายหลังนายปรีดาได้ปลอมแปลงลายมือชื่อนายสุเมธในใบมอบอำนาจพร้อมไถ่ถอนที่ดินและขายที่ดินให้แก่ตนเอง กระทั่งนายสุเมธและภรรยาได้รับทราบในภายหลัง จนเข้าร้องทุกข์ต่อกระทรวงยุติธรรมและได้รับการยื่นมือช่วยเหลือ ต่อมาเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมได้นำนายสุเมธเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษนายปรีดาต่อพนักงานสอบสวน สภ.ชนแดน จนมีการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อนายสุเมธ กระทั่งผลการตรวจพิสูจน์ยืนยันไม่ใช่ลายมือชื่อนายสุเมธ ทางพนักงานอัยการจึงได้สั่งฟ้องฯ กระทั่งศาลชั้นต้นมีคำตัดสินดังกล่าว ต่อมาทั้งโจทก์ร่วมและจำเลยต่างยื่นอุทธรณ์กันทั้งสองฝ่าย

(ภาพจากแฟ้มข่าว)

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน