X

เลือกตั้ง66 : “เต้ มงคลกิตติ์”ยันพรรค ทศล.ไม่ยกเลิก ม.112 -ซื้อหุ้น ปตท.คืน ยุ ปชช.รับเงินทุกพรรคแต่ไม่ต้องเลือก

เลือกตั้ง66 : “เต้ มงคลกิตติ์”ยันพรรค ทศล.ไม่ยกเลิก ม.112 -ซื้อหุ้น ปตท.คืน ยุ ปชช.รับเงินทุกพรรคแต่ไม่ต้องเลือก

วันที่ 4 พ ค.66 นายมงคลกิตติ์ สุขสินารานนท์ หรือ “เต้ มงคลกิตติ์” หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ให้สัมภาษณ์ที่ จ.เพชรบูรณ์ โดยระบุว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งอยากให้ประชาชนตั้งสติว่า ปัจจุบันเรามีรายรับไม่พอรายจ่าย แต่การลงทุนขุดคลองไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายของพรรค ต้องใช้เวลาถึง 5 ปี กว่าเงินจะรีเทิร์นกลับมาต้องใช้เวลานาน แม้การท่องเที่ยวจะมีชาวต่างชาติเข้ามา 30 ล้านคนในปี 2566 ก็ตาม แต่สถานภาพคนมาเที่ยวต่ำกว่าปี 2562 เนื่องจากสถานการโควิด 19 ทำให้เงินของเราหายไปถึง 33% ด้วยกัน

“ดังนั้นการท่องเที่ยวจะกลับมาในช่วงปี 67 – 68 และรายได้จากการนำเข้าและส่งออกยังไม่เพียงพอ ซึ่งเราหาเงินก้อนอื่นๆ ในการดูแลประชาชนไม่ได้เลย จึงต้องหาเงินจากส่วยที่ผิดกฏหมาย คาสิโนเพื่อให้มีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ และยกเว้นกฏหมายที่มาที่ไปของเงิน เพื่อนำเงินในส่วนนี้มาดูแลประชาชนทุกภาคส่วน”นายมงคลกิตติ์กล่าว

นายมงคลกิตติ์ กล่าวถึงนโยบายค่าไฟว่า นโยบายค่าไฟเป็นอีกนโยบายที่สำคัญ ซึ่งตนเองเชื่อว่าพรรคการเมืองใหญ่ๆ ไม่มีใครกล้ายกเลิกซื้อไฟฟ้าส่วนเกินของเจ้าสัวพลังงานที่มีอิทธิพลในรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันเรามีพลังงานเกินกว่า 18,000 เมกะวัตต์ เรามีอยู่ทั้งสิ้น 51,000 เมกะวัตต์ แต่เราใช้เพียงแค่ 33,000 เมกะวัตต์ หากเรายกเลิกไปค่าไฟ เราจะลดประมาณ 70 สตางค์ต่อหน่วยด้วยกัน ซึ่งเรามีความจำเป็นที่จะต้องตัดสินใจในการซื้อหุ้น ปตท.คืนในช่วงนั้น

“เพราะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่แปรรูปรัฐวิสาหกิจ โดยการขายหุ้น ปตท.ไปในปี 2544 จำนวน 25% และปี 2549 อีก 24% รวมเป็น 49% ทำให้ราคาค่ากลั่นเฟ้อขึ้นมา ประมาณ 4 – 5 บาทต่อลิตร รวมทั้งสัมปทานในการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติทำให้เราต้องขายแพงให้กับโรงงานผลิตไฟฟ้าที่ต้องใช้ LNG เป็นต้นทุนการผลิตพลังงานไฟฟ้า เราจึงจำเป็นต้องโละทิ้งนโยบายเก่าๆ ของนายทักษิณให้หมด และเราต้องซื้อหุ้น ปตท. คืน หลังจากนั้นเราจะได้ค่ากลั่นลดลง และค่าก๊าซธรรมชาติลดลง ซึ่งจะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าไม่เกิน 4 บาทต่อหน่วย ซึ่งเราสามารถทำได้ หากเราไม่ทำแต่เป็นการนำเงินมาอุดหนุนเราต้องใช้เงิน 6 แสนล้านต่อปีซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย”นายมงคลกิตติ์กล่าว

นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ส่วนการลงทุนขนาดใหญ่เราต้องใช้เงินซึ่งต้องใช้เวลาหลายปี ประชาชนรอไม่ไหวขนาดนั้น ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องหาเงินจำนวนมากเพื่อนำเงินดังกล่าวมาใช้หนี้ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สร้างขึ้นมา 5.2 ล้านล้าน ในช่วงระยะเวลา 9 ปี เพราะหากไม่ใช้หนี้ ดอกเบี้ยปีละ 3 แสนกว่าล้าน ในช่วงโค้งสุดท้ายนี้จึงอยากให้ประชาชนเลือกที่นโยบาย และขณะนี้ในจังหวัดเพชรบูรณ์ก็มีการซื้อสิทธิ์ ขายเสียงกันจำนวนมาก และเงินเหล่านี้เป็นเงินที่ถูกโกงมาและเป้นเงินที่มาจากการทุจริตคอร์รัปชั่น จึงอยากฝากพี่น้องชาวเพชรบูรณ์รับเงินให้หมดทุกพรรคแต่ไม่ต้องเลือกพรรคที่ให้เงิน

นายมงคลกิตติ์ กล่าวถึงการยกเลิกมาตรา 112 โดยยืนยันว่า ไม่ยกเลิกอย่างแน่นอน รวมถึงจะรณรงค์ด้วยว่าใครก็ตามที่รณรงค์ให้ยกเลิกมาตรา 112 ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ และคนที่คิดจะเป็นกบฎต่อราชอาณาจักรไทย พรรคไทยศิวิไลย์จะต่อต้านอย่างถึงที่สุด สำหรับกระแสตอบรับส่วนใหญ่จะเป็นประชาชนช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไปที่มีกระแสตอบรับค่อนข้างเยอะ ส่วนคนที่ยังหลงผิดบางส่วน ที่ยังมีการรณรงค์ให้แก้ไข ยกเลิกมาตรา 112 ส่วนใหญ่เป็นประชาชนช่วงอายุ 18 – 30 ปี มีอยู่ถึงหลักล้านคนด้วยกัน แต่ถือว่ายังไม่แรงมาก ซึ่งหากทำความเข้าใจจริงๆ แล้ว น้องๆ ที่โดนคดี 112 ตนเองสามารถจัดการได้หากเป็นรัฐบาล

นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า โดยจะพูดคุยถึงกฏหมายมาตรา 112 จะทำปัญหาให้กับสังคมไทยและทำให้ประเทศไทยย้อนกลับไปเหมือน 40 ปีที่แล้ว คือปี 2516 ซึ่งคนกลุ่มนี้เกิดความไม่เข้าใจและมาบอกต่อ ดังนั้นต้องเข้าใจก่อนว่า เมื่อก่อนเรามีเรามีคอมมิวนิสต์เยอะ จนเกิดการสู้รบกันเอง ซึ่งอาสาสมัครทหารส่วนใหญ่คือฝ่ายที่ต่อต้านผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ แต่ปัจจุบันเป็นผู้ร่วยพัฒนาชาติไทยกันหมดแล้ว เพราะการปกครองประเทศไทยไม่มีอะไรเหมาะสมกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอยู่แล้ว

“เราไม่สามารถทำแบบสหรัฐอเมริกาได้เพราะเขาไม่มีรากเหง้า แต่ประเทศไทยของเรามีรากเหง้า มีบรรพบุรุษ มีพระมหากษัตริย์หลายสิบองค์ที่ทำให้เราอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นคนที่เป็นแกนนำทางความคิดซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ไม่สมควรที่จะคิดคดทรยศต่อแผ่นดินเกิดแบบนี้ รวมถึงชักชวนเยาวชนให้ร่วมด้วยเป็นสิ่งที่ไม่ดี”หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์กล่าว

นายมงคลกิตติ์ กล่าวถึงโพลต่างๆ ในขณะนี้ว่า ส่วนตัวมองว่าสิ่งที่เห็นตามโพล อาจจะไม่ได้เป็นไปตามความเป็นจริงในปัจจุบัน เนื่องจากกระแสในปัจจุบันที่ตนเองได้ลงพื้นที่มาโดยตลอดไม่ได้เป็นไปตามโพล เพราะตอนนี้มีขบวนการของพรรคการเมืองจ้างกลุ่ม IO กว่า 2,000 อัตรา และแต่ละอัตราถือคนละ 10 User ซึ่งการทำแบบนี้ในช่วงใกล้เลือกตั้งเป็นสิ่งที่ห้ามทำเพราะผิดกฏหมาย และการทำ IO ก็ถือว่าเป้นสิ่งที่ผิดกฏหมายอยู่แล้ว เช่นเดียวกับการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง และตนเองเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ได้สติว่าควรเลือก หรือไม่เลือกอะไรและรู้อยู่แล้วว่าคนที่เอาเงินมาให้เป็นพวกที่โกงอยู่แล้ว ซึ่งนั่นไม่เรียกว่าผู้แทนราษฎรแต่คือโจร

นายมงคลกิตติ์ กล่าวถึงการเลือกตั้งล่วงหน้าด้วยว่า สำหรับเลือกตั้งล่วงหน้า ขอให้ประชาชนดูบัตรลงคะแนนดีๆ ว่าอย่าให้เปลี่ยนหีบ โดยเฉพาะบัตรเลือกตั้งที่มาจากต่างประเทศ ต้องช่วยกันดูแลดีๆ และอยากฝากให้ประชาชนเลือกในสิ่งที่ดีที่สุด และจะทำให้สังคมเปลี่ยนไปด้วยตัวมันเอง นักการเมืองจะไปต่อไม่ได้หากเงินหมด ฝากประชาชนรับเงินให้หมดในรอบนี้ ไม่ว่าจะเป็นนายทุนจากดูไบ หรือนายทุนจากสายทหารเก่าแก่ก็ตาม และชักดาบในช่วงลงคะแนนพร้อมกัน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน