เพชรบูรณ์-จับสึกทั้งวัด! หลังตรวจพบฉี่สีม่วงพระทั้งวัด ไม่เว้นเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่จับสึกทันที
วันที่ 28 พฤศจิกายน จังหวัดเพชรบูรณ์ยังเดินหน้าตรวจหาสารเสพติดตามโครงการ “รีเอกซเรย์” อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดวันนี้ ที่ อ.บึงสามพัน กำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ปกครอง ผู้นำหมู่บ้าน โรงพยาบาล ยังคงสนธิกำลังร่วมกัน ตรวจคัดกรองหาผู้เสพยาบ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำตัวผู้เสพไปเข้าสู่กระบวนการบำบัด หวังคืนคนดีกลับสู่สังคม ตามโครงการ”รีเอกซเรย์” โดยเป้าหมายเป็นเยาวชนกลุ่มเสี่ยง กลุ่มใช้แรงงาน คนงานตามโรงงาน ไม่เว้นแม่แต่พระสงฆ์ ในพื้นที่ อ.บึงสามพัน โดยคำสั่งการของ นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมกับ พลตำรวจตรี ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยการอำนวยการของนายสมพงษ์ ทองหนูนุ้ย นายอำเภอบึงสามพัน
ซึ่งหลังการตรวจสอบวัดแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ อ.บึงสามพัน พบพระภิกษุสงฆ์ทั้งวัด รวมไปถึงตัวเจ้าอาวาสวัดที่บวชมานานกว่า 10 พรรษาและพระภิกษุลูกวัดรวม 4 รูป ผลตรวจฉี่พบเป็นสีม่วง จึงต้องทำการจับสึกยกทั้งวัด ในขณะที่ชาวบ้านและบรรเาญาติโยมต่างพากันวุ่น กลัวว่าวัดจะร้างเพราะตอนนี้ไม่เหลือพระอยู่ในวัดแล้ว แถมในวัดยังมีทรัพย์สิน ที่ต้องดูแล รวมไปถึงแมวและหมาอีกกว่า 10 ตัวที่ต้องให้อาหาร จนทำให้ชาวบ้านต่างเป็นกังวลว่า จะไม่มีอาหารให้กับทั้ง สุนัข และ แมว ที่ถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้ในวัด ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการประสานไปยังเจ้าคณะอำเภอบึงสามพัน เพื่อขอให้จัดหาพระภิกษุมาจำที่วัดแห่งนี้ เพื่อให้ชาวบ้านได้ทำบุญ และไม่ให้กลายเป็นวัดร้างตามที่ชาวบ้านกำลังวิตก
พระครูสิริพัชโรภาส เจ้าคณะอำเภอบึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า เบื้องต้นพระภิกษุที่ตรวจพบฉี่ม่วงทั้งวัดดังกล่าวได้ลาสิกขาไปแล้ว ส่วนวัดที่ไม่มีใครดูแล ก็ต้องใข้กรรมการหมู่บ้านเข้าไปช่วยกันดูแลทรัพย์สินของวัด และให้มรรคทายกวัดช่วยดูแลหมาแมวไปก่อน ส่วนการจัดหาพระภิกษุให้ไปจำที่วัดสามารถดำเนินการ 2 ทาง โดยทางหนึ่งให้ชาวบ้านนิมนต์พระที่มีความเหมาะสมและศรัทธามาอยู่ และอีกทางเจ้าคณะตำบลแต่งตั้งพระเข้าไปรักษาการเจ้าอาวาสแทน หากได้เวลาพอสมควร เหมาะสม ก็จะประชุมเสนอ เพื่อแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสต่อไป แต่ทั้งนี้เบื้องต้นตอนนี้ก็ให้ทางกำนันผู้ใหญ่บ้านกรรมการหมู่บ้านช่วยกันดูแลไปก่อน
ด้านนายสมพงษ์ ทองหนูนุ้ย นายอำเภอบึงสามพันกล่าวว่า เคสนี้นอกจากจะสะท้อนใจแล้ว ยอมรับว่าไม่สบายใจค่อนข้างมาก แต่เรื่องยาเสพติดจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด และหากเราไม่ดำเนินการก็เหมือนทำลายพุทธศาสนาเอง ซึ่งประเด็นนี้ได้มีการชี้แจงให้ทางกรรมวัดและชาวบ้านได้เข้าใจแล้ว ส่วนเจ้าอาวาสและพระลูกวัดที่ตรวจพบยาเสพติด(ฉี่ม่วง) เราไม่ได้ดำเนินคดี เนื่องจากถือว่าเป็นผู้ป่วยและยอมเข้ารับการบำบัด
“ยอมรับว่าทำใจไม่ค่อยได้ และลำบากใจเพราะละเว้นไว้ไม่ได้ และไม่เคยคิดเลยว่าเราจะต้องสึกพระทั้งวัด และไม่เข้าใจว่าขนาดพระเจ้าอาวาสซึ่งบวชถึง 10 กว่าพรรษายังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดได้อย่างไร”นายสมพงษ์กล่าว
นายอำเภอบึงสามพันกล่าวว่า สำหรับโครงการนี้ได้ดำเนินการตรวจเอกซเรย์ทั้งชุมชุม วัด โรงเรียน สถานประกอบการและโรงงาน ฯลฯ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกๆฝ่าย ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมาระยะเวลา 3 เดือน โดยตรวจไปแล้วจำนวน 9 ตำบล 123 หมู่บ้าน เป้าหมาย 800 กว่าคนพบสารเสพติดราว 400 กว่าคน โดยขั้นตอนนี้อยู่ระหว่างนำเข้าศูนย์บำบัดทั้งหมด
