เพชรบูรณ์-2เครือข่ายอนุรักษ์ จี้ชุมชนธะธรรมชาติยุติทำลายป่าภูขี้ไก่-ระงับผุดโปรเจ็กสวนน้ำ ปธ.เครือข่ายป่าชุมชนฯงัดมือถือโชว์ภาพแผนที่ป่าโบ๋หนักกว่าป่าแหว่ง รองผู้ว่าฯย้ำสิ้นปีนี้น่าจะชัดเจน
วันที่ 2 พ.ย.61 เวลา 10.00 น. ตัวแทนเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพชรบูรณ์ (ทสม.)พร้อมด้วย เครือข่ายป่าชุมชนจังหวัดเพชรบูรณ์ เข้ายื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อยับยั้งการสร้างผลกระทบต่อพื้นที่ป่าของชุมชนธะธรรมชาติ บริเวณป่าภูขี้ไก่ อ.หล่มเก่า และหล่มสัก บนเนื้อที่ 1,800ไร่ โดยยื่นเรียกร้อง 5 ข้อ ยุติสร้างผลกระทบต่อป่าและสิ่งแวดล้อม จนกว่าดำเนินการทางกฎหมายจะแล้วเสร็จ, ก่อนผุดโปรเจ็กต์ยักษ์ให้ทำ EIA ก่อน,ให้มีการตรวจสอบโดยเร็ว เพื่อสร้างบรรทัดฐานใหม่,ให้ทุกภาคส่วนเฝ้าระวังการรุกป่าและเร่งฟื้นฟูป่าต้นน้ำให้กลับคืนสู่ความสมบูรณ์ของธรรมชาติ และให้กำลังใจคณะเจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจสอบในครั้งนี้
ทั้งนี้นายศักดา พิทักษ์ปาทาน ประธานเครือข่ายป่าชุมชนจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้งัดโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพร้อมเปิดภาพแผนที่ป่าแหว่งจากแผนที่กรูเกิลโชว์ นายพิเชษฐ บางณรงค์ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และพ.อ.ฐาวิรัตน์ ยางน้อย รองผอ.กอ.รมน.จังหวัดกลางวงประชุมหารือ โยชี้ให้เห็นว่าชุมชนธะธรรมชาติตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มีป่าสีเขียวล้อมรอบ ในขณะที่ป่าตรงกลางโบ๋หนักยิ่งกว่าป่าแหว่งอีก พร้อมตั้งข้อคำถามและข้อว่า“ออกโฉนดมาได้อย่างไรและมีความชอบธรรมหรือเปล่า” จนทำให้ทั้งนายพิเชฐและพ.อ.ฐาวิรัตน์ถึงกับอึ้ง!พูดไม่ออกจึงเพียงแต่ระบุว่า “อยู่ระหว่างการตรวจสอบ”
นอกจากนี้นายศักดายังจี้ให้ป่าไม้และที่ดินดูว่าถูกต้องหรือไม่ พร้อมตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ที่ดินทั้งหมด 50 กว่าแปลงมีถูกต้องอยู่ 7-8แปลง นอกนั้นไม่ถูกต้อง จริงๆแล้วคิดว่ามันน่าจะไม่ถูกต้องทั้งหมด ชาวบ้านตรงนั้นก็ต้องการที่ดินเยอะแยะทำไมออกไม่ได้ อยากให้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวของช่วยดูหน่อย ถ้าถูกต้องจริงก็ไม่ว่าอะไรแต่ต่อไปต้องออกให้กับชาวบ้านบ้างแบบนี้พวกเราไม่สามารถที่จะรับ
จากนั้นตัวแทนทั้งสองเครือข่ายฯได้รุดเข้าพบนายสาคร รุ่งเรือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อยื่นหนังสือและแถลงการณ์ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยนายสาครนอกจากจะชี้แจงถึงสาเหตุทำให้เกิดช่องว่างจนทำให้ออกโฉนดได้ นอกจากนี้ยังระบุว่า หลังกรมที่ดินตรวจสอบมาได้ระยะหนึ่งก็มั่นใจเพิกถอนได้ ตอนนี้จึงอยู่ในขบวนการเพิกถอนอยู่ แต่ต้องโอกาสผู้ที่มีส่วนได้เสียเข้ามาชี้แจง และขบวนการนี้มีระยะเวลา 60 วัน และยังต่อได้อีก 60 วัน แต่ทางกรมที่ดินกำชับมาเลยว่าถ้าไม่มีเหตุจริงๆก็ไม่ต่อโดยจะให้ดำเนินการให้เสร็จภายในปีนี้ ฉะนั้นจะได้ความชัดเจนภายในสิ้นปีนี้หรือก่อนปีใหม่นี้
