เพชรบูรณ์-บุกจับรุกป่าโครงการฟื้นฟูป่า พื้นที่เสี่ยงภัยฯ น้ำก้อ-น้ำชุนฯ เขาค้อ (ชมคลิป)
วันที่ 10 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วยหน้าที่ป่าไม้ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลแคมป์สน อ.เขาค้อและชุด กอ.รมน.นำโดย พันเอกพงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. สนธิกำลังบุกเข้าตรวจสอบการลักลอบบุกรุกป่าในโครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยน้้าก้อ-น้้าชุน
บริเวณบ้านทางแดง หมู่ที่ 7 ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2546 เพื่อป้องกันและบรรเทาการเสียหายจากเหตุการณ์ภัยธรรมชาติจำนวน 132,626 ไร่
จากการตรวจสอบพบพื้นที่ถูกแผ้วถาง เพื่อทำการเกษตร จำนวน 8 ไร่ 3 งาน พบไม้กระยาจำนวน 3 ท่อน
มีการก่อสร้างเพิงพักชั่วคราว 3 หลังห้องน้้า 1 หลัง หลังคามุงด้วยแผ่นเมธัลชีสที่เกิดเหตพบนายละเหย คงรอด อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/2 หมู่ที่ 2 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก โดยนายละเหย ให้การว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของนางชนัญชิดา มีแสง บุตรสาว พร้อมแสดงเอกสารการครอบครองต่อเจ้าหน้าที่ โดยนายระเหยยังให้การว่าตนได้มาตัดไม้มาทำเพิงพักชั่วคราว พร้อมห้องน้ำ และได้ว่าจ้างคนงานปลูกต้นโกโก้ อะโวคาโด้ ทุเรียนและพืชผักสวนครัว
อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารและฐานข้อมูลการสำรวจพื้นที่โครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้้าก้อน้้าชุน ปรากฏว่า มีชื่อนางชนัญชิดา มีแสง เป็นผู้ครอบครองจริงจำนวน 5 ไร่ 3 งาน แต่จากการตรวจสอบโดยละเอียด โดยนำค่าพิกัดมาขึ้นภาพถ่ายออโธสี ปี 2557 ปรากฎว่าไม่มีร่องรอยการทำกินต่อเนื่อง สภาพพื้นที่โดยรอบแปลงได้ฟื้นฟูตามธรรมชาติแล้วอีกทั้งยังมีการบุกรุกเพิ่มเติมอีก 3 ไร่และมีการตัดโค่นไม้หวงห้าม ซึ่งเจ้าหน้าที่เห็นว่า ผู้ครอบครองไม่ปฏิบัติตามมติ ครม.วันที่ 30 มิถุนายน 2541 จึงทำการตรวจยึดพร้อมคำนวณพื้นที่ที่บุกรุกยึดถือครอบครองทั้งหมดรวมทั้งที่ผ่อนผันตาม มติ ครม.30 มิ.ย.41รวมทั้งหมดจำนวน 8 ไร่ 3 งาน คิดเป็นค่าเสียหาย ประมาณ 601,231.57 บาท และทำบันทึกการจับกุมส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขาค้อ ดำเนินคดีต่อไป
