X

“ประสม”แฉแหลกอดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ ซื้อป่าเขาค้อสร้างรีสอร์ท “ชีวะภาพ”ขอตรวจสอบก่อนกรมไหน?

เพชรบูรณ์-“ประสม”แฉแหลกอดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ซื้อป่าเขาค้อ สร้างรีสอร์ทชื่อเดียวกับที่เกาะหลีเป๊ะ “ชีวะภาพ”ขอตรวจสอบก่อนกรมไหน?

วันที่ 10 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายจารึก ศรีอ่อน รองประธานคณะกมธ.ปปช.เป็นประธาน ร่วมกับทางตัวแทนส่วนราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นำโดยนายสาคค รุ่งเรือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และตัวแทนกรมป่าไม้ ซึ่งมีนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ร่วมชี้แจงที่ห้องประชุมอบต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อติดตามตรวจสอบข้อเท็จกรณีมีการร้องเรียนเรื่องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมาย ตามคำพิพากษาศาลปกครองกับโรงแรมรีสอร์ทในพื้นที่อำเภอเขาค้อและภูทับเบิก ซึ่งกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484, พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547

นายประสม ประคุณสุขใจ กรรมการผู้จัดการบริษัทเม้าส์เทนพาร์คอินเตอร์เนชั่นแนล กอล์ฟแอนท์รีสอร์ทจำกัด ในฐานะผู้ร้องเรียนและตัวแทนผู้ประกอบการโรงแรมรีสอร์ทที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย กล่าวว่า ได้ทำหนังสือร้องเรียนตั้งแต่มีโรงแรมจดทะเบียนถูกต้องเพียง 5 รายจนบัดนี้มี 62 ราย ส่วนโรงแรมรีสอร์ทที่ผิดกฎหมายเริ่มก่อสร้างและมีการขยายตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมาจนปัจจุบันมีจำนวนนับ 1,000 ราย สาเหตุเพราะเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลย

นายประสมยังหยิบยกประเด็นคำสั่ง คสช.ที่ 6/62 โดยกล่าวหาทางจังหวัดโดยนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ อ้างถึงอัยการจังหวัดให้ความเห็นถึงคำสั่งคสช.ฉบับนี้ให้ความคุ้มครองรีสอร์ทที่อยู่ในเขตป่า และยังให้อะลุ้มอะล่วยเพื่อให้ผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจต่อไปได้ 2 ปี ตนไปแจ้งความที่สภ.เขาค้อแต่ทราบว่ามีการแทรกแซงให้ชลอคดีทำให้คดีไม่คืบหน้า ปัจจุบันยังมีขบวนการจะทำที่ดินเขาค้อให้ถูกกฎหมายอีก

นายประสมกล่าวว่า ส่วนรายชื่อในการสำรวจ คทช.เขาค้อ มีชื่อนายทุน,อดีตข้าราชการและมีนามสกุลใหญ่โตอีกเยอะมาขอที่ดิน คทช. นอกจากนี้นายอำเภอเขาค้อก็ทราบดีว่ามีผู้ใต้บังคับบัญชามีรีสอร์ทบนเขาค้อโดยยังถูกจับกุมเมื่อปีที่แล้ว รวมทั้งคดีเจ้าของรีสอร์ทรายหนึ่งตำรวจส่งอัยการบอกว่าไม่พบตัวผู้ต้องหา แต่มีทั้งรูปถ่ายและตัวก็เห็นกันอยู่ แต่พอไปถึงอัยการบอกว่าไม่พบผู้ต้องหา วันนี้เสียดายไม่ได้มาหากมาจะชี้ให้จับกุม

“ยังได้ข้อมูลมาชัดเจนมีอดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้รายหนึ่งมาซื้อที่ดินและเปิดรีสอร์ทบนเขาค้อซึ่งเป็นชื่อเดียวกับรีสอร์ททึ่หลีเป๊ะ จ.สตูล โดยอดีตรองอธิบดีฯรายนี้ยังแบ่งขายที่ดิน 5 ไร่ให้กับนายทุนอีกราย ต่อมา 5 ไร่นี้ถูกดำเนินคดีแต่แปลงอดีตรองอธิบดีฯไม่ถูกดำเนินคดี แถมหม้อแปลงไฟฟ้าที่ยื่นขอใช้เป็นชื่อของคนใกล้ชิดอีกด้วย อย่างนี้จะถือว่าป่าไม้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มาตรา 157 หรือไม่ และยังยืนยันว่าอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดที่นี่แทบทุกคนมีที่ดินบนเขาค้อ โดยมีการนำมาถวายให้และช่วยขายให้ด้วย”นายประสมกล่าว

ทั้งนี้นายสาครกล่าวชี้แจงว่า เขาค้อเริ่มจากทหารขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้และนำพื้นทีไปจัดสรรให้ราษฎรอาสา แต่เมื่อปี 2562 ทางทหารส่งคืนพื้นที่ให้กรมป่าไม้พร้อมปัญหาที่ตามมา กรมป่าไม้กำหนดแผนงานว่าการบุกรุกหลังปี 2557 จะจับดำเนินคดีทุกราย เพราะมีคำสั่ง 64/57 ให้สำรวจราษฎรยากจนเพื่อเข้าสู่ขบวนการ คทช. ในการสำรวจใครอยู่ก่อนหรือหลังปี 2541 จะไปชี้เลยไม่ได้ต้องมีขบวนการสำรวจตามแผนที่ก่อน

นายสาครกล่าวว่า ถามว่าทำไมถึงจับหลังปี 2557 คำสั่ง คสช.ให้สำรวจว่าคนที่ครอบครองหลังปี 2557 เป็นผู้ยากไร้หรือเปล่า ถ้าครอบครองก่อนปี 2541 ถ้าว่ามีคุณสมบัติ แต่ระหว่างปี 2541-2557 จะให้เฉพาะผู้ยากไร้ ส่วนนายทุนก็แจ้งได้ตอนนี้ขบวนการจัดที่ดินยังไม่ถึง ยังอยู่ในช่วงการสำรวจอยู่ ทางกรมป่าไม้มีแผนทีปี 2545 และแผนที่ปี 2557 ในการสำรวจ หากครอบครอง 2541-2557 เป็นนายทุนก็ไม่จัดที่ดินให้อยู่แล้วและยังต้องมีขบวนการผลักดันออกนอกพื้นที่ การสำรวจของทางจังหวัดใช้วิธีประกาศในพื้นที่และผ่านอำเภอผ่านจังหวัดและทางเว็บไซต์สามารถร้องเรียนได้ เพื่อเป็นข้อมูลจะได้เนินการต่อไปโดยคนไหนที่ไม่มีสิทธิ์ก็จะจัดการต่อไป

“การแก้ไขโรงแรมตามคำสั่ง 6/62 ในฐานะจังหวัดและมีอัยการให้คำปรึกษาคิดว่าใช้วิธีสำรวจโรงแรมไม่ถูกกฎหมายมีมากน้อยเพียงไรและให้มาจดทะเบียนไม่ถูกต้องเพราะอะไร และเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาไป ทางจังหวัดไม่ได้ตัดสินใจเองแต่ตั้งคณะทำงานทางสถาบันการศึกษา จนมีแนวคิดเสนอว่าควรจะให้โรงแรมเหล่านี้ขออนุญาตให้ถูกตามกฎหมาย จริงๆ ปัญหาที่ดินเขาค้อไม่ได้มีเฉพาะภาคเอกชนอย่างเดียว ในส่วนราชการเองก็ก่อสร้างและใช้ประโยชน์ก่อนจะมีการขออนุญาต ซึ่งส่วนราชการเพิ่งได้รับการผ่อนผันเมื่อเร็วๆ นี้ ในส่วนภาคเอกชนเสนอปัญหาไปที่คทช.ส่วนกลางว่า ทางจังหวัดโดยคณะกรรมการมีความเห็นควรจะให้ผู้ประกอบการขออนุญาตตามมาตรา 16 ทางป่าไม้ก็มีกฎหมายอยู่แล้วให้ทางเอกชนสามารถขออนุญาตได้ แต่ คทช.จะเห็นด้วยหรือไม่ยังไม่มีการพิจารณา ซึ่งหากคทช.ไม่เห็นชอบตามแนวทางของจังหวัด และให้ดำเนินคดีทุกรายก็เป็นคำตอบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”

ด้านนายชีวะภาพกล่าวชี้แจงถึงกรณีที่นายประสมพาดพิงถึงอดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้มีที่ดินบนเขาค้อว่า ยังไม่ทราบว่าเป็นอดีตรองอธิบดีกรมไหน ต้องขอตรวจสอบก่อน ซึ่งในการบังคับใช้กฎหมายเมื่อได้รับข้อมูลแล้วก็จะมอบให้ทางชุดพยัคฆ์ไพรตรวจสอบไม่ต้องกลัว นอกจากนี้ต้องทำรายงานการสืบสวนสอบสวนก่อน ส่วนด้านนายชิต อินทรนก ผอ.สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพชรบูรณ์ ไดักล่าวปฏิเสธเช่นเดียวกันว่า ตลอดเวลาที่เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ป่าไม้และรับผิดชอบในตำแหน่ง ผอ.ศูนย์ป่าไม้และผอ.สจป.ที่ 4 พิษณุโลก ก่อนจะมารับตำแหน่ง ผอ.ทสจ.เพชรบูรณ์ไม่รู้ว่าอดีตรองอธิบดีรายนี้ว่ามาซื้อที่ดินบนเขาค้อ

อย่างไรก็ตามนายจารึก ศรีอ่อน รับปากจะนำข้อมูลทั้งหมดเสนอต่อคณะกรรมาธิการชุดใหญ่เพื่อพิจารณา ส่วนกรณีที่ประชาชนทำกินในพื้นที่ป่าไม่หรือป่าอุทยานฯ ก็ตามจะมีคณะทำงานมาพิสูจน์สิทธิ เขาค้อมีคดีเยอะมากมายเพราะยังไม่ได้พิสูจน์สิทธิขอให้ คทช.ตราเป็นกฎหมายให้เรียบร้อยก่อน

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน