X

กอ.รมน.สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย จับบุกรุกพื้นที่ป่าทำไร่ขิง บริเวณโครงการฟื้นฟูฯพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำก้อ-น้ำชุน

เพชรบูรณ์-กอ.รมน.สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย จับบุกรุกพื้นที่ป่าทำไร่ขิง บริเวณโครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำก้อ-ลุ่มน้ำชุน

วันที่ 6 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฎิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. ร่วมกับนายสมชาย ภิญโญชูโต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาค้อและหัวหน้าโครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำก้อ-ลุ่มน้ำชุน, นายเพิ่มศักดิ์ ดวงแก้ว หัวหน้าสายตรวจปราบปราบ สายที่ 3 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 และนายสมชาย ฉิมแย้ม ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ สนธิกำลังปฏิบัติการปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ พ.ศ.2484 ในพื้นที่โครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัย ลุ่มน้ำก้อ-ลุ่มน้ำชุน จ.เพชรบูรณ์ หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าพบการบุกรุกพื้นที่ป่าโดยใช้รถแทรกเตอร์ล้อยางขนาดใหญ่ 1 คันและมีคนงานประมาณ 20 คน กำลังบุกรุกพื้นที่ครอบครองของนายทุน ซึ่งเคยถูกตรวจยึดดำเนินคดีแล้ว เมื่อวันที่ 22 ม.ค.62 รวม 5 คดี พื้นที่รวม 3283-2-28 ไร่ สถานที่เกิดเหตุบริเวณพื้นที่ป่าห้วยเฮี้ย หมู่ที่ 6 ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า ซึ่งเป็นพื้นที่ในโครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำก้อ-น้ำชุน จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ตามมติคณะรัฐมนตรีหลังเกิดอุทกภัยมีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบรถกระบะจำนวน 5 คัน บรรทุกคนงานเต็มรถขับสวนเจ้าหน้าที่ออกมาเตรียมหลบหนีและพบรถไถ 1 คัน กำลังปรับพื้นที่บนภูเขา นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ยินเสียงเลื่อยโซ่ยนต์ทำงานอยู่ใกล้กับรถแทรกเตอร์ จึงติดตามไปจนพบเลื่อยโซ่ยนต์ 1 เครื่อง วางทิ้งไว้ใกล้กับไม้ที่ถูกตัดใหม่ๆ นอกจากนี้ยังพบคนงานราว 20 คนในสถานที่ดังกล่าวด้วย รวมที่ชาวม้งจำนวนราว 10 คน ซึ่งอ้างว่าได้รับว่าจ้างให้มาปลูกขิง

จากการสอบปากคำนายสุรชัย ใจเมธา อายุ 49 ปี ชาวต.วังบาล อ.หล่มเก่า คนขับรถแทรกเตอร์ล้อยางให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนรายหนึ่งให้มาไถปรับพื้นที่ และให้ติดต่อคนงานชาวม้งบ้านเข็กน้อยมาปลูกขิงไร่ละ 2,500 จึงนำรถไถของตนเองมาปรับพื้นที่บนภูเขารวม 3 แปลง ส่วนขิงพันธุ์ที่เตรียมจะมาปลูกนั้นซื้อมาจาก จ.เชียงใหม่ ที่กำลังจะนำไปปลูกที่ จ.แม่ฮ่องสอน แต่เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 จ.แม่ฮ่องสอนประกาศปิดจังหวัดไม่ให้เข้าพื้นที่ตน จึงจ้างรถขนย้ายขิงทั้งหมดมาขายให้นายทุนใช้ปลูกในพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว

ทั้งนี้เมื่อเจ้าหน้าที่สอบปากคำน.ส.อารีรัตน์ฯได้ให้การยอมรับว่า ที่ดินที่ถือครองได้รับมรดกจากบิดาซึ่งเสียชีวิตแล้วเมื่อปี 2530 และได้ว่าจ้างนายสุรชัยฯให้นำรถแทรกเตอร์มาปรับพื้นที่ซึ่งอยู่ติดกับแปลงที่นายสุรชัยฯ  เมื่อตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศปี 2545 พบว่าที่ดินของ นส.อารีรัตน์ยังอยู่ในขอบเขตแปลงที่ดินตามที่สำรวจไว้เดิม ส่วนคนงานชาวม้งที่มาสร้างเพิงพักในพื้นที่นั้นนส.อารีรัตน์รับว่าเป็นผู้จ้างและเป็นผู้อนุญาตให้มาพักชั่วคราวในระหว่างปลูกขิง โดยได้มอบหมายให้นายสุรชัยฯเป็นผู้ติดต่อว่าจ้างมาจาก บ.เข็กน้อย ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

ทางเจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อกล่าวหานายสุรชัยกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ม.54 และพ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 ม.4 พร้อมทำการตรวจยึดพื้นที่จำนวน 3 แปลงรวมเนื้อที่ 9-3-92 ไร่ ไร่คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 681,077บาท นอกจากนี้ยังตรวจยึดของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หล่มเก่า ดำเนินคดี ตามปจว.ข้อ 3 เวลา 23.34 น. คดีอาญาที่ 112/2563ยึดทรัพย์ที่ 68/2563 ลงวันที่ 5 เม.ย.63 จากนั้นยังแจ้งประสานให้ฝ่ายปกครองในพื้นที่ อ.หล่มสักเข้าตรวจคัดกรองและวัดไข้ชาวม้งและคนงานทั้งหมดด้วย

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน