X

อึ้ง!จับรุกป่าผุดรีสอร์ทบนเขาค้อ พบส่งชื่อหลานเป็นนอมินีเข้าโครงการ คทช. หวั่นมีการยัดไส้ชื่ออีกบาน “หน.ชป.ศปป4 กอ.รมน” เสนอให้ตรวจสอบก่อนกระทบนโยบายรัฐบาล

เพชรบูรณ์-อึ้ง!จับรุกป่าผุดรีสอร์ทบนเขาค้อ พบส่งชื่อหลานเป็นนอมินีเข้าโครงการ คทช. หวั่นมีการยัดไส้ชื่ออีกบาน “หน.ชป.ศปป4 กอ.รมน” เสนอให้ตรวจสอบก่อนกระทบโครงการ คทช.รัฐบาล

วันที่ 10 มีนามคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานว่า หลังจาก พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.นำกำลังชุดพยัคฆ์ไพรและป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.2(เขาค้อ) เข้าจับกุมการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาปางก่อและป่าวังชมภูเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา โดยพบผู้กระทำผิด 2 รายโดยรายแรกมีการใช้เครื่องจักรหนักขุดปรับร่องน้ำบนเขา นอกจากนี้อีกรายกำลังเร่งก่อสร้างอาคารเพื่อสร้างรีสอร์ทบนเขาค้อ โดยในรายนี้เจ้าของที่ดินเป็นข้าราชการพยาบาลรายหนึ่งที่อ.เมืองเพชรบูรณ์ จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าเมื่อปี 2558 ข้าราชการรายนี้ซื้อที่ดินมาจากทายาท รอส.เนื้อที่ 3-2-0 ไร่ ราคาไร่ละ 150,000 บาท และเมื่อปี 2562 ได้ส่งชื่อหลานชาย(นอมินี)ให้ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เสนอเข้าโครงการ คทช.ไปแล้ว จากนั้นจึงเริ่มปรับพื้นที่เพื่อก่อสร้าง

รายงานแจ้งอีกว่า หลังการจับกุม พ.อ.พงษ์เพชร ได้รายงานโดยตั้งข้อสังเกตไปยังต้นสังกัดถึงเพื่อให้พิจารณา โดยมีประเด็นสำคัญได้แก่ เจ้าของที่ดินแปลงนี้เป็นข้าราชการแต่กล้ามาซื้อที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ และกล้าลงทุนก่อสร้างอาคารทำธุรกิจรีสอร์ทและลานกางเต้นท์ เนื่องจากมั่นใจว่าเมื่อส่งรายชื่อหลานตน (นอมินี)เข้าโครงการ คทช.แล้วสามารถทำได้ ทั้งที่เจ้าของที่ดินเป็นข้าราชการ ไม่ใช่ผู้ยากไร้ และไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับการจัดที่ดินทำกินให้ตามมติ ครม.วันที่ 26 พ.ย.2561 และตามโครงการ คทช.แต่อย่างใด

ในรายงานของ พ.อ.พงษ์เพชรยังระบุอีกว่า โครงการคทช.ของรัฐบาล เป็นโครงการที่ดีในการช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ให้มีที่ดินทำกิน แต่การนำนโยบายของรัฐมาสู่การปฏิบัติในพื้นที่ อ.เขาค้อ และใน จ.เพชรบูรณ์ จะไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล หากมีการทุจริตของเจ้าหน้าที่ที่เป็นคณะกรรมการ คทช.ในพื้นที่ หรือมีการเรียกรับผลประโยชน์ เพื่อแลกกับการเสนอชื่อ เข้าโครงการ คทช.เช่น การนำชื่อนายทุน เจ้าของรีสอร์ทหรือโรงแรม หรือผู้ที่มาซื้อที่ดินต่อจาก รอส. หรือผู้ที่ทำผิดกฎหมายบุกรุกป่า หรือผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติ ยัดไส้เข้าไปในการสำรวจรายชื่อเสนอเข้าโครงการ คทช.เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีเรื่องร้องเรียนไปหลายหน่วยงานจำนวนมาก บางรายเป็นชาวบ้านผู้ยากไร้ในพื้นที่ได้เสนอรายชื่อเข้าโครงการ คทช.ตามกำหนด แต่ผู้ใหญ่บ้านไม่ยอมรับหรือมีกรณีนายทุนเสนอชื่อเป็นเจ้าของในแปลงที่ดินของชาวบ้านก่อน เมื่อชาวบ้านไปเสนอชื่อภายหลังผู้ใหญ่บ้านไม่ยอมรับอ้างว่าซ้ำซ้อนเป็นต้น

หากมีการนำเสนอรายชื่อสำรวจเข้าโครงการ คทช.ที่ไม่โปร่งใส และไม่เป็นธรรมบนพื้นที่ อ.เขาค้อ นำเข้ากรรมการจังหวัดเพชรบูรณ์พิจารณาอนุมัติแล้ว จะเกิดความเสียหายอย่างมากกับโครงการ คทช.และนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลให้การแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องล้มเหลว รวมทั้งเกิดเงื่อนไขในการบังคับใช้กฎหมายคือเกิดความไม่เป็นธรรมขึ้นในสังคม อันมีสาเหตุมาจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ทั้งนี้ หน.ชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน ยังมีข้อพิจารณาเห็นควรให้มีการตรวจสอบ คัดกรองและทบทวนรายชื่อที่สำรวจก่อนนำเสนอ เข้าโครงการ คทช.ของจังหวัดเพชรบูรณ์ ใหม่ทั้งหมด เพื่อความรอบคอบ พร้อมทั้งเปิดเผยรายชื่อที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการ คทช. เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบได้ก่อนที่จะอนุมัติต่อไป

ส่วนการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ เพื่อสร้างโรงแรม, รีสอร์ท และที่พักในรูปแบบต่างๆ บนเขาค้อ ที่ผ่านมา ประเด็นสำคัญที่ทำให้การแก้ไขปัญหาไม่ประสบผลสำเร็จ โดยไม่สามารถหยุดยั้งการบุกรุกใหม่ได้นั้น สรุป สาเหตุที่สำคัญมาจากเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบพื้นที่ ได้แก่ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้, กรมอุทยานฯ, ฝ่ายปกครอง, ทหาร, อปท. และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นๆ ปล่อยปละละเลยไม่จริงจังในการปฏิบัติหน้าที่ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้เนื่องจากมีการเรียกรับผลประโยชน์ ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง หรือเป็นผู้กระทำผิดเสียเอง เนื่องจากมีผลประโยชน์มหาศาล

ที่ผ่านมาการลงโทษเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดมีน้อยมาก เจ้าหน้าที่จึงไม่เกรงกลัว ควรมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าหน้าที่ เมื่อมีการทำผิดกฎหมายด้วยและควรพิจารณาไม่ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอยู่บนเขาค้อนานเกินไป จนสร้างอิทธิพลขึ้นในพื้นที่ ข้อสังเกตุ คือการบุกรุกใหม่โดยใช้เครื่องจักรกลหนัก และการบุกรุกรายใหญ่บนเขาค้อ ส่วนมากเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางจะเป็นผู้เข้ามาจับกุม

นอกจากนี้การบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพ เมื่อมีการจับกุมดำเนินคดี มีการวิ่งเต้นเจ้าหน้าที่ในขบวนการยุติธรรม ทั้งในชั้นตำรวจ และชั้นอัยการในการช่วยเหลือผู้กระทำผิด จึงทำให้คดีสำคัญ และคดีใหญ่ๆ หลายราย ไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายได้ ส่วนการบังคับคดีกรณีที่คดีถึงที่สุดแล้ว และศาลมีคำพิพากษาให้ตรวจยึดพื้นที่ หรือให้รื้อถอน หรือให้จำเลย และบริวารออกจากพื้นที่แล้ว เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และอุทยานฯ ที่ผ่านมาไม่มีการร้องขอบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษา ผู้กระทำผิดยังคงแสวงหาผลประโยชน์อยู่ในพื้นที่เหมือนปกติ

ในส่วนของผู้กระทำผิด ส่วนมากรู้ดีว่าการซื้อที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิบนเขาค้อ หรือการบุกรุกป่าใหม่เป็นการทำผิดกฎหมายแต่ได้รับคำแนะนำ และคำรับรองจากเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะผู้ใหญ่บ้าน, กำนัน, อบต.ให้การช่วยเหลือ และรู้เห็นในการซื้อขายที่ดินที่ผิดกฎหมาย โดยมีการเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม และถึงแม้จะถูกเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางเข้ามาจับกุม เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่ได้รับผลประโยชน์ จะเข้ามาดูแลช่วยเหลือเรื่องคดี และเนื่องจากการดำเนินคดีใช้เวลานานหลายปี ผู้กระทำผิดมีความคิดว่าสามารถกอบโกยผลประโยชน์ได้คุ้มค่ากับการลงทุน จึงไม่เกรงกลัวการกระทำผิด และการถูกจับกุมดำเนินคดี อีกทั้งยังเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ทำให้เกิดการลงทุนที่ผิดกฎหมายเลียนแบบ โดยมุ่งหวังแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่คำนึงถึงกฎกติกาบ้านเมืองและประโยชน์ส่วนรวมของชาติ

ข่าวยังแจ้งเพิ่มเติมด้วย ก่อนหน้าที่ทางจังหวัดเพชรบูรณ์ เดินหน้าจัดโครงการ คทช.ที่เขาค้อนั้น นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ รับปากกลางที่ประชุมว่า เพื่อความโปร่งใสพร้อมที่จะเปิดเผยรายชื่อผู้เข้าร่วม คทช.เขาค้อทุกราย โดยเฉพาะบนเว็บไซต์ของจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมกันตรวจสอบ แต่ปรากฎว่าถึงขณะนี้ยังไร้วี่แววการเปิดเผยรายชื่อดังกล่าว ในขณะที่มีสื่อและประชาชนบางรายร้องขอไปยังทางอำเภอเขาค้อหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงโดยอ้างว่าข้อมูลยังไม่สมบูรณ์ แต่ในทางตรงกันข้ามกับมีการนำรายชื่อเหล่านี้ไปปิดประกาศในหมู่บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน