วุฒิสภาลงพื้นที่ เร่งพัฒนาประชาธิปไตย สู่เยาวชนที่แปดริ้ว

วุฒิสภาลงพื้นที่ ทำงานกลุ่มเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยให้ยั่งยืน สู่เยาวชนที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยจัดเวทีให้มีการซักถามประกอบการเสวนา สร้างความรู้ความเข้าใจให้พลเมืองคนรุ่นใหม่ยุคต่อไป ได้เรียนรู้ถึงแก่นแท้ทางการปกครอง พร้อมรับฟังปัญหาโดยตรงจากพื้นที่ ก่อนสะท้อนเข้าสู่สภา

วันที่ 22 ส.ค.62 เวลา 09.00-15.00 น. ที่ห้องประชุมโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กลุ่มสมาชิกวุฒิสภา นำโดย พลเอกสิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 พร้อมด้วยคณะ สว.รวม 12 คน ได้เดินทางมาจัดเวทีเสวนาสร้างความรู้ความเข้าใจในการปกครองระบอบประชาธิปไตย สู่เด็กและเยาวชนจำนวนกว่า 300 คน

ตามโครงการส่งเสริมและสนับสนุนความเป็นพลเมืองของเยาวชนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยให้ยั่งยืน ระหว่างเวทีการเสวนาได้มีเยาวชนให้ความสนใจ ซักถามในประเด็นต่างๆ ถึงรูปแบบการปกครอง และพัฒนาการทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยมาตลอดระยะเวลากว่า 87 ปี จนมาถึงปัจจุบันนั้นมีการเปลี่ยนมาอย่างไร

และมีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญมาในแต่ละฉบับนั้นเป็นอย่างไร บทบาทหน้าที่ของ สว.และนักการเมืองมีหน้าที่อย่างไรบ้าง ในการพัฒนาประเทศ

ขณะที่ พลเอกสิงห์ศึก กล่าวว่า การลงพื้นที่ สว.พบประชาชน นั้นเป็นไปตามประกาศของคำสั่งข้าราชการวุฒิสภา และตามหลักของรัฐธรรมนูญที่สามารถดำเนินการได้ โดยนอกจากบทบาทหน้าที่ของวุฒิสภาที่กลั่นกรองกฎหมายแล้ว ยังมีหน้าที่ประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายที่ออกไปแล้วนั้น ว่ามีผลกระทบอย่างไรต่อประชาชนหรือไม่ เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงกฎหมาย

และรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ในบทเฉพาะการณ์ได้กำหนดให้วุฒิสภามีอำนาจหน้าที่ในการติดตามเสนอแนะ เร่งรัดในการปฏิรูปประเทศ เป็นเรื่องที่สำคัญ ถ้าหากเราไม่ลงมาพูดคุยเพื่อขอความคิดเห็นข้อเสนอแนะ และหากอยู่แต่ในสภาวุฒิสภา เราจะไม่รู้อะไรเลย จึงต้องมาลงพื้นที่เพื่อสัมผัสและแบ่งกลุ่มสมาชิกทั้งหมดเป็น 7 กลุ่ม เพื่อลงพื้นที่ในทุกภาคทั่วประเทศพร้อมๆ กัน และต่อเนื่องไปตามพื้นที่รับผิดชอบต่างๆ เป็นกลุ่มๆ ไปตลอด 5 ปี

โดยเป้าหมายที่เราจะต้องลงไปพบนั้น คือ พี่น้องประชาชน หน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน กลุ่มของการศึกษา คือ สถาบันการศึกษาเยาวชน และอื่นๆ ตลอดจนสื่อมวลชนด้วย ถือเป็นหน้าที่วัตถุประสงค์ที่เราลงมา เพื่อขอความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และจากการลงพื้นที่เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.แพร่ นั้น ปรากฏว่า พบนักเรียนคนรุ่นใหม่ไม่รู้ประวัติศาสตร์ ประวัติการปกครองทางการเมือง เด็กจะรู้น้อยมาก จนแทบจะไม่รู้เลย

การลงมาในวันนี้เมื่อเด็กนักเรียนที่นี่ มีคำถามว่าวุฒิสมาชิกนั้นมีหน้าที่ทำอะไร เราก็จะมาบอกว่าเราทำอะไรบ้าง เรามีหน้าที่ทำอะไรบ้าง และเราจะมาบอกว่าการปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น เป็นอย่างไร ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงเป็นอย่างไร อะไรคือ ประชาธิปไตย อะไรคือเผด็จการ อย่างน้อยจึงคิดว่าจะได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย พลเอกสิงห์ศึก กล่าว