X
ผลงาน 5 ปี

ประยุทธ์ เดินสายทัวร์ส่งท้ายรัฐบาล 5 ปี โผล่ดูศูนย์ทดสอบยานยนต์แปดริ้ว

ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินสายตะลอนทัวร์ตรวจราชการส่งท้ายตำแหน่งผู้นำรัฐบาล หลังนั่งบริหารประเทศมานาน 5 ปี โผล่ดูศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติที่แปดริ้ว เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน เผยหากแล้วเสร็จเงินสะพัดเข้าประเทศทันทีกว่า 1 พันล้านบาท

วันที่ 20 มี.ค.62 เวลา 13.20 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อติดตามความคืบหน้าศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (Automotive and Tyre Testing , Research and Innovation Center – ATTRIC) ที่บริเวณสวนป่าลาดกระทิง ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นศูนย์ทดสอบยานยนต์แห่งแรกในอาเซียน

ตะลอนทัวร์แปดริ้ว

โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านยานยนต์และยางล้อของอาเซียน ซึ่งหากแล้วเสร็จภายในปี 2562 นี้จะสามารถดึงเม็ดเงินลงทุนในธุรกิจต่อเนื่องได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

เดินสายทัวร์

สำหรับโครงการก่อสร้างศูนย์ทดสอบยานยนต์แห่งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ เมื่อวันที่ 29 มี.ค.59 ในกรอบวงเงิน 3,705.7 ล้านบาท โดยรัฐเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด ดำเนินการก่อสร้างแบ่งออกเป็น 2 ระยะ

เป็นหนึ่งเดียวในอาเซียน

โดยระยะที่ 1 เป็นส่วนทดสอบยางล้อตามมาตรฐาน UN R117 และระยะที่ 2 เป็นส่วนทดสอบยานยนต์และชิ้นส่วน ระยะเวลาการดำเนินการ 5 ปี บนพื้นที่ 1,234.98 ไร่ เพื่อให้บริการทดสอบและรับรองผลิตภัณฑ์ยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และยางล้อตามมาตรฐานสากล

โผล่แปดริ้ว

ซึ่งในส่วนทดสอบยางล้อตามมาตรฐาน UN R117 ประกอบด้วย สนามทดสอบยางล้อ เพื่อใช้ทดสอบยางล้อในรายการเสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน และการยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก ขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ และได้รับการรับรองจาก Applus+IDIADA ราชอาณาจักรสเปน และเป็นไปตามมาตรฐานที่ยอมรับในระดับสากล ขณะที่ส่วนของห้องปฏิบัติการทดสอบเพื่อใช้ทดสอบยางล้อ ในการทดสอบความต้านทานการหมุน และอาคารสำนักงานจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปลายปีนี้

ติดตามดูสนามทดสอบยานยนต์

สำหรับโครงการระยะที่ 2 ส่วนทดสอบยานยนต์และชิ้นส่วน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2565 ขณะนี้ได้ออกแบบและปรับพื้นที่เสร็จแล้วเพื่อรองรับการก่อสร้างสนามทดสอบยานยนต์และชิ้นส่วน รวม 5 สนาม คือ สนามทดสอบระบบเบรก (Brake Performance) สนามทดสอบระบบเบรกมือ (Park Brake) สนามทดสอบเชิงพลวัต (Dynamic Platform) สนามทดสอบการยึดเกาะถนนขณะเข้าโค้ง (Skid – Pad) สนามทดสอบสมรรถนะยานยนต์ (Long Distance and High Speed)

เชื่อสร้างรายได้พันล้านบาท

ซึ่งในวันนี้ พลเอกประยุทธ์ ได้มีการลงนามในเอกสารแสดงสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นโครงการศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ ระยะที่ 2 พร้อมได้ให้นโยบายในการดำเนินงานโครงการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ประกอบการยานยนต์ไทยว่า ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2565

ดูสนามทดสอบยานยนต์

โดยศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติแห่งนี้ เป็นกลไกสำคัญของประเทศไทย ในการช่วยเร่งรัดการพัฒนามาตรฐาน การวิจัยและนวัตกรรมของอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และยางล้อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อยกระดับให้เป็นอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการลดเวลาในการส่งทดสอบผลิตภัณฑ์ยานยนต์และชิ้นส่วนลง อย่างน้อย 2 เดือน

สนามทดสอบ

เนื่องจากไม่ต้องส่งไปทำการทดสอบยังที่ต่างประเทศอีกต่อไป จึงทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการทดสอบและการรับรองผลิตภัณฑ์ได้ถึงปีละ 119 ล้านบาท และยังช่วยดึงดูดนักลงทุนภาคอุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ทำให้เกิดปริมาณการใช้ยางพาราเพิ่มขึ้น อีกประมาณร้อยละ 40 หรือ 150,000 ตันต่อปี เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์แปรรูปยางพาราในประเทศ

เป็นการยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรชาวสวนยางได้อย่างยั่งยืนถึงกว่า 6 ล้านคน ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เกิดการจ้างงานในพื้นที่ ทั้งด้านช่างเทคนิคไม่น้อยกว่า 200 คน และด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกไม่น้อยกว่า 2,000 คน คิดเป็นรายได้ 500-1,000 ล้านบาทต่อปี

สนามทดสอบแห่งแรกในอาเซียน

นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการลงทุนในธุรกิจการค้าและธุรกิจต่อเนื่อง สร้างรายได้ในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี รวมถึงเป็นโครงสร้างพื้นฐานส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นประเทศเป้าหมายของการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าในอนาคตที่เอื้อให้เกิดการลงทุนในกิจกรรมการวิจัยและพัฒนายานยนต์ต้นแบบตามเป้าหมายที่สำคัญของอุตสาหกรรม S-Curveในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ด้วย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน