ผู้ตรวจราชการ “ใหญ่” ในนามนักเคลื่อนไหว บุกศาลากลางแปดริ้ว

ฉะเชิงเทรา – ผู้ตรวจราชการใหญ่ ในนามนักเคลื่อนไหวต่อต้านการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ อีอีซี บุกศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ก่อนลุยไล่ตรวจสอบถามหาข้าราชการระดับสูงแบบเช็คชื่อเรียงตัว ตั้งแต่ระดับผู้ว่าราชการจังหวัดยันหัวหน้าสำนักงาน ที่ไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่บนศาลากลาง ก่อนลงคลิปเผยแพร่สู่สังคมโซเชียลประจาน

วันที่ 14 ก.พ.62 เวลา 14.42 น. ผู้สื่อข่าวได้รับคลิปภาพที่มีการส่งต่อกันผ่านทางลิงค์ ในโลกสังคมโซเชียลที่ จ.ฉะเชิงเทราอย่างกว้างขวาง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 11 ก.พ.62 กรณีมีนักเคลื่อนไหวรายหนึ่ง ที่อ้างว่าจะเข้ามาติดตามเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการก่อตั้งนิคมอุสาหกรรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ อีอีซี ที่ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบ และเคยยื่นเรื่องไว้ต่อทางจังหวัดฉะเชิงเทราเมื่อกว่า 5 เดือนที่ผ่านมา

โดยจะขอเข้าพบตัว นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหัดฉะเชิงเทรา ด้วยการเดินขึ้นไปไล่ชี้ตัวเพื่อขอเข้าพบข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัด ยังที่บริเวณบอร์ดแสดงโครงสร้างอัตรากำลังของสำนักงานจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่บริเวณชั้น 3 ของอาคารศาลากลางจังหวัด พร้อมสอบถามต่อทางข้าราชการที่กำลังปฏิบัติหน้าที่และมายืนรายล้อมดูพฤติการณ์ของนักเคลื่อนไหวว่า นายระพี ผ่องบุพกิจ นั้นไปไหนเหตุใดไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่

ซึ่งข้าราชการที่มายืนอยู่ได้ตอบว่าไปร่วมประชุมที่ทำเนียบ จากนั้นนักเคลื่อนไหวจึงได้ไล่ถามไปทีละคนถึงยัง นายประสงค์ คงเคารพธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดคนที่ 1 ซึ่งข้าราชการที่มายืนอยู่นั้นตอบไม่ได้ว่าไปไหน ก่อนที่จะถามไปถึงนายวรพจน์ แววสิงห์งาม รองผู้ว่าฯ คนที่ 2 โดยอ้างว่าเมื่อกี้ยังได้พบตัวอยู่แต่กลับเดินหลบหน้าหนีประชาชนที่จะมาขอเข้าพบไป

จากนั้นจึงได้ไล่ถามหา นางสาวประภาศรี พิษณุพงควิชา หัวหน้าสำนักงานจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งไม่อยู่ที่สำนักงานอีกเช่นเดียวกัน โดยข้าราชการที่มายืนอยู่ได้ระบุว่า ไปเข้าร่วมการประชุมรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชน เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างขยายถนนทางหลวงชนบทในพื้นที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว พร้อมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดยังโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา

แต่นักเคลื่อนไหวรายดังกล่าวยังไม่เชื่อ ก่อนที่จะเดินบุกเข้าไปยังภายในสำนักงานจังหวัดเพื่อติดตามเดินค้นหาตัวหัวหน้าสำนักงานจังหวัดยังภายในห้องทำงาน พร้อมกับมีการใช้โทรศัพท์ให้ผู้ติดตามถ่ายคลิปไว้โดยตลอดเวลา ก่อนที่จะเดินขึ้นไปถึงยังหน้าห้องผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อจะขอนัดหมายวันเวลาเข้าพบยังที่ชั้น 4 ของอาคารศาลากลาง

โดยได้ให้เจ้าหน้าที่หน้าห้องเปิดดูตารางการนัดหมายของผู้ว่าฯ ว่าจะไปทำอะไรอยู่ที่ไหนอย่างไรบ้างพร้อมกับให้คนถ่ายคลิปภาพเอาไว้ และไล่ถามชื่อของเจ้าหน้าที่ในสำนักงานและขอหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่หน้าห้องในสำนักงานผู้ว่าทีละคน โดยอ้างว่าเพื่อจะนำไปไว้ใช้ในการติดตามนัดหมายประสานงานในการขอพบผู้ว่า

โดยตลอดการเดินขึ้นมาตั้งแต่ศูนย์ดำรงธรรมบริเวณชั้น 1 ของอาคารศาลากลาง มาจนถึงหน้าห้องผู้ว่าราชการจังหวัด นักเคลื่อนไหวรายนี้ได้พูดจาด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างลงน้ำเสียงในเชิงข่มขู่ และยังอ้างว่าไม่ได้ใช้อารมณ์แต่เป็นหลักการ ในระหว่างที่สนทนาโต้ตอบกับทางเจ้าหน้าที่ ทั้งยังด่าทอ โดยที่เจ้าหน้าที่ในสำนักงาน และ กอ.รมน.ได้พยายามที่จะพูดจาถ้อยทีถ้อยอาศัยด้วย ในลักษณะที่จะได้หาทางช่วยเหลือ กัน

แต่นักเคลื่อนไหวกลับชี้หน้าไปยังเจ้าหน้าที่นิติกรศูนย์ดำรงธรรมว่าช่วยเหลือแต่นายทุนในการปิดบังข้อมูล และท้าทายว่าหากอยากจะฟ้องก็ให้ฟ้องเลย พร้อมบอกอ้างว่าชาวบ้านถูกนายทุนขับไล่ที่ทำกิน เมื่อเจ้าหน้าที่ถามว่าหากเป็นที่ดินของเรา มีโฉนดของเราจะมาถูกขับไล่ได้อย่างไร แล้วเขาจะมีสิทธิอะไร ด้านนักเคลื่อนไหวตอบว่าเพราะเรามีสิทธิในฐานะผู้เช่า โดยอ้างว่าผู้เช่านั้นมีสิทธิมากกว่าผู้เป็นเจ้าของที่ดินอีก พร้อมบอกไล่ใส่หน้าเจ้าหน้าที่ด้วยว่า “หากคุณไม่รู้ ให้คุณกลับไปอ่านหนังสือ”

จนฝ่ายเจ้าหน้าที่เริ่มจะหมดความอดทน และพูดขึ้นว่า “อ๋อ.. ผมรู้แล้วว่าทำไมผู้ว่าจึงไม่คุยกับคุณ” ก่อนที่จะพยายามที่จะเดินฉากหลบออกไป จากนั้นนักเคลื่อนไหวจึงได้หันกับมาย้ำคำพูดของเจ้าหน้าที่ให้กับทางฝ่ายพรรคพวกที่มาด้วยกันฟัง และบอกว่าขอบคุณที่รู้ว่าคุณเป็นอะไร คุณเป็นอย่างไร ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่บางรายพูดว่าไปเถอะเขาจะทำงานกัน อย่ามาก่อกวน

จึงทำให้นักเคลื่อนไหวหันกลับมา ถามว่าคุณชื่ออะไรพร้อมกับให้พรรคพวกถ่ายคลิปไว้ และมีการถามย้ำชื่อซ้ำอยู่หลายครั้ง ก่อนที่จะเกิดการชุนละมุนกันขึ้นภายในสำนักงานหน้าห้องของผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราในที่สุด ก่อนที่ทางฝ่ายของนักเคลื่อนไหวจะเป็นผู้นำคลิปภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นออกมาเผยแพร่ ต่อเนื่องด้วยคลิปขณะเกิดการชุนละมุนขึ้นอีกหนึ่งคลิป

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนักเคลื่อนไหวรายนี้ ได้เคยนำชาวบ้านไปปิดประตูหอประชุมที่ว่าการ อ.บ้านโพธิ์ และขัดขวางเจ้าหน้าที่และชาวบ้านในการเข้ามาร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ครั้งที่ 3 ในโครงการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้าคอนเทรนเนอร์ หรือ ICD (ท่าเรือบก) หนองตันนก เมื่อวันที่ 26 ม.ค.62

และนำชาวบ้านจำนวน 20 คน เข้าไปป่วนการประชุมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เรื่อง แนวทางการจัดทำแผนผังการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ห้องเทพราช 3 โรงแรมซันธารา เวลเนส รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 8 ก.พ.62 ซึ่งมีคณะรองเลขาธิการ EEC น.ส.พจณี อรรถโรจน์ภิญโญ และ น.ส.ทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการนักธุรกิจ และประชาชนทั่วไปมาเข้าร่วมรับฟังเสนอแนะกว่า 500 คน

นอกจากนี้นักเคลื่อนไหวรายเดียวกันนี้ ยังมีการเดินสายนำพากลุ่มพรรคพวกไปชูป้ายคัดค้านและก่อความวุ่นวายในเวทีการประชุมรับฟังความคิดเห็นในโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ EEC อีกหลายแห่งหลายเวที จนทำให้การประชุมต้องล้มเหลวลงไปเกือบทุกเวที