ฉะเชิงเทรา – ธนชาต ป่วนหลังระบบรักษาความปลอดภัยจากศูนย์กลางใน กทม.แจ้งเตือนถูกโจรย่องบุกแบงค์กลางดึก หลัง จนท.เข้าตรวจสอบ ที่แท้เป็นพนักงานฝ่ายการตลาดทำสินเชื่อยู่ภายใน ขณะตำรวจตรวจสอบย้อนกลับต้นทางโยนกันวุ่น สุดท้ายยอมรับเป็นบริษัทผู้รับผิดชอบวางระบบ รปภ.ใหม่เป็นฝ่ายแจ้งเข้ามายังทางเจ้าหน้าตำรวจที่ให้ตรวจสอบ
วันที่ 27 ม.ค.62 เวลา 20.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นำโดย พ.ต.ท.วันชัย ประถม สวป. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวนจำนวนเกือบ 20 นาย ได้เข้าทำการปิดล้อมเข้าตรวจสอบบริเวณโดยรอบ ธนาคารธนชาตสาขาถนมหาจักพรรดิ์ (ฉะเชิงเทรา) บริเวณปากทางแยกเข้าศาลากลาง หลังได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา
ข่าวน่าสนใจ:
- นนทบุรี เก๋งซิ่งแข่งกัน เสียหลักพุ่งชนท้ายบรรทุก 10 ล้อ บาดเจ็บ 3 ราย รถเสียหาย 5 คัน
- นราธิวาส-BRN.ป่วนเชิงสัญลักษณ์! หลังพูดคุยชะงัก
- กาญจนบุรี หนุ่มใหญ่ซุกเฮโรอีน 24.5 กก. ในถังน้ำมันรถยนต์ แต่ไม่พ้นสายตา จนท. เผยหากทำสำเร็จได้ค่าจ้าง 8 หมื่นบาท
- ร.17 พัน.3 ปฎิบัติภารกิจ อ.เวียงป่าเป้า ช่วยเหลือประชาชนประสบภัย
ว่ามีคนร้ายจำนวน 1 คนบุกเข้าไปยังที่บริเวณชั้นสองของตัวสำนักงานธนาคารสาขาดังกล่าว ต่อมาได้มี น.ส.กัลยาณี หิรัญเกื้อ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/4 ม.3 ต.บ้านสร้าง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี พนักงานฝ่ายการตลาดของธนาคารดังกล่าวพร้อมแฟนหนุ่ม เดินลงมาจากรถยนต์เก๋งสวนตัวและเข้ามายังที่บริเวณประตูด้านหลังของตึกธนาคารพอดี
ก่อนที่จะเข้ามาพบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังเข้ามาทำการปิดล้อมตรวจสอบเหตุดังกล่าวอยู่ โดย น.ส.กัลยาณี กล่าวว่า หลังจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่ามีคนร้ายบุกเข้าไปยังภายในธนาคาร จึงรู้สึกตกใจ ก่อนที่จะโทรศัพท์เข้าไปสอบถามยัง นายจักรพันธุ์ พิมจักเสน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ม.8 ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.มหาสารคาม พนักงานฝ่ายการตลาดของทางธนาคารเช่นเดียวกัน ที่กำลังทำงานอยู่ภายในที่บริเวณชั้นสองของตัวอาคารว่ายังอยู่หรือไม่
โดย นายจักรพันธุ์ ได้ตอบกลับมาว่า ยังคงทำงานอยู่ที่ด้านบนจึงได้เรียกให้ลงมาพบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบย้อนกลับไปหายังต้นตอที่ได้รับแจ้งมาว่า ผู้แจ้งเหตุนั้นเป็นใคร ที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นในครั้งนี้ แต่ปรากฏว่าได้โทรศัพท์ไปสอบถามยังหมายเลขโทรศัพท์ต้นทางที่แจ้งเหตุมาหลายครั้ง แต่ผู้รับสายปลายทางต่างโยนกันไปมา
จนสุดท้ายจึงยอมรับว่าเป็นบริษัทที่ดูแลเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยของทางธนาคารเป็นผู้แจ้งเหตุเข้ามายังที่ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา เนื่องจากศูนย์รักษาความปลอดภัยได้รับสัญญาณเตือนภัยที่ศูนย์กลางในกรุงเทพดังขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ รปภ.ที่อยู่ในส่วนกลางนั้นเปิดกล้องวงจรปิดตรวจสอบดูและพบว่ามีชายลักษณะต้องสงสัย
รูปร่างท้วมสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น สวมกางเกงขาสั้น และในมือมีกระเป๋าถือใบใหญ่ปรากฏอยู่ที่บริเวณชั้นสองของธนาคาร ซึ่งรูปพรรณดังกล่าวนั้น ตรงกันกับลักษณะของนายจักรพันธุ์ ที่กำลังทำงานอยู่ภายในธนาคาร และในมือนั้นถือกระเป๋าเอกสารสินเชื่อของลูกค้าและอุปกรณ์เครื่องเขียนสำนักงานเดินอยู่ภายในธนาคารพอดี
ซึ่ง น.ส.กัลยาณี กล่าวว่า ตนกำลังจะกลับเข้ามาทำงานต่อยังที่ธนาคารพอดี หลังจากได้โทรศัพท์ติดต่อเข้ามาสอบถามนายจักรพันธุ์แล้วว่า ยังคงทำงานอยู่ภายในธนาคารตามปกติที่ฝ่ายการตลาดจะทำงานกันจนดึกเกือบทุกวัน เนื่องจากต้องนำเอกสารของลูกค้า เข้ามาคีย์ข้อมูลเข้าสู่ระบบของธนาคาร ซึ่งตนจะเข้ามาปริ้นงานเอกสารสินเชื่อของลูกค้าเพื่อตั้งเช็คในตอนรุ่งเช้าด้วยเช่นเดียวกัน น.ส.กัลยาณี กล่าว
ต่อมาในเวลา 21.05 น. นายมหิธร มิ่งแก้ว ผู้จัดการส่วนทีมงานขายฝ่ายการตลาดประจำสาขาฉะเชิงเทราแห่งนี้ จึงได้เดินทางมารับรองว่าพนักงานฝ่ายการตลาดนั้นจะเข้ามาทำงานจนดึกตามปกติ จนแทบไม่มีวันหยุด ทั้งในวันเสาร์-อาทิตย์ ก็ยังมาทำงานกัน และยังให้ข้อมูลว่า เมื่อประมาณ 2 วันก่อนได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยภายในธนาคารใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นระบบที่มีความละเอียดมากขึ้น เซนเซอร์มีความไวมากขึ้น จึงอาจทำให้สัญญาณเตือนภัยไปดังขึ้นยังที่ศูนย์กลางดังกล่าว นายมหิธร กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: