ฉะเชิงเทรา – ญาติเหยื่อตู้ทึบตีนผีระทม ต้องกู้เงินมาจัดงานสวดพระอภิธรรมศพ เผยไม่เคยเห็นแม้แต่เงาคู่กรณีและนายจ้าง รวมถึงบริษัทประกันภัยที่จะเข้ามาเยียวยาช่วยเหลือการจัดงาน ขณะหน่วยงานรัฐเงียบกริบทั้งที่เป็นอุบัติเหตุโศกนาฏกรรมที่เกิดความสูญเสียสูง หนำซ้ำผู้เคราะห์ร้ายยังทยอยสิ้นใจตายแบบเรียงตัวต่อคิวกันเข้าวัดมากถึง 4 ศพต่อเนื่อง ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 รายยังนอนฝ่าวิกฤตด้วยลมหายใจรวยริน
วันที่ 25 ก.ค.65 เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีรถบรรทุก 6 ล้อตู้ทึบลอบเข้าเมืองในชั่วโมงเร่งด่วน ก่อนมาประสบอุบัติเหตุพุ่งชนเข้ากับเสาไฟส่องสว่างทาง ทะลุข้ามเลนไปพลิกคว่ำทับรถยนต์กระบะที่มีผู้โดยสารมาบนด้านท้ายกระบะและคนขับรวม 6 คน เสียชีวิตคาที่ 1 ราย และไปสิ้นใจยังที่ รพ.อีก 1 ราย จากนั้นยังทยอยสิ้นใจต่อเนื่องกันเพิ่มอีก 2 ราย รวม 4 ราย ส่วนอีก 2 รายยังมีอาการสาหัส และยังทำให้มีรถยนต์เก๋งได้รับความเสียหายอีก 1 คัน
เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. ของวันที่ 20 ก.ค.65 ที่ผ่านมา บนถนนมหาจักรพรรดิ์ ใกล้กับยูเทิร์นกลับรถหน้ามัสยิสกลางฉะเชิงเทรา ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้าแล้วนั้น ในวันนี้ที่อาคารโดมฌาปนกิจสถานวัดชนะสงสาร ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีพิธีฌาปนกิจศพ นายอดุลย์ เพียรพิทักษ์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/3 ม.7 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์กระบะและเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ
ท่ามกลางบรรดาเหล่านักการเมืองท้องถิ่นและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคการเมืองชื่อดัง และตัวแทนจาก ส.ส. และอดีต ส.ส.มาเข้าร่วมงาน โดยมีชาวบ้านมาเข้าร่วมพิธีประมาณ 300 คน หลังพิธีประชุมเพลิง ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางปฏิภาณ ปรีชา อายุ 52 ปี ภรรยาของนายอดุลย์ว่า หลังสามีประสบอุบัติเหตุได้จัดพิธีสวดพระอภิธรรมศพมาเป็นเวลา 5 คืนแล้ว จึงได้มีพิธีฌาปนกิจในวันนี้
ขณะที่ทางฝ่ายของคู่กรณีนั้นตนเองยังไม่เคยได้เห็นหน้า และเขายังไม่เคยเข้ามาดูแลช่วยเหลืองานศพเลย รวมถึงบริษัทขนส่งผู้เป็นนายจ้างของเขาด้วย ขณะที่ตนนั้นต้องไปหากู้เงินมาจัดพิธีศพผู้เป็นสามีเองเพียงลำพังนับแสนบาท โดยนอกจากตนแล้วครอบครัวของช่างที่ไปทำงานต่อเติมบ้านด้วยกัน และเสียชีวิตเพิ่มเติมอีกรวมถึง 4 ศพนั้น ต่างก็พากันเดือดร้อนไปตามๆ กัน ที่ต้องไปหากู้ยืมเงินเขามาจัดงานพิธีศพกันทุกครอบครัว
ซึ่งบางรายได้มีพิธีฌาปนกิจไปก่อนหน้าแล้วที่วัดแห่งนี้ และที่วัดบางใหญ่ ขณะที่รายล่าสุดที่เพิ่งจะเสียชีวิตลงกำลังจะจัดพิธีฌาปนกิจที่วัดชนะสงสารแห่งนี้อีกเช่นเดียวกันรวมวัดเดียวกันเรียงกัน 3 ศพ ส่วนคนอื่นๆ ที่ยังเหลือนอนพักรักษาตัวอยู่ใน รพ.อีก 2 รายนั้นก็ยังอาการหนักแบบร่อแร่ไม่รู้จะรอดพ้นวิกฤตหรือไม่ จึงอยากเตือนสติคนใช้รถใช้ถนนว่าหากจะขับรถก็อย่าเมา สาเหตุนั้นทราบว่าฝ่ายคู่กรณีนั้นดื่มสุราอย่างหนักมาก่อนที่จะมาขับรถบรรทุกส่งสินค้า
ส่วนคนของเรานั้นขับมาอย่างถูกต้องตามเส้นทางของตนเอง แต่ต้องมากลายเป็นเหยื่อของคนดื่มสุราจนเมาแล้วมาขับรถ และถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับครอบครัวตน ที่จะหาสิ่งใดมาทดแทนไม่ได้อีกแล้ว เนื่องจากสามีนั้นเป็นเสาหลักของครอบครัวอยู่กินด้วยกันมานานเกือบ 40 ปี จนมีบุตรชายหญิงด้วยกัน 2 คน อีกทั้งเขายังเป็นคนดีที่ตั้งใจทำมาหากิน หาเงินเข้าบ้าน หาเลี้ยงครอบครัวตนจึงรักเขามาก
ซึ่งไม่เพียงแต่คนในครอบครัวที่รักใคร่เขา คนรอบข้างต่างก็รักใคร่เขาทั้งนั้น เพราะเขาเป็นคนดี เป็นที่นับหน้าถือตาของชาวบ้าน และยังเคยเป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านด้วย หลังจากนี้เท่ากับขาดเสาหลักของครอบครัวไป ขาดทั้งอาชีพขาดทั้งรายได้ นางปฏิภาณ กล่าว
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงความคืบหน้าทางคดีไปยัง ร.ต.ท.หญิง พิชามญช์ สะตะ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ร้อยเวรเจ้าของคดีเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุขณะนี้มียอดรวมผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจำนวน 4 รายแล้ว โดยเป็นคนขับและคนนั่งเบาะหน้าด้านซ้าย 2 ราย และนั่งมาบนกระบะรถด้านหลัง 2 ราย ส่วนการดำเนินคดีนั้นได้สอบปากคำนายชูชาติ บุญวงศ์ อายุ 48 ปี ชาว ต.บึงวิชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ คนขับรถบรรทุกคันต้นเหตุไปแล้ว
ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารหลักฐานให้เรียบร้อยก่อน จึงจะเรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนมูลเหตุของอุบัติเหตุนั้นยังไม่ทราบ เพราะต้องรอผลจากการตรวจพิสูจน์ต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อน เนื่องจากรูปคดีนั้นยังไม่ทราบว่าคนขับรถบรรทุกนั้นเมาสุรามาหรือไม่ จึงยังต้องรอผลจากการตรวจมาประกอบเป็นพยานหลักฐานก่อนที่จะสรุปว่าสาเหตุจริงๆ นั้นเกิดจากอะไร อย่างไรบ้าง ร.ต.ท.หญิง พิชามญช์ กล่าว
