X
ยังมีจระเข้อยู่

นาทีระทึก จระเข้งับขาป้ายังอยู่ที่เดิม หลังชาวบ้านย้อนดูที่เก่าเวลาเดิม

ฉะเชิงเทรา – นาทีระทึก จระเข้งับขาป้าวัย 64 ยังกลบดานอยู่ที่เดิม หลังชาวบ้านย้อนดูที่เก่าเวลาเดิมเห็นเต็มตา น้องสาวผู้ได้รับบาดเจ็บผู้ร่วมเหตุการณ์ยันพบเห็นลอยตัวนอนขอนเหนือน้ำ โผล่ให้เห็นหลังก่อนดำดิ่งกลบดานลงที่ใต้น้ำ เหตุจากผู้พบเห็นส่งเสียงร้องดังด้วยความตื่นเต้นตกใจ เพื่อร้องเรียกชวนกันมาดู ส่วนอาการผู้บาดเจ็บดีขึ้นตามลำดับหลังมีหลายหน่วยงานลงพื้นที่เข้าเยี่ยมดูแล

จุดเกิดเหตุ

วันที่ 6 มิ.ย.65 เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีชาวบ้านในพื้นที่ ม.1 ต.สาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ถูกจระเข้กัดที่ขาจนมีบาดแผลเป็นรอยเขี้ยวถากลึกที่ขาซ้าย ก่อนถูกญาตินำส่งไปยัง รพ.บางคล้า และส่งต่อมายัง รพ.พุทธโสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา และมีการเย็บปิดบาดแผลมากถึง 26 เข็มเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.65) จนเป็นที่แตกตื่นของชาวบ้านในพื้นที่ และเป็นที่กล่าวขานเรื่องราวกันมาจนเกือบตลอดทั้งวันที่ผ่านมานั้นว่า

แนวป่าจาก

ล่าสุด น.ส.สุภาพร ดำรงพันธ์ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133/3 ม.1 ต.สาวชะโงก ซึ่งเป็นน้องสาวของ นางพัชนี ดำรงพันธ์ อายุ 64 ปี ผู้ที่ถูกจระเข้กัดที่ขาซ้าย จนมีบาดแผลเหวอะเป็นรอยเขี้ยวที่ข้างหน้าแข้งไปจนถึงน่องจำนวน 5 แผล และที่เหนือหัวเข่าจำนวน 2 แผล ขณะกำลังพากันออกไปงมหากุ้งก้ามกาม ซึ่งเป็นกุ้งแม่น้ำจำนวน 3 คนพี่น้องเมื่อวานนี้ ได้พาผู้สื่อข่าวพร้อมชาวบ้านไปดูยังในที่เกิดเหตุอีกครั้ง ในสถานที่เก่าเวลาเดิม 11.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับเมื่อวันวานระหว่างเกิดเหตุ

น.ส.สุภาพร ดำรงพันธ์

โดยที่ น.ส.สุภาพร พร้อมด้วยหลานๆ และชาวบ้าน ได้พาผู้สื่อข่าวเดินชี้จุดเกิดเหตุภายในลำคลองบางหัวเลน ซึ่งเป็นลำคลองสาขาของแม่น้ำบางปะกง ในพื้นที่บ้านหัวเลน ม.4 ต.สาวชะโงก ซึ่งในวันนี้มีระดับน้ำสูงว่าเมื่อวันวานขณะเกิดเหตุเล็กน้อยประมาณ 50 ซม. แต่ทันใดนั้น น.ส.สุภาพร พร้อมชาวบ้านที่เดินนำหน้าไปได้พบเห็นว่ามีจระเข้ลอยขอนขึ้นเหนือน้ำ โดยมีแผ่นด้านหลังของลำตัวโหล่ลอยขึ้นมาในลำคลอง ซึ่งมีป่าจากขึ้นรกปกคลุมตลอดแนว ขนาดกว้างประมาณ 5 เมตร เลยห่างจากจุดเกิดเหตุเมื่อวานนี้ไปเพียงประมาณ 30 เมตร

ระดับน้ำมากกว่าวันวานเล้กน้อย

ก่อนที่จะส่งเสียงร้องเรียกให้คนอื่นๆ ที่กำลังเดินตามหลังมาได้มาช่วยกันดู แต่จากเสียงที่ร้องดังออกมาด้วยความตื่นเต้นตกใจนั้น ได้ทำให้จระเข้ได้ดำจมลงกลบดานหายไปที่ใต้ผิวน้ำในทันที ก่อนที่ชาวบ้านจะเร่งรีบโทรศัพท์แจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่อีกครั้ง โดยที่ น.ส.สุภาพร กล่าวว่า จระเข้ที่มาพบในวันนี้มีขนาดลำตัวยาวไม่ต่ำกว่า 2 เมตร และตัวใหญ่กว่าที่มีการค้นหาจับได้ไปเมื่อวันวาน ซึ่งน่าจะเป็นตัวเดิมที่กัดผู้เป็นพี่สาว เนื่องจากอยู่ใกล้เคียงกับในที่เกิดเหตุมากที่สุด น.ส.สุภาพร กล่าว

ชาวบ้านระทึก

ขณะที่ นางพัชนี ผู้ที่ถูกจระเข้กัดขาเมื่อวันวาน กล่าวว่า ในวันนี้ยังคงมีอาการเจ็บปวดที่ขาซ้ายอยู่ และยังขยับขาได้ไม่ถนัดนัก เพราะมีอาการตึงและปวด ซึ่งล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มี นายประมุข โรจนตัณฑ์ (กำนันแก๊) นายก อบต.สาวชะโงก (เจ้าของค่ายมวยชื่อดัง ป.ประมุข) ได้เดินทางลงมาเยี่ยมดูอาการยังที่บ้าน พร้อมได้ให้การเยียวยาด้วยเงินสดส่วนตัวและอาหารแห้ง เพื่อใช้ประทังชีพระหว่างเจ็บป่วยออกไปประกอบอาชีพทำกินไม่ได้ไว้แล้ว

นางพัชนี ดำรงพันธ์

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันวานนั้น ตนพร้อมด้วยพี่สาว และน้องสาวรวม 3 คน ซึ่งมีอาชีพงมกุ้งแม่น้ำขาย ซึ่งทำกินด้วยอาชีพนี้มาอย่างยาวนานหลายสิบปีแล้ว ได้พากันไปงมหากุ้งภายในลำคลองย่อย ซึ่งเป็นคลองสาขาแยกออกมาจากแม่น้ำบางปะกง เข้าสู่พื้นที่ ต.สาวชะโงก ที่บ้านบางหัวเลน ม.4 โดยได้ไปถึงในเวลาประมาณ 10.30 น. ก่อนที่จะลงงมควานหากุ้งไปตามลำคลองได้เพียงประมาณ 15-20 เมตร หรือประมาณ 30 นาทีเท่านั้น

นายก อบต.เข้าเยี่ยม

แต่ได้มีจระเข้ซึ่งมาจากไหนไม่ทราบ พุ่งเข้ามากัดในลักขณะเฉียง เนื่องจากติดก้านของต้นจาก และปลายปากงับเข้าที่เหนือหัวเข้าซ้าย ส่วนช่วงเหงือกฟันด้านข้างงับเข้าที่บริเวณระหว่างหน้าแข้งและน่องขาซ้าย หลังเกิดเหตุตนจึงรีบตะเกียกตะกายหนีเอาชีวิตรอดขึ้นฝั่งมาได้อย่างไม่รู้ตัว ก่อนที่จะหมดเรี่ยวแรง จากนั้นพี่สาวและน้องสาว จึงได้พากลับบ้านและมีหลานสาวพาขึ้นรถยนต์เก๋งไปส่งยังที่ รพ.บางคล้า จนตกเป็นข่าวดังกล่าว

จระเข้กัด

ซึ่งตนประกอบอาชีพงมหากุ้งแม่น้ำมายาวนานกว่า 30 ปีแล้ว ยังไม่เคยพบเห็นจระเข้มาก่อนแลย ในครั้งนี้ถือเป็นการพบกันเป็นครั้งแรก และยังมาเป็นคนที่ถูกจระเข้กัดอีกด้วย นางพัชนี กล่าว

มีอาการปวด

ขณะที่ น.ส.สุภาพร กล่าวว่า หลังจากนี้ไป ตนไม่กล้าที่จะลงไปในน้ำ หรือออกไปงมหากุ้งอีกแล้ว หลังจากผู้เป็นพี่สาวถูกจระเข้กัด และเชื่อว่าในลำคลองบางหัวเลนยังคงมีจระเข้อีกเป็นจำนวนมากหลายตัว จึงอยากขอวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาไล่จับออกไปให้หมด เพื่อให้ชาวบ้านได้ทำมาหากินงมกุ้งหาปลาได้ตามวิถีชีวิตปกติด้วย เนื่องจากพวกตนทำกินกันแบบนี้มานานนับตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ โดยไม่มีอาชีพอื่น นอกจากลูกหลานจะออกไปทำงานมิเงินเดือนเข้ามาจากภายนอกเท่านั้น น.ส.สุภาพร กล่าว

บ้านบางหัวเลน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน