X
พืชแห่งความหวัง จากอนุทิน

ผู้ปลูกกัญชา แปดริ้ว หวังอนุทินสร้างความชัดเจนเข้าใจที่ตรงกันในทุกมิติ

ฉะเชิงเทรา – ผู้ปลูกกัญชา หนึ่งเดียวใน จ.ฉะเชิงเทรา หวัง “อนุทิน ชาญวีรกูล” สร้างความชัดเจนและความเข้าใจที่ตรงกันในทุกมิติ ตลอดจนทางปฏิบัติในทุกหน่วยงาน เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงและเกิดความมั่นใจที่จะเป็นผู้ปลูกกัญชาโดยไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี ทั้ง ผลิต ครอบครอง และจำหน่าย ซึ่งมีโทษทางอาญาโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

 

วันที่ 6 พ.ค.65 เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความตื่นตัวสำหรับผู้ที่กำลังสนใจที่จะปลูกกัญชา ซึ่งเป็นพืชสมุนไพร และกำลังจะได้รับการปลดล็อคในวันที่ 9 มิ.ย.65 นี้ว่า ปัจจุบันในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา มีผู้ได้รับการอนุญาตจากทาง อย.ให้สามารถปลูกได้อย่างถูกกฎหมายเพียงรายเดียว จากผู้ที่เคยยื่นขอไปจำนวนกว่า 60 ราย และยังมีประชาชนส่วนใหญ่ที่สนใจต้องการปลูก ยังคงเกิดความสับสนเกี่ยวกับเรื่องในทางปฏิบัติว่าจะต้องได้รับอนุญาตอย่างไรบ้างจึงจะปลูกได้โดยที่จะไม่ถูกเจ้าหน้าตำรวจจับกุมดำเนินคดี

รอความหวังจากอนุทิน

โดยนายโกมล ตั้งประกอบ อายุ 59 ปี เจ้าของไร่กัญชา ตั้งอยู่เลขที่ 39/9 ม.7 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ปลูกกัญชาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายเพียงรายเดียวใน จ.ฉะเชิงเทรา ได้กล่าวถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่า ตนเองชื่นชอบในแนวความคิดของรองนายก และ รมว.สาธารณสุข ที่มีทักษะแนวความคิดที่จะให้มีการปลูกกัญชาได้อย่างเสรี

ปลูกอย่างถูกกฎหมาย

เพียงแต่ว่าในขณะนี้ยังคงมีข้อขัดแย้งทางกฎหมายในทางปฏิบัติจากทางเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ยังไม่ชัดเจน อย่างเช่นกรณีกระแสการปลูกกัญชาได้ครัวเรือนละ 6 ต้นที่ผ่านมานั้น ได้ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและเข้าใจผิด และมีการปลูกกันตามกระแสจนถูกเจ้าหน้าตำรวจเข้าจับกุมดำเนินคดี โดยมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว ตามที่มีข่าวกรณีคุณยายวัย 70 ปี ปลูกกัญชา 1 ต้น แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมมาดำเนินคดี และถูกศาลสั่งลงโทษจำคุก 3 เดือน 15 วัน และปรับอีก 1.75 หมื่นบาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี

ความหวังที่รอคอย หลัง 9 มิ.ย.65 นี้

จึงทำให้คนที่อยากจะปลูกกัญชานั้น ยังคงเกรงกลัวปัญหาในเรื่องนี้อยู่ จึงอยากให้ทางรองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ในทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ปปส. และตำรวจ ว่าหากประชาชนปลูกกัญชาไว้ใช้บริโภคและเป็นยาภายในครัวเรือนจำนวน 6 ต้นแล้วจะไม่ถูกจับ จึงอยากให้มีความชัดเจนในเรื่องนี้ออกมา โดยเฉพาะหลังจากวันที่ 9 มิ.ย.65 ไปแล้วควรจะมีความชัดเจนให้มากกว่านี้ รวมไปถึงในทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในทุกหน่วยงานด้วย ที่จะต้องมีความเข้าใจตรงกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจถูกจับไปดำเนินคดีทางกฎหมายอีก

ไร่กัญชาเพียงหนึ่งเดียวของจังหวัด

ซึ่งการปลูกนั้นหมายถึงการผลิต ที่จะทำให้ได้รับโทษหนักกว่าการเสพ และยังอาจจะถูกตั้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกเกี่ยวกับการมีไว้ในความครอบครองและจำหน่าย หากมีการจำหน่ายหรือซื้อขายกัน จึงต้องการให้เกิดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนมากกว่านี้ และหลังจากการประกาศ ยส.5 ในราชกิจจานุเบกษาครบ 120 วัน หรือในวันที่ 9 มิ.ย.65 ไปแล้ว กัญชาจะยังอยู่ในเงื่อนไขของ ปปส. อีกหรือไม่

ไร่กัญชาแปดริ้ว

และกัญชาที่ชาวบ้านปลูกจะต้องไม่มีค่า THC ไม่เกิน 0.2 อีกหรือไม่ และหากประชาชนประสงค์จะปลูกในครัวเรือนจำนวน 6 ต้นจะยังคงมีความผิดอยู่อีกหรือไม่ ขณะนี้จึงต้องรอดูว่า หลังจากการประกาศในวันที่ 9 มิ.ย.65 ผ่านไปแล้วนั้นจะเป็นอย่างไร และมีความชัดเจนมากน้อยแค่ไหน จึงอยากให้ประชาชนทั่วไปที่อยากปลูกกัญชากันไว้ในบ้านบ้าง ต้องรอดูหลังจากวันนั้นไปแล้ว

นายโกมล ตั้งประกอบ

สำหรับการที่ นายอนุทิน รมว.สาธารณสุข ที่ได้ทำโครงการในเรื่องนี้ขึ้นมานั้นถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ว่าในส่วนของกฎหมายที่ประกาศใช้ และหน่วยงานภาครัฐบางหน่วยงานนั้น ยังมีการนำมาใช้หรือปฏิบัติที่ไม่ชัดเจน รวมถึงยังมีการจับกุมกันอยู่จึงกลายเป็นปัญหา จึงอยากจะย้ำขอให้ทาง “ท่านอนุทิน” ได้ลงไปถึงในรายละเอียด และลงจนถึงยังผู้ปฏิบัติ เพื่อแจ้งให้พวกเขารับทราบว่าหากประชาชนจะปลูกกัญชา 6 ต้นนั้นไม่มีความผิดทางกฎหมาย แต่ต้องมีขั้นตอนในการยื่นขอจดแจ้ง

ปลูกจากไรให้พ้นจากยาเสพติด

ซึ่งตรงนี้ต้องทำให้ชัดเจน และอย่าให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาวุ่นวายจับกุมประชาชนอีก เมื่อถามว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่กัญชาถูกกำหนดให้เป็นยาเสพติดนั้นถือว่าเป็นการเสียโอกาสในการสร้างอาชีพและรายได้ของประเทศมาโดยตลอดหรือไม่ นายโกมล ตอบว่า ถือเป็นความรัดกุมของรัฐบาลมากกว่า เนื่องจากหากในขณะนั้นไม่สามารถควบคุมกัญชาได้ อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นมาตามมามากมาย และอาจลุกลามไปจนถึงเด็กและเยาวชนได้ จึงทำให้รัฐบาลในขณะนั้นมองในจุดนี้มากกว่า

รอการปลดล็อคสู่พืชเศรษฐกิจ

สำหรับการปลดล็อคหรือมีการออกกฎหมายในเวลานี้ถือว่าช้าไปหรือไม่นั้น ในส่วนตัวถือว่ายังช้าไป แต่หากมองในแง่ของความเป็นจริงที่หากกฎหมายที่ออกมาแล้วค้านกับความเป็นอยู่ของประชาชนในระหว่างนั้น เราก็สามารถรอได้ แต่หลังจากนี้ไปที่ได้มีการเปิดให้ประชาชนทั่วไปทำได้ ตนถือว่าเป็นช่วงจังหวะที่ดี และเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ

ส่วนการจัดงาน “บูรพาร่วมกัญ มหัศจรรย์กัญชา” ตามที่มีกำหนดการประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ ระหว่างวันที่ 6-8 พ.ค.65 นี้ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณะสุข เดินทางไปร่วมเปิดงานนั้น

รอคอยการปลดล็อค

ตนมองว่าอาจจะช่วยเผยแพร่ความรู้เรื่องกัญชาไปสู่ประชาชนได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งตนยังคาดหวังว่าจะมีการนำกฎหมายที่กำลังจะมีการประกาศใช้ออกมานั้น มาวิเคราะห์และสอดแทรกให้ประชาชนได้รับรู้ไปด้วย จึงน่าจะเป็นเรื่องที่ดี เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสในการรับรู้มากขึ้น เกี่ยวกับกฎหมายในการปลูกกัญชา และขอให้สอดแทรกไปในการจัดงานเกี่ยวกับกัญชาตามภูมิภาคต่างๆ ที่มีการจัดขึ้นต่อๆ ไปด้วย นายโกมล กล่าว

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน