แชมป์สามสมัย เหนียวมะม่วงแปดริ้ว เตรียมเพิ่มกำลังผลิตอีกเท่าตัวรับกระแสบริโภคร้อนมิลลิ

ฉะเชิงเทรา – แชมป์สามสมัย ข้าวเหนียวมูนมะม่วงแปดริ้ว เตรียมเพิ่มกำลังผลิตอีกกว่าเท่าตัวรับกระแสร้อนแรงต่อการอยากหม่ำตามมิลลิ “ดนุภา คณาธีรกุล” ที่ช่วยฉุดสร้างการบริโภคเมนูอาหารหวานไทยในเวทีระดับโลก เผยเริ่มมีกระแสหนุนเข้ามาตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำของวันวาน หลังจากที่มีลูกค้าขาประจำโทรศัพท์เข้ามาตามหาเพื่อสั่งซื้อต่อเนื่อง ขณะกำลังซื้อจากลูกค้าหน้าร้านเพิ่งเริ่มขยับตามมาในวันนี้

วันที่ 18 เม.ย.65 เวลา 19.45 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.ประกายรุ้ง สิงห์คำ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/14 ม.10 ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นบุตรสาวของร้านขายข้าวเหนียวมูนมะม่วง “เจ้ฝนแปดริ้ว” โดยเป็นร้านข้าวเหนียวมูนมะม่วงที่มีชื่อเสียงอันดับแถวหน้าของ จ.ฉะเชิงเทรา ที่ได้ครองแชมป์รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ในเมนูอาหารหวานชนิดนี้มาแล้วถึง 3 สมัยเกือบต่อเนื่องกันในงานวันมะม่วงและของดีเมืองแปดริ้วที่จัดขึ้นมาอย่างยาวนานถึง 51 ครั้งในทุกปีว่า

จากกระแสของ “มิลลิ – ดนุภา คณาธีรกุล” ที่ได้นำข้าวเหนียวมูนมะม่วงขึ้นไปบริโภคโชว์บนเวทีการประกวดโคเชลลาที่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ได้ส่งผลทำให้มียอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 20-30 จากปกติตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าขาประจำที่โทรศัพท์มาสั่งซื้อไว้ และบางส่วนสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ในเพจเฟซบุ๊d “เจ้ฝนข้าวเหนียวมูนแปดริ้ว” เนื่องจากตนไม่มีหน้าร้านวางขายทุกวันเหมือนกับร้านค้าขายข้าวเหนียวมูนมะม่วงทั่วไป

ส่วนการเปิดหน้าร้านขายในวันนี้ เป็นการเข้ามาขายยังภายในงาน “เทศกาลมะม่วงและของดีเมืองแปดริ้ว” ที่จัดขึ้นโดยวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออก จ.ฉะเชิงเทรา ระหว่างวันที่ 12-24 เม.ย.65 ที่บริเวณด้านหน้าห้างฯ ค้าวัสดุก่อสร้างไทยวัสดุ เพียง 12 วันเท่านั้น โดยการขายที่หน้าร้านในวันนี้ มีข้าวเหนียวมูนมะม่วงที่มูนมากว่า 500 กก.นั้น ได้ขายหมดลงแล้ว แต่ไม่ได้มีลูกค้าเข้ามาต่อแถวเรียงคิวกันซื้อ เหมือนในกระแสข่าว เนื่องจากในวันนี้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นจนถึงช่วงค่ำ

ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่ตามปกติคนจะเข้ามาเดินเที่ยวในงานเป็นจำนวนมากพอดี จึงทำให้คนที่ตั้งใจจะเข้ามาเดินเที่ยวซื้อขายของกันภายในงาน ต่างพากันล่าถอยกลับไป จึงทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาซื้อที่ร้านนั้น ยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าขาประจำที่เคยติดตามมาหาซื้อตามงานที่จัดขึ้นตามปกติ ที่ร้านของตนจะมูนข้าวเหนียวมะม่วงออกมาขาย และจะทำแต่เฉพาะในช่วงที่มีมะม่วงน้ำดอกไม้ให้ผลผลิตออกมาสู่ตลาดตามฤดูกาลเท่านั้น คือ ในช่วงระหว่างกลางเดือน มี.ค. ถึงกลางเดือน พ.ค. หรือประมาณ 2 เดือนต่อปี

เนื่องจากผลมะม่วงที่ผลิตออกมาตามฤดูกาลจะให้รสชาติที่ดีกว่ามะม่วงนอกฤดูกาล ทางร้านจึงไม่ได้ทำขายในช่วงนอกฤดู สำหรับเคล็ดลับที่ทำให้ลูกค้าติดใจในรสชาติ จนได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง อย่างต่อเนื่องมาถึง 3 สมัยนั้น คือ ในวันมะม่วงและของดีเมืองแปดริ้ว ปี 2558, 2560 และ 2561 นั้น เพราะทางร้านเน้นในด้านความสะอาด และเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่เสมอ รวมถึงการนึ่งข้าวเหนียวด้วยนั้นจะต้องนึ่งใหม่และมูนใหม่อยู่ตลอดเวลา

โดยจะไม่มูนทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก จึงทำให้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะเลิศอันดับหนึ่งมาจนถึงการประกวดในปีสุดท้าย คือ เมื่อ พ.ศ.2561 หลังจากนั้นยังไม่ได้มีการจัดการประกวดอีกเลย ร้านของตนจึงได้ครองแชมป์อันดับหนึ่งมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ข้าวเหนียวมูนมะม่วงน้ำดอกไม้ของร้านตน ยังมีความหลากหลายทั้งสีสันและรสชาติ คือ มีทั้งสีขาวคือสีเดิมของข้าวเหนียว สีฟ้าได้จากดอกอัญชัน สีเขียวได้จากใบเตย สีชมพูได้จากผงสตรอว์เบอร์รี สีเหลืองได้จากดอกคำฝอย และสีดำได้จากข้าวเหนียวดำ รวม 6 สี

โดยสีที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ สีเขียว เนื่องจากมีกลิ่นหอมของใบเตยออกมาด้วย ขณะที่สีอื่นๆ นั้น จะไม่มีกลิ่นหอมโชยออกมา น.ส.ประกายรุ้ง กล่าว

ขณะที่ นางสายฝน สิงห์คำ อายุ 53 ปี ผู้เป็นมารดากล่าวเสริมว่า ปกติหลังจากการออกร้าน ตามงานมหกรรมสินค้าเกษตรที่จัดขึ้นไปตามสถานที่ต่างๆ แล้วนั้น ตนยังได้นำไปออกร้านขายยังที่ตลาดนัดวันอาทิตย์ช่วงเช้าที่ อ.บ้านโพธิ์ และที่ตลาดนัดเย็นหน้าโครงการส่วนพระองค์ฯ บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ด้วย แต่ไม่ได้มีหน้าร้านตั้งประจำเหมือนร้านค้าทั่วไป เพราะจะทำแต่เฉพาะในช่วงที่มีมะม่วงออกผลผลิตมาตามฤดูกาลเท่านั้น

เนื่องจากในฤดูกาลอื่นๆ นั้น จะไม่มีวัตถุดิบตรงตามที่เราต้องการ ส่วนราคาขายข้าวเหนียวมูนมะม่วงของทางร้านนั้น ไม่ได้ขายในราคาที่สูงหรือแพงจนเกินไป เพียง กก.ละ 140 บาท ซึ่งเป็นราคาปกติเหมือนกับร้านมูนมะม่วงอื่นทั่วไปใน จ.ฉะเชิงเทรา และอาจมีบางร้านที่ขายในราคาที่สูงกว่านี้ด้วย ส่วนราคาต่ำสุดที่บรรจุกล่องนำออกมาขายนั้น ขนาดน้ำหนัก 2.5 ขีดขายเพียงกล่องละ 35 บาท ขนาดครึ่ง กก.ขายเพียง 70 บาท ส่วนมะม่วงน้ำดอกไม้ปลอกใส่กล่องขายกล่องละ 50 บาท

และหลังจากทราบว่าทางประธานวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออก จ.ฉะเชิงเทรา (นายมานพ แก้ววงษ์นุกูล) จะนำกระเช้ามะม่วงคุณภาพส่งออกไปขอบคุณ “มิลลิ ดนุภา” ด้วยนั้น หากทราบวันเวลาที่แน่ชัดแล้ว ตนเองก็อยากจะฝากข้าวเหนียวมะม่วงอันดับหนึ่งแปดริ้วไปร่วมขอบคุณด้วย ที่ช่วยกระตุ้นการบริโภคมะม่วงให้เพิ่มมากขึ้น แม้ตนเองจะไม่มีสวนมะม่วงเพียงแต่มูนข้าวเหนียวขายเท่านั้นก็ตาม

หลังจากตลอดทั้งวันนี้นั้น เริ่มมีกระแสการบริโภคข้าวเหนียวมูนมะม่วงเข้ามาในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา บ้างแล้ว โดยในวันพรุ่งนี้จะเพิ่มกำลังการผลิตหรือมูนข้าวเหนียวออกมาวางขายเพิ่มขึ้นอีกกว่าร้อยละ 50 หรือจะทำออกมาเพิ่มอีกประมาณหนึ่งเท่าตัวของวันนี้ เนื่องจากมีลูกค้าขาประจำที่ติดตามมาซื้อไปบริโภคในทุกๆ ปี จาก จ.ชลบุรี ได้โทรศัพท์มาสั่งซื้อไว้ที่หมายเลข 095-8917415 ก่อนแล้วจำนวน 30- 40 กล่องหรือประมาณ 20 กก. และยังมีลูกค้าภายใน จ.ฉะเชิงเทรา ได้โทรศัพท์เข้ามาสั่งซื้อไว้เพิ่มอีกหลายรายด้วย นางสายฝน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ได้มีลูกค้าหลายรายที่เดินเข้ามาซื้อข้าวเหนียวมูนมะม่วงจากภายในร้านระหว่างที่ผู้สื่อข่าวยังคงพูดคุยกับทางร้านอยู่ เช่น นายสุรัตน์ชัย กาญจนกันติกุล อายุ 55 ปี อาชีพรับราชการ ซึ่งเข้ามาซื้อข้าวเหนียวมะม่วงยังที่ร้าน ได้ให้ความเห็นว่าที่เข้ามาซื้อข้าวเหนียวมูนมะม่วงจากร้านนี้ เนื่องจากติดใจในรสชาติมากกว่า และไม่ได้ตื่นกระแสการบริโภคไปตามกระแสโลกอะไร ซึ่งวันนี้มาซื้อไปจำนวน 5 กก. เพื่อจะนำไปฝากเพื่อนๆ ผู้ร่วมงานที่กรุงเทพฯ นายสุรชัย กล่าว

ขณะที่นายวัยวุฒิ ชูแสง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/32 ม.5 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ตนเองติดใจในรสชาติข้าวเหนียวมูนของร้านนี้อยู่ก่อนแล้วจึงได้ตามมาหาซื้อไปบริโภคอีกครั้ง โดยไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับกระแสของมิลลิ แต่อย่างใด นายวัยวุฒิ กล่าว

ขณะที่ผู้ซื้อบางรายนั้นยังไม่ทราบว่ามีกระแสข่าวอะไรเกิดขึ้น แต่เป็นการติดตามเข้ามาซื้อจากความนิยมในรสชาติของทางร้านค้ามากกว่า เนื่องจากได้เคยเข้ามาซื้อนำไปบริโภคอยู่แล้วเป็นประจำในทุกปี แต่บางรายยังให้ความเห็นว่า กระแสข่าวที่เกิดขึ้นนั้น น่าจะส่งผลดีต่อยอดขายข้าวเหนียวมูนมะม่วงได้ดีต่อไปอีกนาน และจะทำให้เกษตรกรขายมะม่วงได้เพิ่มมากขึ้นด้วย