ฉะเชิงเทรา – ราหูยักษ์ ใหญ่กว่า 1.5 เมตรยาว 2 เมตรหลงทางน้ำ เข้ามาสู่จุดอับในลำคลองลอยอืดส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วคุ้งน้ำ หลังชาวบ้านเจอผงะแจ้งประมงตรวจสอบ ชี้เป็นปลากระเบนน้ำลึกใหญ่ติดอันดับสองของโลก หากินตามธรรมชาติใต้ผิวน้ำระดับหน้าดิน แต่หลงทิศทางเข้ามาในจุดอับตื้นเขินและคับแคบ ทำให้ปรับสภาพไม่ทันน็อคตายในที่สุด ยันไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายก่อนเตรียมนำไปฝังกลบ
วันที่ 24 พ.ย.64 เวลา 15.00 น. นายอรรถพล หนูสุทธิ์ และ น.ส.ณัฐณิชา สุขไชยพร นักวิชาการประมงปฏิบัติการ พร้อมด้วย นายนภาธิปัตย์ สิงห์สูง นักวิชาการประมง สำนักงานประมง จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบ กรณีมีชาวบ้านพบกระเบนราหูขนาดใหญ่ลอยอืดตายอยู่เหนือผิวน้ำ ภายในลำคลองบางห้าง ซึ่งเชื่อมจากแม่น้ำบางปะกงผ่านเข้ามายังพื้นที่ ม.1 และ ม.2 ต.คลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนไปบรรจบยังที่ประตูทดน้ำคลองชลประทาน
โดยในที่เกิดเหตุ เป็นช่วงคุ้งน้ำภายในลำคลองที่คดเคี้ยวห่างจากปากคลองจุดเชื่อมต่อลงสู่แม่น้ำบางปะกงมาประมาณ 400 เมตร ติดกับบ่อเลี้ยงกุ้งของนายประกอบ ศิระสรวงศุกล อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130/3 ม.2 ต.คลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา จากการสอบถาม นายประกอบ เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมายังไม่พบเห็นกระเบนราหูตัวนี้เข้ามาลอยน้ำอยู่ตรงบริเวณจุดที่พบในขณะนี้
แต่ในช่วงสาย ระหว่างหัวน้ำขึ้นหรือนำทะเลหนุนน้ำในลำน้ำบางปะกงไหลขึ้นมานั้น ได้มีตนงานภายในฟาร์มของตนผ่านเข้ามา และพบว่ามีกระเบนราหูขนาดใหญ่ลอยเข้ามาตายอืดติดอยู่ตรงบริเวณหัวโค้งน้ำของลำคลอง เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. จากนั้นเมื่อตนทราบจึงได้แจ้งไปยังทางผู้ใหญ่บ้านให้ทราบ ก่อนที่จะได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เข้ามาทำการตรวจสอบหาสาเหตุ
ขณะที่นายอรรถพล พร้อมด้วย จนท.ที่มาด้วยกัน กล่าวว่า จากการตรวจสอบซากกระเบนราหูเบื้องต้นไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยของการถูกทำร้าย ส่วนขนาดและน้ำหนักนั้นเชื่อว่าน่าจะมีน้ำหนักขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 50 กก.ขึ้นไป แต่ไม่น่าจะเกินกว่า 100 กก. ลำตัวแผ่กว้างสุดปลายปีกประมาณ 1.5 เมตร และยาวจากหัวจรดปลายหางประมาณ 2 เมตรเศษ ไม่ทราบเพศเนื่องจากซากอยู่ในสภาพเน่าเปื่อยแล้ว โดยเชื่อว่าน่าจะตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 วัน
ส่วนสาเหตุการตายนั้น เชื่อว่ากระเบนราหูหรือกระเบนเจ้าพระยาตัวนี้ น่าจะหลงน้ำเข้ามาจากแม่น้ำบางปะกง ก่อนที่จะเข้ามาถึงยังในจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นลำคลองที่คับแคบและหาทางกลับออกไปสู่ในแม่น้ำบางปะกงไม่ได้หรือหลงน้ำ ประกอบกับในลำคลองสายนี้ยังมีสภาพที่ตื้นเขิน สอบถามจากชาวบ้านทราบว่าในขณะที่น้ำลงต่ำสุด มีความลึกเพียง 1 เมตรเศษ และน้ำขึ้นสูงสุดประมาณ 2.5 เมตร ทั้งในลำคลองยังกว้างเพียง 8-10 เมตร
ขณะที่ตามชายคลองยังมีต้นไม้และวัชพืชขึ้นรกปกคลุมไปตลอดตามแนวตลิ่ง จึงยิ่งทำให้ลำคลองคับแคบลงไปอีก กระเบนราหูที่หลงเข้ามาจึงปรับสภาพไม่ทัน เนื่องจากตามปกติแล้วกระเบนราหูเจ้าพระยาซึ่งเป็นกระเบนน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากกระเบนน้ำเค็ม (แมนตา) นั้น จะเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำลึก อย่างน้อย 8-10 เมตร และหากินอยู่ในระดับผิวดินใต้น้ำโดยที่จะไม่โผล่ขึ้นมาอยู่เหนือน้ำ
ประกอบกับในช่วงระยะ 3-4 วันที่ผ่านมา สภาพอากาศในพื้นที่ค่อนข้างร้อนและอบอ้าว มีแสงแดดแรง เมื่อกระเบนเข้ามาอยู่ในบริเวณน้ำตื้นจึงทำให้ทนต่อสภาพอุณหภูมิของน้ำที่สูงไม่ไหว จึงตายลงในที่สุด โดยปกติกระเบนน้ำจืดขนาดใหญ่ลักษณะนี้ มักจะพบได้ในแหล่งน้ำขนาดใหญ่และลึก เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำบางปะกง และแม่กลอง จึงทำให้มีชื่อเรียกทางสายพันธุ์ทั่วไปว่า “กระเบนเจ้าพระยา” และยังเป็นสัตว์น้ำคุ้มครองอีกด้วย ซึ่งหลังจากนี้ จะได้ทำการเก็บซากเพื่อนำไปฝังกลบต่อไป นายอรรถพล พร้อมพวกระบุ
