X
เหยื่อวัคซีนเข็มไชว้

ฉีดแล้วตาย ไขว้วัคซีนเข็ม 2 หนุ่มวัยฉกรรจ์ไม่เคยป่วยไข้ดับคา รพ.ญาติเศร้ารับศพ

ฉะเชิงเทรา – ฉีดแล้วตาย ไขว้วัคซีนเข็ม 2 จาก “ซิโนแวค” มาฉีดซ้ำด้วย “แอสตร้าเซเนกา” หนุ่มร่างกายกำยำแข็งแรงในวัยฉกรรจ์ อายุเพียง 35 ปี ประวัติไม่เคยเจ็บป่วยไข้ตรวจสุขภาพตามวงรอบประจำปีในที่ทำงานมาตลอดทุกปี ญาติเศร้าแห่รับศพ ก่อนทวงถามถึงความรับผิดชอบจากหน่วยงานรัฐ ท่ามกลางความสลดหดหู่ใจที่ทางฝ่ายภรรยาเพิ่งคลอดบุตรออกมาได้เพียงแค่ 5 วัน แถมยังไม่ทันได้เห็นหน้าผู้เป็นพ่อ ทั้งยังทำขาดเสาหลักของครอบครัว

วันที่ 25 ก.ย.64 เวลา 10.30 น. ที่บริเวณห้องดับจิต ภายใน รพ.พุทธโสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็น รพ.ขนาดใหญ่ประจำ จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีบรรดาญาติพี่น้องของ นายอนุรักษ์ กุหลาบศรี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/4 ม.1 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้เสียชีวิตจากการได้รับการฉีดวัคซีนไขว้เข็มจาก “ซิโนแวค” มาฉีดซ้ำเข็มที่ 2 ด้วย “แอสตร้าเซเนกา” แล้วเสียชีวิตตามความเชื่อของญาติที่ระบุ จำนวนกว่า 10 คนต่างพากันมาขอรับศพผู้เสียชีวิตรายนี้ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาตามประเพณีต่อไป

นอนรักษา นานนับเดือน

โดย นางทองคำ กุหลาบศรี อายุ 59 ปี ผู้เป็นมารดา เล่าว่า บุตรชายตนเองเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เคยเจ็บป่วยนับตั้งแต่คลอดออกมาจนถึงปัจจุบัน จนมีร่างกายกำยำสูงใหญ่ประมาณ 180 ซม. น้ำหนักประมาณ 60 กก. และมีครอบครัวแล้ว โดยมีบุตรกับภรรยาจำนวน 2 คน โดยคนโตอายุ 11 ขวบ ส่วนคนเล็กเพิ่งคลอดออกมาได้เพียง 5 วัน (20 ก.ย.64) ก่อนที่บุตรชายตนจะเสียชีวิตลง ทั้งที่ลูกคนเล็กยังไม่ได้มีโอกาสได้เห็นหน้าผู้เป็นพ่อ

ญาติเศร้ารับศพ

แต่ต้องมาเสียชีวิตลงหลังจากที่ได้ไปฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นวัคซีนแอสตร้าเซเนกา จากทางหน่วยบริการของ รพ.พุทธโสธร ยังที่ภายในจุดบริการฉีดวัคซีนมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โดยเป็นการฉีดวัคซีนแบบไขว้เข็มจากครั้งแรกที่ได้ไปรับวัคซีนซิโนแวค จากหน่วยบริการเดียวกันเมื่อวันที่ 29 ก.ค.64 และเข็มที่ 2 เมื่อวันที่ 19 ส.ค.64

รพ.ประจำจังหวัด

แต่หลังจากได้รับการฉีดวัคซีนมาแล้วในช่วง 7 วันแรก ได้มีอาการปวดศีรษะมึนงงสับสนพูดจาวกไปวนมา ในวันที่ 8 คือ 26 ส.ค.64 บุตรชายได้เริ่มมีอาการเวียนศีรษะจนถึงขั้นหมดสติ จากนั้นยังมีอาการเบลอจนจำใครไม่ได้ ก่อนที่จะถูกนำมาส่งยังที่ รพ.พุทธโสธร และต้องนอนแน่นิ่งเป็นเจ้าชายนิทรามาเป็นเวลานานถึงเกือบ 1 เดือน ก่อนที่จะมาเสียชีวิตลงเมื่อวานนี้ (24 ก.ย.64) รวมระยะเวลานอนรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลนานถึง 30 วัน

เข็ม 2 แอสตราเซเนกา

และทาง รพ.ได้แจ้งให้เข้ามารับศพออกไปประกอบพิธีทางศาสนาในวันนี้ โดยที่ทาง รพ.ได้ทำการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจากทางสำนักงานประกันสังคมไปเป็นเงินจำนวน 511,132.25 บาท แต่ทาง รพ.กลับไม่ได้ระบุถึงสาเหตุการตายที่แน่ชัด โดยที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงสาเหตุการเสียชีวิตในใบมรณบัตรว่า “สมองอักเสบจากไวรัส”

ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศล

จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบออกมาให้ข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนต่อทางญาติ และมีการช่วยเหลือเยียวยาต่อทางครอบครัวบ้าง เนื่องจากเขาเป็นเสาหลักของครอบครัว ตั้งใจทำงานเลี้ยงคนในครอบครัวรักลูกเมีย และพ่อแม่พี่น้อง ทั้งยังเป็นคนนิสัยดีตั้งใจทำมาหากินไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง หากขาดเสาหลักของครอบครัวไป หลานๆ อีก 2 คนจะอยู่กันอย่างไร อีกทั้งคนเล็กก็เพิ่งจะคลอดออกมาได้แค่เพียง 5 วันเท่านั้น นางทองคำ พร้อมญาติๆ เล่าให้ทางผู้สื่อข่าวฟัง

นายอนุรักษ์ กุหลาบศรี

ขณะเดียวกัน นายณัฐ ตันเฮง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109/29/35 ม.13 ต.ท่าไข่ ซึ่งเป็นคู่เขยแบบลูกพี่ลูกน้องกันในเครือญาติ กล่าวว่า ตนเองพร้อมด้วยนายอนุรักษ์ ได้เดินทางไปฉีดวัคซีนพร้อมกันทั้ง 2 ครั้งในสถานที่แห่งเดียวกัน และรับวัคซีนเข็มแรกเป็นซิโนแวคเช่นเดียวกัน สำหรับตนนั้นในเข็มแรกมีอาการข้างเคียง คือ มีไข้ขึ้นอ่อนๆ ส่วนในเข็มที่ 2 หลังได้รับการฉีดวัคซีนแบบไขว้ ที่เปลี่ยนมาเป็นแอสตร้าเซเนกา เช่นเดียวกันกับผู้ตาย

ไขว้วัคซีน

แต่ตนเองนั้นมีอาการข้างเคียงไปในลักษณะที่มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัวจนลุกไม่ขึ้นเป็นเวลา 1 วัน จากนั้นได้กินยาแก้ไข้ไปในทุกๆ 4 ชม. ต่อมาอาการจึงเริ่มดีขั้นตามลำดับ โดยมีอาการข้างเคียงอยู่ลักษณะนี้ประมาณ 2-3 วัน ก่อนที่ร่างกายจะกลับมาเข้าสู่ภาวะปกติตามเดิม นายณัฐ กล่าว

ครอบครัวที่ขาดเสาหลัก

ค่ารักษากว่า 5 แสนบาท

ญาติเหยื่อวัคซีนมรณะ มั่นใจบุตรชายสิ้นลมจากรับวัคซีนไขว้เข็ม

พ่อเหยื่อวัคซีนมรณะมั่นใจ บุตรชายสิ้นลมจากรับวัคซีนไขว้เข็ม

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน