ฉะเชิงเทรา – โควิดลาม เกือบทั่วทั้งเรือนจำที่แปดริ้วแล้ว ขณะ ผบ.แจงกรณีมีข่าวผู้คุมขู่กรรโชกทรัพย์ตุ๋นเงินจากญาติเหยื่อผู้ติดเชื้อโรคระบาดไม่จริง เป็นเพียงเหตุโอ้ละพ่อ ยันไม่พบเบาะแสของผู้ต้องขังตามรายชื่อที่ถูกนำมากล่าวอ้าง พร้อมปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อผู้สร้างเรื่องเท็จลวงโลกในครั้งนี้
วันที่ 14 มิ.ย.64 เวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานการระบาดของโรคโควิด 19 ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลข่าวสารโควิด 19 จ.ฉะเชิงเทรา ว่าในวันนี้มีผู้ติดเชื้อใหม่ในพื้นที่จำนวน 357 ราย เป็นผู้ป่วยจากภายในเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา จำนวน 299 ราย เป็นผู้ป่วยทั่วไป 46 ราย และผู้ที่ถูกส่งมาทำการรักษาจากภายนอกพื้นที่ 12 ราย ทำให้ภาพรวมของยอดจำนวนผู้ป่วยโควิด 19 ใน จ.ฉะเชิงเทรา มีจำนวนทั้งสิ้น 3,943 ราย เสียชีวิต 15 ราย
โดยเป็นผู้ป่วยจากการระบาดครั้งแรก 21 รายเสียชีวิต 1 ราย จากการระบาดระลอกสอง 28 ราย และจากการระบาดระลอกสาม 3,894 รายเสียชีวิต 14 ราย ซึ่งยังมีผู้ป่วยอยู่ระหว่างทำการรักษาตัวอยู่จำนวน 1,983 ราย ส่วนข้อมูลจาก รพ.สนามภายในเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ในวันนี้มีผู้ป่วยใหม่ 0 ราย มีผู้ป่วยสะสม 2,209 ราย จากผู้ต้องขังทั้งหมด 2,680 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 82.42 เป็นผู้ติดเชื้อแล้ว โดยยังมีผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อเหลืออยู่เพียง 471 คน และยังอยู่ระหว่างรักษา 1,524 รายรักษาหายแล้ว 653 รายปล่อยตัวแล้ว 32 คน
ขณะที่ น.ส.สมสกุล แอลเฟรด รักษาการ ผบ.เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา กล่าวถึงกรณีมีสำนักข่าวบางแห่งรายงานข่าวว่า ได้มีผู้อ้างตัวว่าเป็นผู้คุมโทรศัพท์ไปข่มขู่ต่อทางญาติผู้ต้องขังให้โอนเงินมาเป็นค่าดูแลระหว่างรักษาจำนวน 9 พันบาท และยังอ้างว่าหญิงสาววัย 30 ปีที่เป็นเหยื่อถูกตุ๋นได้ไปหยิบยืมเงินมาจากญาติเพื่อนำมาโอนให้แก่มิจฉาชีพที่โทรศัพท์ไปล่อลวง เพื่อช่วยเหลือผู้เป็นสามีที่ถูกจำคุกอยู่ภายในเรือนจำนั้น
ได้รับรายงานว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยเป็นเรื่องโอ้ละพ่อ ที่หญิงสาวรายนี้ได้ไปลวงขอและยืมเงินมาจากทางญาติ โดยอ้างว่าจะนำไปโอนให้แก่ผู้คุมตามที่ได้กุเรื่องขึ้น แต่ไม่ได้มีการโอนเงินกันจริงๆ แต่อย่างใด และปัจจุบันนี้คงไม่มีเจ้าหน้าที่หรือใครที่จะกล้ากระทำเช่นนั้น เพราะเสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบ ซึ่งหากเป็นเหตุการณ์จริงผู้ที่กระทำจะต้องถูกสอบสวนลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง โดยจะไม่มีการปล่อยไว้อย่างเด็ดขาด
ขณะเดียวกันทางเรือนจำยังได้มีการติดประกาศ และออกประกาศ ส่งผ่านไปทางแอพพลิเคชั่นไลน์เพื่อให้ทางญาติทราบถึงเรื่องเกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ภายในเรือนจำไว้นานแล้วว่า ไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงกรณีการขอพักโทษหรือลดโทษด้วย แต่มักจะถูกนำไปใช้เป็นข้ออ้างของมิจฉาชีพ และบางครั้งญาติของผู้ต้องขังยังหลอกลวงกันเองก็ยังเคยเกิดขึ้นมานานแล้ว จนสมัยนี้ไม่มีแล้วเพราะเขารู้ทันกันหมด
เนื่องจากระบบตรวจสอบในปัจจุบันมีมากมายในสังคมสมัยนี้ จึงเชื่อว่าไม่มีใครกล้าทำอย่างแน่นอน และเมื่อมีการตรวจสอบรายชื่อตามที่ถูกนำมากล่าวอ้างจากเนื้อหาในข่าวแล้ว ยังไม่พบว่ามีนักโทษ หรือผู้คุมตามรายชื่อของบุคคลที่เกี่ยวตามข่าวแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้ต้องปล่อยให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นฝ่ายดำเนินการ เพราะยังไม่มีเจ้าหน้าที่รายใดของทางเรือนจำเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องที่มีการกล่าวอ้างขึ้นมาในครั้งนี้ด้วย น.ส.สมสกุล กล่าว
–เลื่อนเปิดเทอม อย่างไม่มีกำหนดหลังพื้นที่แปดริ้วยังเป็นสีแดง
–ชาวโยธะกา วอนสังคมอย่าดราม่า กรณีปั้นศิวลึงค์ขอฝน เผยทำมาแต่ยุคปู่ย่า
–ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ฟ้าฝนโปรยตกลงมาใส่แท่งศิวลิงค์ ให้ได้เห็นทันตาวันนี้
