X
คลื่นลมแรง

สียัดพัดหายซ้ำซากส่งท้ายปีหนูทมิฬ 3 สาวพา 2 ดญ.แหวกกระแสน้ำจมหายทั้งคัน

ฉะเชิงเทรา – สียัดพัดหายซ้ำซาก ส่งท้ายปีหนูทมิฬ หลัง 3 สาวพา 2 เด็กหญิงบึ่งเก๋งแหวกกระแสน้ำเชี่ยวบนถนน 3259 สายเก่า ก่อนถูกน้ำพัดจมหายมิดทั้งคัน สุดท้ายต่างคนต่างหนีเอาตัวรอด ปล่อยเด็กหญิงวัย 5 ขวบปลิวติดไปกับซากรถ เบื้องต้นสิ้นใจแล้ว 2 รายสูญหาย 1 ราย ส่วนเหตุการณ์เรือล่มยังค้นหาร่างชายวัย 65 ปีไม่พบ หลังควานหามาได้แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา 2 ราย

วันที่ 31 ธ.ค.63 เวลา 15.30 น. พ.ต.ท.สุรพิสิฐ ไหมงำ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีรถยนต์เก๋งขับพุ่งฝ่ากระแสน้ำเพื่อที่จะข้ามเส้นทางจากหมู่บ้านเกาะกระทิง หมู่ 13 ไปยังหมู่บ้านเขากระดาษ ม.19 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นเส้นทางน้ำท่วมอยู่ภายในอ่างเก็บน้ำคลองสียัด ที่เคยเป็นเส้นทางการสัญจรเดิมของชาวบ้าน เมื่อกว่า 20 ปีก่อนที่หมู่บ้านจะถูกเวนคืนที่ดิน มาใช้ก่อสร้างเป็นอ่างเก็บน้ำ

สะพานข้ามคลองสียัดเดิม

จุดเกิดเหตุเป็นเส้นทางบนถนนสาย 3259 เดิม อยู่ใกล้กับสะพานข้ามคลองสียัดเก่าทางด้านฝั่งเขากระดาษห่ างจากตัวสะพานไปประมาณ 40 เมตร พื้นที่ ม.2 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา หลังรับแจ้งจึงประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอกำลังให้ออกมาช่วยกันค้นหา เนื่องจากในจุดเกิดเหตุมีกระแสลมแรง และมีคลื่นผิวน้ำซัดจากภายในตัวอ่างเก็บน้ำอยู่ตลอดเวลา

ส่วนรถยนต์เก๋งทั้งคันได้ปลิวตกจากแนวถนนหายไปกับกระแสน้ำ โดยมีเด็กหญิงวัย 5 ขวบ 1 คน ติดอยู่ภายในตัวรถ ที่ได้ถูกระแสน้ำพัดหายไปแล้ว ทราบชื่อต่อมาคือ ด.ญ.วิมลสิริ ตะพรม อายุ 5 ขวบ โดยมี น.ส.ปนิดา ตะพรม อายุ 26 ปี ชาวบ้านเขากล้วยไม้ ม.14 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ เป็นคนขับ และ ด.ญ.จิรัชยา คำมุข อายุ 6 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 68 ม.14 ต.คลองตะเกรา ทั้งสองคนได้ถูกน้ำพัดพาปลิวไปพร้อมกับตัวรถด้วย

แต่ได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาได้ จากชาวบ้านที่กำลังออกเรือหาปลาอยู่ในบริเวณนั้น แต่ยังอยู่ในอาการหมดสติ และถูกช่วยเหลือเร่งนำตัวส่งไปยัง รพ.ท่าตะเกียบ ซึ่งอยู่ห่างเพียงประมาณ 3 กม.เศษ ด้านฝั่งบ้านเกาะกระทิง แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือชีวิตไว้ได้ทัน จึงเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังมีผู้รอดชีวิตอีกจำนวน 2 ราย คือ น.ส.วัลย์นภา ตะพรม อายุ 17 ปี และ น.ส.วิมลรัตน์ ตะพรม อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/5 ม.5 ต.คลองตะเกรา

จุดเกิดเหตุ

ซึ่งทั้งคู่ได้ลงออกมาจากตัวรถก่อนที่จะรถทั้งคันจะถูกกระแสน้ำพัดปลิวหายไป และล่าสุดเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ได้แบ่งกำลังบางส่วนจากจุดค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือล่มเมื่อวานนี้ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย และยังมีผู้สูญหายอีก 1 รายที่ยังหาไม่พบ ที่บริเวณหมู่บ้านท่าคานนั้น

ได้นำเรือท้องแบนและทีมนักประดาน้ำออกมาช่วยทำการค้นหารถยนต์เก๋งคันที่สูญหาย ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสวีฟ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ที่ถูกน้ำพัดปลิวหายไป โดยที่บริเวณจุดเกิดเหตุแห่งนี้ มีระดับน้ำนอกเส้นทางบนถนนสาย 3259 เดิมลึกประมาณ 4-5 เมตร ส่วนบนเส้นทางสายเก่าซึ่งมีสภาพเป็นหลุมหรือบ่อนั้น มีระดับน้ำลึกประมาณ 30 ซม. และในบางจุดมีความลึกมากถึงเกือบ 1 เมตร หากเป็นบริเวณจุดที่ถูกน้ำกัดเซาะจนผิวถนนด้านบนขาดหายไป

รองพ่อเมือง ลง พท.ล้อมคอก สั่งปิดเส้นทางสายเก่าแหวกสายน้ำกลางอ่างสียัด

ยังไร้วี่แววผู้สูญหาย ทั้ง 2 เหตุการณ์โศกนาฏกรรมข้ามปีในอ่างสียัด

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน