เตรียมยกระดับ งานนมัสการหลวงพ่อโสธร เป็นงานระดับชาติก่อนก้าวสู่ระดับโลก

ฉะเชิงเทรา – เตรียมยกระดับ งานนมัสการหลวงพ่อโสธร ให้ยิ่งใหญ่เป็นงานระดับชาติก่อนก้าวสู่ระดับโลก หลังพ่อเมืองคนใหม่เป็นลูกหลานชาวแปดริ้ว ได้หวนคืนถิ่นมานั่งหัวโต๊ะบัญชาการด้วยตนเอง เผยมีเอกชน 2 รายใหญ่ให้ความร่วมมือช่วยสนับสนุนโดยไม่ใช้เงินทุนงบประมาณจากภาครัฐ พร้อมปล่อยให้ประชาชนได้เที่ยวชมงานฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ก่อนเอ่ยปากรับกำจัดมาเฟียโบกรถเรียกเก็บค่าจอดจากผู้มาเที่ยวงานอย่างสิ้นซาก

วันที่ 21 ต.ค.63 เวลา 19.00 น. นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา คนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ได้เพียง 3 สัปดาห์ ได้กล่าวเปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการจัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธร และงานประจำปีของจังหวัดฉะเชิงเทราว่า การจัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธรปีที่ 130 นี้ได้มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 ต.ค.- 8 พ.ย.63 ซึ่งมากกว่าในทุกปีที่มีการจัดงานเพียง 10 วัน 10 คืน เป็น 12 วัน 12 คืน โดยได้มุ่งเน้นการจัดงานให้ยิ่งใหญ่สมบารมีขององค์หลวงพ่อ

ที่มีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความเคารพศรัทธา จึงมีความต้องการที่จะมุ่งเน้นให้การจัดงานมีความยิ่งใหญ่ขึ้น เพื่อให้เป็นงานประจำปีที่สำคัญในระดับชาติ และเป็นงานที่มีความยิ่งใหญ่ในระดับโลกต่อไป ซึ่งในปีนี้ได้มีการจัดเตรียมขบวนแห่ทางบกไปมากถึงเกือบ 30 ขบวน ในวันที่ 28 ต.ค.63 เริ่มตั้งแต่พิธีบวงสรวงศาลเจ้าพ่อหลักเมืองในเวลา  04.19 น.

ส่วนขบวนแห่ทางน้ำจะมีขึ้นในวันที่ 30-31 ต.ค.63 ซึ่งในวันที่ 30 เรือแห่ในขบวนจะมุ่งหน้าจากท่าน้ำวัดโสธร ไปยังเส้นทาง อ.บางปะกง และจะแวะให้ประชาชนได้สักการะตามท่าน้ำรายทางรวม 11 จุด ส่วนในวันที่ 31 ต.ค.63 ริ้วขบวนเรือจะเดินทางออกจากท่าน้ำของทางวัด มุ่งหน้าไปยัง อ.บางคล้า โดยจะมีจุดแวะเข้าท่าน้ำตามรายทางรวม 12 จุด

ขณะที่การจัดงานประจำปีของทางจังหวัดที่บริเวณสนามหน้าศาลากลาง จ.ฉะเชิงเทรา นั้น ในปีนี้ได้มีบริษัทเอกชนรายใหญ่จำนวน 2 ราย คือ บริษัทดับเบิ้ลพีแลนด์ จำกัด หรือโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมบลูเทคซิตี้ ใน อ.บางปะกง และธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่ เข้ามาให้การสนับสนุน โดยที่ไม่ต้องใช้เงินงบประมาณของทางราชการแม้แต่บาทเดียว จึงได้มีการเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เดินทางเข้ามาเที่ยวชมภายในงานฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าบัตรเข้าชมและเที่ยวในงาน

ซึ่งภายในงานได้มีการจัดให้มีการประกวดบูธของผู้เข้าร่วมจัดแสดงต่างๆ เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันในด้านความสวยงาม ชวนให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้ามาถ่ายภาพ และแชร์ออกไปสู่ยังสังคมภายนอกในวงกว้าง ขณะเดียวกันในการเดินทางมาเข้าเที่ยวชมงานนั้น ได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากป้องกันโรคจากเชื้อไวรัสโคโรนา พร้อมเดินผ่านเครื่องแสกนก่อนเข้าเที่ยวชมงานด้วยทุกคน ซึ่งหากประชาชนไม่มีหน้ากากใส่มา ยังสามารถมารับฟรีได้ที่หน้างานอีกด้วย

โดยที่ร้านค้าขายในบริเวณงาน ได้มุ่งเน้นทางด้านความสะอาดและจำหน่ายสินค้าในราคาที่เป็นธรรม มีป้ายบอกราคา ปริมาณ และจำนวนสินค้า เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการจัดการจราจรโดยการปรับเปลี่ยนการเดินรถให้เป็นเส้นทางวันเวย์ในช่วงระหว่างเวลา 18.00-24.00 น. ตลอดทั้ง 12 วัน เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรไม่ให้เกิดปัญหาด้านการจราจรติดขัด โดยเฉพาะ ถ.มรุพงษ์ และ ถ.มหาจักรพรรดิ์ บริเวณโดยรอบศาลากลาง

ซึ่งจะมีการจัดให้มีจุดจอดรถให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายไว้คอยบริการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ที่บริเวณลานจอดรถขอทางวัดโสธรวรารามวรวิหาร ค่าย ช.พัน 2 รอ. (ค่ายศรีโสธร) ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีฉะเชิงเทรา (สาขา2) ลานจอดรถวัดเมือง ศูนย์การเรียนรู้เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา (KCC) และตลาดบ่อบัว

ทั้งยังห้ามผู้ที่เคยประกอบอาชีพโบกรถเพื่อรับฝากรถริมทาง หรือเอกชนที่ใช้พื้นที่สาธารณะมาหารายได้อย่างไม่ถูกต้องโดยเด็ดขาด โดยอาจต้องเรียกมาทำความเข้าใจ หรือหาอาชีพใหม่ให้ทำ เช่น ให้ใช้พื้นที่ค้าขายทดแทนการเรียกโบกรถเก็บเงินค่าจอด นายไมตรี กล่าว

ซึ่งในการจัดงานแถลงข่าววันนี้ ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ได้นั่งยานยนต์ไฟฟ้าของบริษัทไมน์โมบิลิตี คอร์ปอเรชั่น จำกัด รุ่น สปาวัน เดินทางมาเข้าร่วมแถลงข่าวที่บริเวณภายในรั้วกำแพงพระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร ชั้นนอกทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของทางวัด โดยมี นพ.มณเฑียร คณาสวัสดิ์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ฉะเชิงเทรา นายอรรถพล วรรณกิจ ผอ. ททท. สำนักงานฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.นเรริช สุคนธวิท รอง ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา

และนายพงศธร ถาวรวงศ์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา มาร่วมแถลงข่าวถึงมาตรการ และการเตรียมการต่างๆ ภายในงาน โดยบรรยากาศได้มีการจัดการแสดงดนตรีไทย ด้วยวงระนาดบรรเลงเพลงขับกล่อม และการแสดงจากนักเรียน ซึ่งเป็นบุตรหลานของชาว จ.ฉะเชิงเทรา จากสถานศึกษาในพื้นที่ มาร่วมแสดงประกอบภายในงานได้อย่างสวยงามและน่าชื่นชม โดยเฉพาะการรำถวายหลวงพ่อ จนเป็นที่ประทับใจของผู้มาร่วมภายในงานแถลงข่าววันนี้