ฉะเชิงเทรา – สาวใช้แสบ ฉกเอาทรัพย์ในกระเป๋าเงินนายจ้างก่อนแอบย่องเข้ามาวางเพลิงเผาเรือนซ้ำหวังอำพรางคดี ขณะนายจ้างกำลังหลับใหลพักผ่อนโชคดีสำลักควันไฟจนตื่นขึ้นมาช่วยกันดับเอาไว้ได้ทัน สุดท้ายจนมุมด้วยภาพจากกล้องวงจรปิดยอมรับสารภาพสิ้นต้องการนำเงินไปส่งค่างวดรถ และเลี้ยงดูลูกน้อยสองคนวัย 6 ขวบ และ 10 ขวบ
วันที่ 12 ก.ย.61 เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางคล้า พร้อมสายตรวจตู้ยามประจำตำบลเสม็ดใต้ ได้เข้าทำการควบคุมตัว น.ส.จันจิรา คงเจริญ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/1 ม.2 ต.คลองขุด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา อาชีพรับจ้างเป็นแม่บ้านรับเลี้ยงเด็ก ที่ก่อเหตุแอบฉกเงินในกระเป๋าของนายจ้าง ที่วางไว้บนโซฟาภายในบ้านเลขที่ 81/1 ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.วรรณษา วาณิชย์ถนอม อายุ 31 ปี ผู้เป็นนายจ้างไป
ก่อนที่จะหวนกลับมาก่อเหตุวางเพลิงเผาบ้านหลังดังกล่าวเมื่อช่วงเวลา 05.00 น.ของวันนี้ ขณะที่นายจ้างพร้อมด้วยสามีกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ที่บนชั้นสองของตัวบ้าน แต่โชคดีที่คนรับใช้ภายในบ้านรายอื่นตกใจตื่นขึ้นมาเห็นก่อน ร้องเรียกให้เจ้าของบ้านมาช่วยกันดับเพลิงเอาไว้ได้ทัน จึงทำให้พื้นบ้านซึ่งเป็นแผ่นไม้ปาเก้ ภายในห้องนั่งเล่นหน้าบ้านพร้อมด้วยโซฟาชุดใหญ่ถูกเพลิงเผาไหม้เสียหายไปทั้งชุด และตัวอาคารภายในบ้านถูกควันไฟรมจนมีคราบเขม่าสีดำฟุ้งกระจายติดไปทั่วทั้งหลัง
หลัง ร.ต.อ.สิทธิศักดิ์ บัวธรา และ ร.ต.อ.ประมวล พูลศิลป์ รองสารเวรสอบสวน สภ.บางคล้า ทั้งผลัดกลางคืนและผลัดกลางวัน เดินทางมาทำการสอบสวน น.ส.จันจิรา ยอมรับสารภาพเพราะจนมุมด้วยหลักฐานว่า ได้เข้ามาทำงานให้นายจ้างมาเป็นเวลาประมาณ 1 เดือนเศษ ก่อนที่จะแอบฉกทรัพย์สินจากในกระเป๋าใส่เงินของนายจ้างที่วางเอาไว้อยู่ในห้องนั่งเล่นบนโซฟาไปจริงเป็นจำนวนเงินกว่า 3,000 บาทเศษ
จากนั้นจึงกลับไปยังบ้านพักในพื้นที่ ต.คลองขุด ซึ่งเป็นตำบลใกล้เคียงพื้นที่ติดกัน แต่เกรงว่านายจ้างจะตื่นขึ้นมาแล้วรู้ว่าแอบขโมยเงินจากกระเป๋าไป จึงได้คิดวางแผนตื่นขึ้นมาตั้งแต่ในช่วงเช้ามืดเพื่อนำน้ำมันเบนซินใส่ขวดเครื่องดื่มน้ำอัดลมมาเทลาดวางเพลิงเผาโซฟาเพื่ออำพรางคดี
โดยตนเองนั้นต้องการนำเงินที่ขโมยนายจ้างไปส่งค่างวดรถจักรยานยนต์ ที่ยังหาเงินส่งไม่ได้จำนวน 2,400 บาท และใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรที่ยังอยู่ในวัย 6 ขวบ และ 10 ขวบอีก 2 คน เนื่องจากตนเองมารับจ้างเลี้ยงดูบุตรของนายจ้างได้เงินค่าจ้างเพียงวันละ 250 บาท ส่วนสามีมีอาชีพเป็นช่างเชื่อมมีรายได้รวมกันยังไม่พอใช้จ่ายในบ้าน จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้น น.ส.จันจิรา กล่าว
ด้านนายน้อย (นามสมมุติ) อายุ 59 ปี บิดาของเจ้าของบ้านเกิดเหตุกล่าวว่า อยากฝากเตือนไปยังผู้ที่คิดจะจ้างคนเข้ามาทำงานใกล้ชิดในบ้านพักอาศัยด้วยว่า ขอให้ดูให้ดีๆ ต้องรู้หัวนอนปลายเท้าให้มากที่สุด สำหรับตนเองนั้นก็คิดว่าได้คัดเลือกดูมาเป็นอย่างดีแล้ว เพราะเห็นว่าเป็นคนที่มีพื้นเพอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ก็ยังมาถูกลอบก่อเหตุลักทรัพย์ และวางเพลิงเผาบ้านแบบนี้อีก
ซึ่งหากไม่มีคนตื่นมาเห็นบ้านก็อาจจะถูกเพลิงเผาไหม้ไปหมดทั้งหลัง รวมถึงเจ้าของบ้านคนที่กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในบ้านก็อาจเสียชีวิตตายในกองเพลิงไปพร้อมกันหมดทั้งครอบครัวด้วย นายน้อย กล่าว
และกล่าวต่ออีกว่า หากเราเลือกคนรับใช้ที่ไม่ดีเข้ามาอยู่ด้วยและรู้เส้นทางเข้านอกออกในภายในตัวบ้านเป็นอย่างดีนั้น ก็ยิ่งมีอันตรายมาก เช่น แม่บ้านเลี้ยงเด็กรายนี้ ที่แอบเข้ามาก่อเหตุในช่วงเช้ามืดในขณะที่คนในบ้านกำลังนอนหลับกันอยู่ และหลังจากก่อเหตุแล้วยังเดินทางกลับไปบ้านก่อนที่จะอาบน้ำเดินทางกลับมาทำงานใหม่ตามปกติในช่วงเช้าเวลา 08.00 น.
โดยทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีกทั้งยังเข้ามาช่วยเก็บกวาดถูบ้านตรงบริเวณจุดเกิดเหตุที่ได้ลงมือเผาไว้อีกด้วย แต่พอในช่วงสายบุตรสาวและบุตรเขยของตนนั้นได้รู้สึกเอะใจ จึงได้เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านดูจึงทราบว่าคนใช้รายนี้เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ จึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจให้เข้ามาทำการควบคุมตัวไปดำเนินคดี ทั้งที่ครั้งแรกตนเข้าใจว่าเป็นเหตุไฟฟ้าลัดวงจรที่โครมไฟก่อนตกลงมาลุกไหม้โซฟาที่ตั้งอยู่กลางพื้นห้องนั่งเล่นดังกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: