ฉะเชิงเทรา – แยกให้ชัด ไทยชนะ หมอชนะ 2 แอปพลิเคชั่นที่ ประชาชนสุดงุนงง ทำหน้าที่ในการเก็บข้อมูลที่แตกต่างกัน แต่สามารถใช้งานควบคู่กันได้ ถือเป็นตัวช่วยบ่งชี้ถึงสถานะความเสี่ยงในการติดตามตัวย้อนกลับ และเก็บข้อมูลรายบุคคล เพื่อแจ้งเตือนค้นหาผู้มีความเสี่ยงให้แก่ประชาชน ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคจากเชื้อโควิด 19 ได้ หากใช้ทั้ง 2 แอปควบคู่กัน จะทำให้ประเทศไทยเราชนะโรคนี้ได้
วันที่ 25 พ.ค.63 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมศูนย์ข้อมูลอาเซียน บริเวณชั้น 1 อาคารศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ได้กล่าวชี้แจงถึงความแตกต่างระหว่างแอพพลิเคชั่นหมอชนะ ที่ “กลุ่มช่วยกัน” ริเริ่มจัดทำขึ้นมา ก่อนส่งมอบให้ใช้แก่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงสาธารณสุขนำไปใช้งาน
กับแอปพลิเคชั่นไทยชนะ ที่ทางรัฐบาล และ ศบค.ได้นำมากำหนดใช้ในร้านค้า สถานบริการ และ ห้างสรรพสินค้า ต่างๆ เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการตามมาตรการผ่อนปนได้ โดยให้ประชาชนทำการเช็คอินทั้งก่อนเข้าไป และก่อนกลับออกมายังภายนอก เพื่อใช้ทำการเก็บข้อมูลของลูกค้าผู้มาใช้บริการ ในการนำไปประมวลผลหาความเสี่ยงของประชาชน เป็นตัวช่วยในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด 19
ระหว่างการเดินทางมาร่วมกับ นายสรายุทธ แก้วกุลปรีชา รองผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยสำนักงานประชาชาสัมพันธ์จังหวัด โครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม บลูเทค ซิตี้ ทำการฝึกอบรมข้าราชการ พร้อมให้ความรู้และทำความเข้าใจ ต่อส่วนราชการจากหน่วยงานต่างๆ ในการดาวน์โหลด และใช้งานแอพพลิเคชั่นหมอชนะ เพื่อเก็บข้อมูลความเสี่ยงรายบุคคลว่า
แอพพลิเคชั่น “หมอชนะ” นั้น มีความแตกต่างไปจาก แอพพลิเคชั่นไทยชนะ เนื่องจาก แอพฯ หมอชนะนั้น เป็นการเก็บข้อมูลหรือจดบันทึกข้อมูลของประชาชนแบบรายบุคคล ในการเดินทางไปยังในสถานที่ต่างๆ เพื่อนำไปประมวลผลว่าบุคคลนั้นได้เข้าไปมีส่วนใกล้ชิด กับบุคคลผู้มีความเสี่ยงหรือไม่ ในการประมวลผลข้อมูลความเสี่ยงในตัวบุคคลนั้นๆ ในแต่ละวันว่า มีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด โดยเป็นการเก็บข้อมูลไว้บนเครื่องโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนของบุคคลคนนั้นเท่านั้น
ส่วนแอพฯ ไทยชนะนั้น เป็นการตรวจสอบบุคคลและเก็บข้อมูลของทางร้านค้าผู้ให้บริการ ว่ามีบุคคลใดเข้ามาใช้บริการในร้านค้าในช่วงเวลาใดบ้าง ซึ่งจะมีการจัดเก็บและส่งข้อมูลจากทางร้านค้ากลับไปสู่หน่วยประมวลผลกลาง เพื่อติดตามหาตัวบุคคลผู้มีความเสี่ยงของผู้เข้ามาใช้บริการ หากพบภายหลังว่ามีบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เป็นผู้ติดเชื้อไวรัส โควิด 19 และได้เดินทางเข้าไปใช้บริการที่ไหนเวลาใด
และมีบุคคลใดเข้าไปใช้บริการอยู่บ้างระหว่างที่บุคคลผู้ที่ถูกตรวจพบเชื้อนั้น เข้าไปใช้บริการ ตามที่ร้านค้าได้ลงทะเบียนเปิดให้บริการจากมาตรการผ่อนปนหรือคลายล็อคของรัฐบาล ซึ่งหากนำแอพพลิเคชั่นทั้ง 2 มาใช้แบบควบคู่กัน จะสามารถทำให้ประเทศไทยเรา เอาชนะการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้แน่นอน นายสมโภชน์ กล่าว
–กลุ่มช่วยกัน ลงพื้นที่แปดริ้วรณรงค์ให้ ปชช.ติดตั้งแอป หมอชนะ
–ห้างใหญ่อดีตเคยดราม่า ผู้ว่าฯ โต้กระแสโซเชียล เปิดให้บริการแล้ว
