ฉะเชิงเทรา – เดินจนหมดแรง สิ้นใจยังหาทางกลับบ้านไม่พบ แม่เฒ่าวัย 81 ปีพลัดหลงหายออกจากบ้านมานานกว่า 20 วัน กลายเป็นซากเหลือเพียงแค่กองกระดูกที่ตกหล่นกระจัดกระจายอยู่เกลื่อนพื้นดิน ภายในสวนป่ายูคาลิปตัส ขณะญาติเชื่อมั่นและยืนยันระบุเป็นบุคคลที่สูญหายไป และกำลังออกติดตามหามานานถึง 2 สัปดาห์แล้ว ด้านตำรวจส่งพิสูจน์ทางนิติเวชอีกครั้ง เพื่อยืนยันความแน่ชัด
วันที่ 10 พ.ค.63 เวลา 17.00 น. ร.ต.อ.ธเนษฐ ศรีสงคราม รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งมีผู้พบซากศพมนุษย์ ที่เหลือแต่เพียงแค่เศษกองกระดูกตกกระจัดกระจายเกลื่อน อยู่เต็มพื้นดินภายในส่วนป่ายูคาลิปตัส บนเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ บริเวณด้านหลังโรงเรียนชำป่างามวิทยาคม พื้นที่ ม.8 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบเพียงชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ ตกกระจัดกระจายเกลื่อนไปทั่วบริเวณในรัศมี 20 เมตร ภายในสวนป่ายูคาลิปตัส ที่กำลังแตกกอออกจากโคนต้นที่เพิ่งถูกตัดไปสูงประมาณ 1 เมตร ซึ่งส่วนใหญ่เหลือแต่เพียงกระดูกส่วนซี่โครง และกระดูกท่อนแขน-ขา บางชิ้น พบหัวกะโหลกศีรษะมนุษย์ตกอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ห่างประมาณ 20 เมตร 1 หัว พร้อมทั้งเศษซากกระดูกเพียงเล็กๆ น้อย ที่ไม่สามารถที่จะทำการเก็บรวบรวมกลับมาได้ทั้งหมด
จากการสอบถามชาวบ้านซึ่งเป็นญาติ ที่มาแสดงตนต่อทางเจ้าหน้าที่ทราบว่า โครงกระดูกมนุษย์ที่พบดังกล่าวนี้ น่าจะเป็นของยายตอย หรือ นางตอย สีใส อายุ 81 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ อยู่บ้านเลขที่ 298 ม.8 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเขิงเทรา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดพบซากกองกระดูกมนุษย์ไปประมาณ กว่า 2 กม. ที่ได้หายตัวออกจากบ้านมานานถึงกว่า 2 สัปดาห์ หรือเกือบ 20 วันแล้ว
ทำให้ทางญาติกำลังออกติดตามค้นหาตัวอยู่ แต่ยังหาไม่พบ โดยที่ผู้สูญหายนั้น มีอาการหลงๆ ลืมๆ อยู่บ้าง โดยได้มีการประกาศตามหาคนหายไว้แล้วว่า หากมีใครพบเห็นให้ช่วยแจ้งเบาะแสให้ญาติทราบ ผ่านทางโซเชียล ในสังคมออนไลน์ ตามเพจเฟซบุ๊กในท้องถิ่น แต่ยังไม่มีใครพบตัว จนมีผู้มาพบซากกองกระดูกดังกล่าวเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.เศษของวันนี้
ก่อนที่จะแจ้งไปยังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์เวรจากทาง รพ.สนามชัยเขต ให้ทราบ เพื่อมาทำการตรวจสอบยังในที่เกิดเหตุ โดยในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะทำการส่งซากกระดูกของมนุษย์ดังกล่าว ไปตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ยังที่ รพ.ตำรวจ ในกรุงเทพฯ เพื่อยืนยันความชัดเจนอีกครั้ง ว่าเป็นบุคคล คนเดียวกันกับผู้ที่สูญหายไปหรือไม่ เพื่อที่จะได้ให้ทางญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป หากเป็นบุคคลคนเดียวกันจริง
