X
โม่ง จ่อธนาคาร

จับโม่ง ยืนจ่อหน้าธนาคารพบพิรุธ ค้นตัวมีอาวุธปืนพร้อมชิงทรัพย์

ฉะเชิงเทรา – จับโม่ง ยืนจ่อหน้าธนาคารพบพิรุธ ค้นตัวเจออาวุธปืนพร้อมก่อเหตุชิงทรัพย์แบงก์รวงข้าวสาขาบางวัว เจ้าตัวพยายามอ้างเป็นตำรวจสันติบาล ขณะผกก.บางปะกง หิ้วสอบเครียดนานกว่าครึ่งวัน ก่อนให้ชุดสืบสวนพาตัวไปค้นยังห้องพัก ในเขต กทม. เบื้องต้นพบมูลเหตุมาจากปัญหาหนี้สินท่วมถึงกว่า 4 แสนบาท แต่ยังไม่ยืนยันเป็น ตร.ตามกล่าวอ้างจริงหรือไม่

วันที่ 16 เม.ย.63 เวลา 14.00 น. พ.ต.อ.กิตติสัณห์ ชะนะ ผกก. สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางปะกง ทำการควบคุมตัว นายปัณณเทพษ์ เภตรา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 320/119 ถ.รามคำแหง 2 ต.ดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ ขึ้นรถตู้ตำรวจ สภ.บางปะกง เดินทางไปค้นยังห้องพักในพื้นที่กรุงเทพฯ

นำตัวไปค้นบ้าน

หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลบางวัว นำโดย ร.ต.ท.จินดา พันธุ์วัง พร้อมกำลังสายตรวจรถจักรยานยนต์ได้เข้าทำการควบคุมตัวชายต้องสงสัย จำนวน 1 ราย ขณะกำลังสวมใส่โม่งผ้าสีดำปิดบังใบหน้า สวมเสื้อคลุมแจ็คเก็ตอย่างมิดชิด มายืนอยู่ใกล้กับตู้โทรศัพท์สาธารณะ บริเวณหัวมุมทางเข้าธนาคารกสิกรไทย สาขาบางวัว ตั้งอยู่ริมถนนสายบางนา-ตราด (เทพรัตน) กม.42 เลขที่ 191/5 ม.1 ต.บางวัว เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ผ่านมา

จ่อหน้าแบงก์

จากการตรวจค้นตัวพบมีอาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ กล็อก 19 บรรจุอยู่ในซองกระดาษสีน้ำตาล ขนาด A4 ในสภาพบรรจุกระสุนเข้ารังเพลิงพร้อมใช้งานจำนวน 14 นัด ซึ่งผู้ต้องหาถืออยู่ในมือ ภายในกระเป๋าแบบเป้สีดำขนาดเล็กพบกระสุนปืนขนาด 9 มม. บรรจุอยู่ภายในกระเป๋าอีก 40 นัด ซองกระสุน (แม็กกาซีน) สำรองอีก 1 ซอง ภายในบรรจุกระสุนรวมอีก 14 นัด กุญแจรีโมทรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า 1 พวง

ของกลาง

ในขณะที่กำลังถูกเจ้าหน้าที่เข้าทำการควบคุมตัว ชายรายดังกล่าวได้พยายามอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล แต่หลังจากถูกเข้ารุมล้อมชาร์ทตัวและกดลงไปที่พื้น ได้เปลี่ยนใจบอกว่าไม่ได้เป็นตำรวจแล้ว ก่อนถูกนำตัวมาทำการสอบสวนปากคำยังที่ สภ.บางปะกง เป็นเวลานานถึง กว่า 4 ชม. ดังกล่าว

รับสารภาพ ตั้งใจมาก่อเหตุ

หลังการสอบสวนปากคำโดย พ.ต.อ.กิตติสัณห์ ชะนะ ผกก. สภ.บางปะกง ได้ออกมาให้ข้อมูลกับทางกลุ่มสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวอยู่เป็นจำนวนมากว่า ผู้ต้องหาได้ให้การยอมรับสารภาพว่า ครั้งแรกตั้งใจว่าจะเดินทางมาก่อเหตุชิงทรัพย์ยังที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาดังกล่าวจริง ทั้งยังเตรียมเครื่องแต่งกายสวมทับซ้อนมาไว้สำหรับสับเปลี่ยนด้วยอีกหลายชั้นหลังก่อเหตุ

พ.ต.อ.กิตติสัณห์ ชะนะ

แต่เมื่อมาถึงยังที่บริเวณด้านหน้าธนาคารแล้วกลับเปลี่ยนใจ โดยที่ยังไม่ได้ลงมือก่อเหตุ จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลบางวัวผ่านมาพบเห็นท่าทีพิรุธดังกล่าว จนถูกเข้าทำการตรวจสอบและจับกุมตัวไว้ได้ พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนและกระสุนปืน ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การยอมรับอีกด้วยว่าครั้งแรกที่ตัดสินใจจะมาลงมือก่อเหตุนั้น เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับภาระหนี้สิน ทั้งในระบบและนอกระบบเป็นจำนวนมาก ถึงกว่า 3-4 แสนบาท

สอบเครียด

อีกทั้งทางฝ่ายภรรยาก็ยังตกงาน ไม่มีงานทำ ส่วนกรณีผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลหรือไม่นั้น ต้องขอทำการตรวจสอบก่อน เนื่องจากผู้ต้องหาไม่ได้พกเอกสารใดๆ ที่สามารถยืนยันตัวตนได้ติดตัวมา เบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า “พาอาวุธปืนเข้ามาในเมืองหมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนที่จะทำการควบคุมตัวไปค้นยังห้องพัก เพื่อหาหลักฐานและรถยนต์ที่อ้างว่าได้จอดทิ้งไว้ยังที่บ้าน โดยนั่งรถโดยสารเพื่อที่จะมาก่อเหตุ ต่อไป พ.ต.อ.กิตติสัณห์ ระบุ

ยังไม่ยืนยันตัวบุคคล

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นในกองบัญชาการตำรวจสันติบาล พบว่ามีบุคคลชื่อ “ปัณณเทพษ์ เภตรา” เป็นตำรวจอยู่ในหน่วยงานสังกัดดังกล่าวจริง แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่า เป็นบุคคลรายเดียวกันกับผู้ต้องหาที่เตรียมจะมาก่อเหตุชิงทรัพย์ในวันนี้หรือไม่

สื่อมารอทำข่าวจำนวนมาก

จุดพบพิรุธ

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน