ฉะเชิงเทรา – ชักเย่อ กีฬาจอมพลังระดับแถวหน้าของชาวแปดริ้ว ที่เคยกวาดแชมป์ถ้วยรางวัลระดับประเทศมาอย่างมากมาย สุดอัตคัดไร้แม้แต่สนามฝึกซ้อมที่ได้มาตรฐาน ทั้งยังขาดทุนรอนในการเดินทางไปแข่งขัน ด้านครูอาจารย์ผู้ฝึกสอน ผู้ปกครอง จำต้องควักกระเป๋าจ่ายให้บุตรหลานกันเอง เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่คนทั้งจังหวัด
วันที่ 9 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เข้าเยี่ยมชมสนามฝึกซ้อมนักกีฬาชักเย่อ กีฬาจอมพลังที่น่าภาคภูมิใจของชาว จ.ฉะเชิงเทรา ที่เคยกวาดแชมป์ถ้วยรางวัลระดับประเทศมาให้แก่คนทั้งจังหวัดได้ชื่นชมมาแล้วอย่างมากมายถึงเกือบ 20 ถ้วยรางวัล แต่กลับยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้การสนับสนุนทั้งทางด้านการเงิน งบประมาณในการเดินทางไปแข่งขัน และสนามฝึกซ้อมที่ได้มาตรฐาน ภายในศูนย์กีฬาโรงเรียนวัดโสธรวราราม วรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
ทั้งที่เยาวชนใน จ.ฉะเชิงเทรา นั้นมีชื่อเสียงทางด้านการกีฬาประเภทนี้เป็นอย่างมาก โดยมีถ้วยรางวัลจำนวนมากมาย จากการแข่งขันรายการ สพฐ.เกมส์ เป็นเครื่องการันตีถึงความสามารถ และยังมีนักกีฬาภายในจังหวัดหลายราย ในหลายโรงเรียนนั้น ติดระดับทีมชาติ ทั้งยังเคยเป็นตัวแทนเดินทางไปแข่งขันชักเย่อสากล ยังต่างประเทศ
นายวิโรจน์ สิรถนอมทรัพย์ ครูชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาพละศึกษา โรงเรียนวัดโสธรฯ กล่าวเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทีมนักกีฬาชักเย่อของทางโรงเรียนได้เดินทางไปแข่งขันในรายการต่างๆ มาอย่างมากมายหลายสนาม จนสามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่ทางโรงเรียนและทางจังหวัดมาแล้วอย่างมากมาย โดยเฉพาะเมื่อปีที่แล้วนั้น เคยได้รับถ้วยรางวัลในระดับแชมป์ และรองแชมป์ รองชนะเลิศ ของประเทศมามากถึงเกือบ 20 ถ้วยรางวัล
ขณะที่ในปีนี้ได้รับถ้วยรองแชมป์ทั้งประเภทชาย-หญิง ในรุ่นต่างๆ มาอีก 4 ถ้วยรางวัล ทั้งที่ในด้านของความพร้อมในการฝึกซ้อมของทีมนั้น ยังคงขาดแคลนอุปกรณ์และการสนับสนุนอย่างมาก ทั้งในด้านสนามฝึกซ้อมที่ยังไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันเป็นเพียงสนามพื้นคอนกรีตทาสีเท่านั้น และอุปกรณ์ถ่วงน้ำหนัก หรือเครื่องดึงกำลังนั้นก็ได้ใช้วิธีการดัดแปลงมาจากยางรถยนต์และเชือก นำมาประยุกต์ใช้ในการฝึกซ้อมกันเอง
ทั้งที่กีฬาประเภทนี้เยาวชนในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา นั้นมีขีดความสามารถสูงและเป็นระดับชั้นนำของประเทศ จนมีนักกีฬาในจังหวัดจากหลายโรงเรียนนั้น ติดในระดับทีมชาติและเป็นตัวแทนเดินทางไปแข่งขันยังต่างประเทศเป็นจำนวนมากมาแล้ว เช่น ทีมชักเย่อของโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ นั้นเป็นทีมอันดับหนึ่งของประเทศและเป็นตัวแทนในฐานะทีมชาติไทยชุดเอ นายวิโรจน์ กล่าว
ขณะเดียวกันผู้ปกครองนักเรียนรายหนึ่ง ซึ่งบุตรหลานเป็นนักกีฬาชักเย่อของทีมโรงเรียนแห่งนี้ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวด้วยว่า ความอัตคัดขัดสนของทีมกีฬาชักเย่อโรงเรียนวัดโสธรฯ นั้น ไม่มีแม้แต่ค่ารถเดินทางที่สะดวกสบายให้แก่นักกีฬา โดยในการเดินทางไปแข่งขันทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดนั้น เด็กๆ นักกีฬาต้องเดินทางกันด้วยรถบรรทุกหกล้อแบบสองแถว โดยนั่งรวมกันไปจนเต็มคันรถ เพราะไม่มีรถตู้สนับสนุนในการเดินทางเหมือนกับทีมนักกีฬาในจังหวัดอื่นๆ
อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการไปแข่งขันกินอยู่นั้น ถูกจำกัดให้แค่หัวละ 50 บาทต่อมื้อ ทั้งยังถูกจำกัดรายจ่ายด้วยการตัดค่าเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาสำหรับบางทีมที่เดินทางไปพร้อมกันและตกรอบก็จะไม่ได้รับ จนครู อาจารย์ ผู้ฝึกสอนผู้ปกครอง จำต้องควักกระเป๋าสำรองจ่ายเงินกันเอง นอกจากนี้ยังไม่มีเงินเบิกจ่ายสำหรับการเดินทางไปแข่งขันล่วงหน้าในแต่ละครั้ง โดยจะใช้วิธีให้จ่ายไปก่อนที่จะนำหลักฐานกลับมาขอเบิกเงินคืนจากทางโรงเรียนในภายหลัง ผู้ปกครองรายดังกล่าวเผย
ล่าสุดหลังองค์กรภาคเอกชนทราบเรื่องจึงได้มีบางราย เช่น นายกฤษดา มหาวิริโยทัย ประธานคณะกรรมการตำรวจ (กก.ตร.) สภ.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา และนายสันติ เตียงงา อุปนายกสมาคมเซอร์เวย์ประเทศไทย เจ้าของบริษัทสยามมิตรเซอร์เวย์ ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้ทำการรวบรวมเงินกันจำนวน 14,000 บาท มาทำการบริจาคให้แก่ทางทีมชักเย่อของโรงเรียนวัดโสธรฯ เพื่อเป็นทุนสำรองนำไปใช้จ่ายในการเดินทางแข่งขันรายการชิงแชมป์ประเทศไทย ที่แฟชั่นไอส์แลนด์ กทม. เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ทางจังหวัดฉะเชิงเทราอีกครั้ง ในวันที่ 25 ส.ค.61 ที่จะถึงนี้
