แกนนำชาวบ้านเข้าพบ ผอ. แขวงการทางภูเก็ต ใครโค่นต้นไม้ กว่าร้อยปี

ภูเก็ต-แกนนำชาวบ้านกว่า 10 คนทวงถาม ผอ แขวงการทาง จังหวัดภูเก็ต ถึงการตัดต้นไม้ริมถนนบริเวณบ้านต้นแซะ เขตติดต่อบ้านท่าฉัตรชัย อำเภอถลาง ว่าใครสั่งตัดตัดแล้วเอาไปใหนทำกันถูกต้องหรือไม่ พ้รอมส่งหนังสือถึงอธิบดีป่าไม้

วันนี้ (19 พ.ย.62) นายแนบ สินทอง ประธานชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายสำราญ สินธ์ทอง ประธานมูลนิธิอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน พร้อมด้วยตัวแทนเครือข่าย ปปช. เครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และชาวบ้าน เดินทางเข้าพบกับนายสมหวัง โลหณุต ผู้อำนวยการแขวงการทางจังหวัดภูเก็ต เพื่อสอบถามเหตุผลในการตัดต้นยางนา บริเวณโค้งบ้านต้นแซะ ถนนเพชรเกษมสายโคกกลอย-ภูเก็ต หลังมีการตัดต้นยางนาอายุกว่า 100 ปี ออกไปจากแนวริมถนนตัดตันไม้พื่ออะไร มีการอนุญาตถูกต้องหรือไม่ ได้มีการทำประชา-พิจารณ์โดยกระบวนการที่ถูกต้องหรือไม่ ตัดแล้วนำไม้ไปใช้ถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ ทำไมไม่ใช้วิธีการที่ให้ต้นไม้อยู่คู่กับสังคมได้ เป็นตั้นจึงใคร่ขอให้การตัดตันไม้ครั้งนี้ นำมาสู่การปฏิบัติที่ชัดเจนในการตัดตันไม้ในเขตทางในอนาคตต่อไป เพราะยังมีตันไม้สวยงามที่ชาวบ้านหวงแหนในเขตทางในอีกหลายพื้นที ซึ่งดูเหมือนกำลังจะถูกตัดลงด้วย โดยขอให้มีการทำประชาพิจารณ์ที่ถูกต้อง ประกาศให้ชาวบ้านไม้รับรู้ถึงเหตุผลที่จำเป็น และเมื่อตัดแล้วจะนำไม้ไปเก็บรักษาหรือใช้ประโยชน์ในเรื่องใดโดยนายแนบ กล่าวว่า การมายื่นหนังสือในครั้งนี้เพื่อสอบถามทางแขวงการทางจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ส่งหนังสือไปถึงกรมป่าไม้เพื่อขอให้ตัดต้นไม้ดังกล่าว เนื่องจากขณะนี้ประชาชนมีความสงสัยถึงกรณีการตัดต้นไม้ดังกล่าว ว่า ตัดทำไม มีเหตุผลอะไรในการตัดต้นยางนาที่โคกกลอย ในการตัดได้มีการปฏิบัติตามขั้นตอนของระเบียบหรือไม่ การนำไม้เคลื่อนที่ออกจากตอไม้ มีการดำเนินการคำขอใบเบิกทางถูกต้องตามกระบวนการหรือไม่ และไม้นำไปไว้ที่ไหน เพื่อประโยชน์อะไรทางด้าน ผอ. นายสมหวัง โลหณุต ผู้อำนวยการแขวงการทางจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การดำเนินการตัดต้นไม้ดังกล่าวมีการดำเนินการตามขั้นตอน โดยที่ผ่านมา ทางแขวงการทางได้รับการร้องเรียนจากบริษัทแห่งหนึ่ง และชาวบ้านในพื้นที่ให้ทางแขวงการทางตรวจสอบต้นไม้บริเวณดังกล่าวเนื่องจากอยู่ติดกับสายไฟฟ้า เกรงว่าจะเกิดอันตรายหากมีการหักโค่น ทางเจ้าหน้าที่จึงได้มีการตรวจสอบพบว่าไม้ยืนต้นตายและกิ่งผุ จำนวน 10 ต้น ซึ่งอาจจะหักโค่นได้ แขวงฯ ภูเก็ตจึงได้ทำหนังสือถึงสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพังงา ขออนุญาตตัดโค่นต้นไม้ยืนต้นตายและกิ่งผุเพื่อป้องกันอันตราย หลังจากนั้นได้รับการแจ้งว่าให้แขวงการทางยื่นขออนุญาตที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขาจังหวัดกระบี่