X

รุมต่อว่านักดำน้ำลอบยิงปลาหมอทะเล

ชุมพร–รุมต่อว่านักดำน้ำลอบยิงปลาหมอทะเล5ตัว เจ้าของเรือพบตร.อ้างไม่รู้ไม่เห็น

จากกรณีที่ผู้ใช้ Facebook ชื่อ Tep Keerati ได้ใช้โทรศัพท์ถ่ายนักดำน้ำ ซึ่งมากับเรือท่องเที่ยวชื่อ โอ๊ตไดฟ์วิ่ง ทะเบียน 4422 00616 ที่มาทำการยิงปลาหมอขนาดใหญ่ กว่า 5 ตัว บริเวณท่าแพ ซึ่งเป็นจุดดำน้ำดูปะการัง ของเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร และได้โฟสต์ลงเฟซบุ๊กตำหนิในพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวดังกล่าวที่ไร้จิตสำนึก จนเมื่อเช้า(28 มี.ค.61)ทางเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯได้ตรวจสอบพบว่าเป็นความจริง จึงได้เข้าแจ้งความเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากน้ำชุมพร ติดตามนักดำน้ำทั้สองคนมาดำเนินคดี  ตาม พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16 (3)ห้ามมิให้บุคคลใด นำสัตว์ออกไปหรือทำด้วยประการใดๆให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ มาตรา 16 (15)ห้ามมิให้บุคคลใด นำเครื่องสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆเข้าไป เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และปฏิบัติตามเงื่อนไขซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้อนุญาตนั้นกำหนดไว้ ตามกฎหมาย

ที่ สำนักงาน ททท.ชุมพร นางวิริยา แก่นแก้ว ผอ.ททท.ชุมพร เปิดเผยว่า “ทราบข่าวดังกล่าวด้วยความสลดใจ แต่คิดว่าคงไม่กระทบกับการท่องเที่ยวทางทะเลของ จ.ชุมพร แต่อย่างใด เนื่องจาก ททท.ชุมพรได้มีกิจกรรม ในการสร้างความเข้าใจกับ นทท.ที่มาทองเที่ยวชุมพร โดยเฉพาะการดำน้ำ ในมีความเข้าใจในธรรมชาติใต้ท้องทะเล รวมถึงกิจกรรมการเก็บขยะใต้ท้องทะเลอยู่สม่ำเสมอ รวมถึงการสร้างกลุ่มมวลชนเพื่อระวังการทำลายแหล่งท่องเที่ยว โดยทำงานร่วมกับอุทยานหมู่เกาะชุมพร

การยิงปลาของนักดำน้ำสกูบ้า ที่ ชุมพร ถือว่าเป็นการทำลายห่วงโซ่อาหารที่สำคัญ เนื่องจากแหล่งตกปลา ที่อยู่นอกเหนือเขตอุทยานฯในจ.ชุมพร มีอยู่มากมาย จึงอยากขอว่าในเขตอุทยานขอให้เป็นที่อยู่ของปลา และ สัตว์น้ำทะเล ได้เจริญเติบโตอย่างเต็มที่เพื่อท้องทะเล  ททท.ชุมพรได้สร้างเพจ ชื่อ “ตาสับปะรดสวี” ไว้ให้ นัก ททท.ที่พบเห็น สิ่งที่ไม่ดีทางด้านการท่องเที่ยวได้แจ้งให้ ททท.ชุมพรได้รับทราบ อย่างกรณีครูเทพ ที่โพส เรื่องการยิงปลา ก็ เป็นการทำงานร่วมกับ ททท.ชุมพร ด้วย

ทางด้าน นางสาว อรญา กะนะแสง อายุ 31 ปี ชาว กทม. อาชีพ พนักงานเอกชน นทท.ที่เดินทางมาเที่ยวชุมพร กล่าวว่า “รู้สึกเสียใจที่มีพฤติกรรมทำลายแหล่งทรัพยกากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง โดยเฉพาะนักดำน้ำที่ใส่ชุดสกูบ้ายิ่งไม่สมควรกระทำ ควรช่วยกันอนุรักษ์ มากกว่า สังคมควรประณาม การกระทำแบบนี้

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น. นางวิยะดา จันทร์เพ็ญ อยู่บ้านเลขที่ 340/ 2 หมู่ที่ 9 ตำบลปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร ได้เดินทางมาพร้อมกับนำเอกสารเกี่ยวกับเรือ โอ๊ตไดฟ์วิ่ง ทะเบียน 4422 00616 ที่ปรากฏในภาพข่าวมาแสดงต่อรุดเข้าพบ ร.ต.อ.อุทัยศิลป์ แสงโทโพธิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.ปากน้ำชุมพร เจ้าของคดี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ โดยไม่ต้องมีหมายเรียก

นางวิยะดา จันทร์เพ็ญ เปิดเผยว่า เรือโอ๊ตไดฟ์วิ่ง ทะเบียน 4422 00616 ที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น ยอมรับว่าเป็นเรือของตนจริง โดยเรือลำดังกล่าวจดทะเบียน มีใบคุมเรือถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่างจากนายทะเบียนกรมเจ้าท่า  และเรือลำดังกล่าว นายบำรุง จันทร์เพ็ญ ซึ่งเป็นสามีของตน ได้นำไปจดใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศน์สาขาภาคกลาง เขต 3 ของกรมการท่องเที่ยว  โดยได้ใบอนุญาตเลขที่ 13/02360 ระบุประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามมาตรา 15 แห่ง พรบ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 ประเภท เฉพาะพื้นที่ โดยใช้ชื่อเป็นภาษาไทย ว่า ธวัชชัยไดร์ฟวิ่ง

นางวิยะดา กล่าวว่า และเมื่อวานนั้น ได้มีนักท่องเที่ยว จำนวน 2 คน ได้มาเช่าเรือ โอ๊ตไดฟ์วิ่ง ทะเบียน 4422 00616 เพื่อออกไปดำน้ำดูปะการัง โดยมีสามีของตน คือนายบำรุง เป็นนายท้าย ควบคุมเรือลำดังกล่าวออกไปด้วยตนเอง ส่วนสามีจะนำนักท่องเที่ยวออกไปดำน้ำที่ไหนนั้น ตนเองไม่ทราบ ไม่ทราบด้วยว่านักท่องเที่ยวที่เช่าเรือออกไปนั้นไปก่อเหตุอะไรบ้าง จนเป็นข่าว ตนจึงได้เดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ใจเนื่องจากตนเป็นเจ้าของเรือ ซึ่งไม่รู้ไม่เห็นในการกระทำของนักท่องเที่ยวทั้งสองแต่อย่างใด

นางวิยะดา ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนนักท่องเที่ยวที่ดำน้ำแล้วไปยิงปลาในเขตอุทยานฯนั้น ตนก็ให้พนักงานสอบสวน ต้องสอบปากคำจากนายบำรุง สามีตน ซึ่งขณะนี้ ได้มีทีมนักวิจัย ได้เช่าเหมาเรืออีกลำเป็นเวลา 3 วัน เพื่อไปเก็บข้อมูลเกี่ยวกับทรัพยากรสัตว์น้ำ และจะกลับเข้ามาอีก 2 วัน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สาธิต ศรีหฤทัย

สาธิต ศรีหฤทัย

สังคมที่ดี จะได้ชีวิตที่ดี