ชุมพร จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ยิงดช.โก อายุ 9 ขวบชาวเมียนมาร์ กระสุนพุ่งเข้าที่ศรีษะด้านหน้าขวาเหนือคิ้วเล็กน้อย ต้องส่งตัวผ่าตัดเพื่อเอากระสุนออกอย่างเร่งด่วน ความคืบหน้า
เมื่อเวลา 12.15น.ที่ สภ.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร ภายหลังที่พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ ขวัญแก้ว ผกก. สภ.ละแมได้มอบเหรียญหลวงพ่อทวด แก่ตำรวจในการประชุมเพื่อออกปฏิบัติหน้าที่ผกก. สภ.ละแม ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในกรณีดังกล่าวว่า ในขณะนี้เด็กอยู่ในอาการปลอดภัยแล้ว เนื่องจากกระสุนไม่ถูกเนื้อสมองที่สำคัญ เพียงแต่รูกระสุนเข้าใหญ่มาก แต่กินผิวหนังบนศรีษะไปออกด้านบนศรีษะในช่วงแรกที่ดูเสมือนเด็กอาการหนักถึงขั้นชีวิตเพราะกระสุนฝังในต้องส่งไปผ่าเอากระสุนออก ที่ รพ.ชุมพรเมื่อแพทย์ที่ รพ.ชุมพรตรวจอย่างละเอียดจึงพบว่ากระสุนไมได้ฝังในสมอง แต่เจาะเข้าหน้าผากแล้วทะลุออกไปด้านบนศีรษะ ในส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุทราบชื่อคือนายธำรง บุตธิจักร อายุ 31 ปีบ้านเลขที่285 หมู่ที่6 ต.ชานุมาน อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ เป็นคนงานในโรงงานแปรรูปไม้ข้างที่เกิดเหตุได้หลบหนีไปตั้งหลักก่อนจะเดินทางมามอบตัวกับตร.สภ.ละแม นายธำรงค์อ้างว่า ขณะออกจากห้องพักพร้อมปืนอัดแก๊สที่ทำขึ้นมาเองโดยกระสุนเป็นลูกแก้ว เพื่อนำไปยิงหมูป่า แต่เกิดพลาดไกลั่นทำให้กระสุนไปถูกเด็กที่กำลังเก็บผักบุ้งในบึง กระสุนลูกแก้วพุ่งไปโดนบริเวณศรีษะ ด้วยความตกใจจึงได้หลบหนี และมาทราบว่าเด็กปลอดภัย และ ตร.ได้ออกหมายจับ จึงได้เดินทางมามอบตัว
ข่าวน่าสนใจ:
- ชาวบ้านผวาพบวัตถุระเบิดตกเกลื่อนกลาดกลางถนนตำรวจเร่งเข้าตรวจสอบ
- สาวสวนยาง พาแม่วัย 73 ปี ร้องสาธารณะสุขขอรับเงินเยียวยา เหตุ รพ.ในสังกัดผ่าตัดไส้ติ่งแตก
- ทัพมดค้ามนุษย์ยังทะลักชายแดนระนอง ฉก.ร.25 กกล.เทพสตรี จับกุมแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา พร้อมผู้นำพา รวม 11 คน
- นนทบุรี จับช่างติดตั้งกล้องวงจรปิด แอบเข้ามาลักรถเก๋งในบ้านลูกค้า ผ่านไปวันเดียวโจร ชะล่าใจหวังย้อนกลับมาลักทรัพย์อีกครั้งโดนตำรวจรวบคาบ้าน
อย่างไรก็ตามทางตร.จะได้สอบเค้นหาความจริงเนื่องจากนายธำรงเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อนแรงงานชาวพม่าที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุ แต่ไม่ถึงขนาดรุนแรงจนลงมือลงไม้กันว่าจะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ตร.กำลังสอบปากคำนายธำรงหลังจากนั้นได้ตั้งข้อหาพยายามฆ่า พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่จำเป็น ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: