ชุมพร-หัวหน้าอส.ถูกขู่จากนักการเมืองท้องถิ่น มวลชนไล่ หลังแฉ ตร.เรียก1ล้านปิดคดีค้ายา
จากกรณีนางชลดา คลังทรัพย์ 34 ปี บ้านเลขที่ 58/1 หมู่ที่ 8 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร อาชีพ ค้าขาย เข้าพบสื่อมวลชน พร้อมทั้งหลักฐานต่างๆ กรณี สามีถูกยัดข้อหา ร่วมกันค้ายาเสพติด มีนายตำรวจระดับสารวัตร เรียกเงินเพื่อปิดคดี 1ล้าน ต่อรองเหลือ 7 แสนบาท จ่ายเงินแล้ว ดันมี จนท.อส.บุกเข้าจับกุม ตัวสามี และ นางชลดา นำตัวไปสอบ พบคลิป ตำรวจเรียกเงิน อ้างแบ่งชุด อส.ด้วย 2 แสน ป้องกัน จว.โทรถาม สารวัตร ให้ นักการเมืองท้องถิ่นคนสนิท เอามาคืน ไม่กี่วันหมายจับสามีออก ตัดสินใจดับเครื่องชน ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้ว
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 8 ตค.61 ที่กองร้อย อส.จ.ชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร จสต.ฐิติวัชร์ บุญกิจ ป้องกัน จ.ชุมพร หัวหน้าชุด อส.ชุมพร เปิดเผยว่า สืบเนื่องเมื่อวันที่ 5 พ.ค.61 ที่ผ่านมาชุดเฉพาะกิจของจังหวัดได้จับกุบผู้ต้องหา นายผดุงเกียรติ หรือ มอส เกลี้ยงรส และต่อมาได้จับกุม น.ส.จารุมล อินเทพมณี ภรรยาได้ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ในหมู่ที่ 6 ต.สลุย อ.ท่าแซะ พร้อม ยาไอซ์ จำนวนหนึ่ง โดยนายมอส ซึ่งยังอยู่ในอาการเหมือนคนเมายา ให้การวกวน และได้พาเจ้าหน้าที่ไปเอายาไอซ์ จำนวน 21 ก.ก. ที่ฝั่งอยู่ในสวนปาล์มข้างบ้าน และได้ซัดทอดว่า ไอซ์ ที่ดังกล่าวเป็นของอาทิตย์ หรือแดง แซ่ลิ่ง อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นน้าของ น.ส.จารุมล ภรรยา แต่จากการตรวจสอบหลักฐานต่างๆพร้อมพยานแวดล้อมสอบหลักฐานต่างๆไม่ว่าจะเป็นการใช้ โทรศัพท์มือถือ หลักฐานการโอนเงิน ไม่มีหลักฐานการเชื่อมโยงไปยัง นายอาทิตย์หรือนายแดง แต่อย่างใด จึงบันทึกการจับกุมก่อนนำตัวทั้งสองพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สลุย เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป
ป้องกันจังหวัดชุมพร กล่าวว่า หลังจากนั้นผ่านไปประมาณซัก 2 เดือน ได้รับข่าวว่านายแดงหรืออาทิตย์ อาศัยอยู่บ้านภรรยาที่แถวๆแนวตะเข็บชายแดน ระหว่างรอยต่อระนองกับอำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร จึงได้นำกำลังไปเพื่อขยายผลจากการจับกุมสามีภรรยาทั้งสอง และเมื่อมาถึงบ้านก็พบตัวนายอาทิตย์และน.ส.ชลดา คลังทรัพย์ ภรรยา จึงแสดงตัวและขอตรวจค้นแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย พบเพียงอาวุธปืน 1 กระบอก จึงเชิญตัวทั้ง 2 คน มาที่กองร้อย อส.จ.ชพ. เพื่อสอบสวนในคดีที่ถูกซัดทอดเรื่องไอซ์ จำนวน 21 กก.
ป้องกันจังหวัดชุมพร กล่าวต่อไปว่า ในเบื้องต้นอาวุธปืน ได้รับอนุญาตถูกต้อง และขอตรวจสอบการใช้โทรศัพท์มือถือ ปรากฏว่าในโทรศัพท์ มีคลิปหนึ่งซึ่งหลังจากการสอบถามภรรยาของนายแดง ในช่วงระยะเวลาที่นายแดงโดนกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจำนวนต่างๆและแดงก็หลบหนีไป ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีก็ได้เรียกภรรยาของนายแดงมาเจรจา ในเรื่องต่างๆที่จะหาวิธีการในการช่วยเหลือนายแดง สรุปว่าจากการฟังคลิปดังกล่าว ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกร้องได้รับค่าตอบแทนในการช่วยเหลือหนี้เป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาท และก็หลังจากนั้นก็ได้ต่อรองเหลือ 7 แสนบาท ก็ได้ทำการจ่ายเป็นจำนวน 2 งวดๆแรก 4 แสนบาท งวดที่ที่สองอีก 3 แสนบาท
จสต.ฐิติวัชร์ บุญกิจ ป้องกัน จ.ชุมพร หัวหน้าชุด อส.ชุมพร กล่าวต่อว่า ที่ผมติดใจมากก็คือในคลิปได้พาดพิงมาวาได้จ่ายเงินที่เรียกรับมาให้กับทาง ชุดจับกุมคือชุดเฉพาะกิจจังหวัด จำนวน 2 แสนบาท ซึ่งสร้างความเสียหายให้องค์กรเป็นอย่างมาก จึงได้โทรไปหาทางพนักงานสอบสวนคันดังกล่าวว่า มันมีเรื่องเกิดขึ้น ท่านทำอย่างนี้ทำให้ผมเสียหายถ้าเรื่องอย่างนี้ถึงผู้บังคับบัญชา ผมโดนเล่นตายแน่ ขอให้ท่านดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วย ในขณะเดียวกันทาง น.ส.ชลดา ก็ได้โทรไปหาพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีและนักการเมืองคนหนึ่งที่มารับเงิน จำนวน 7 แสนบาท ตามปรากฏในคลิป ให้นำเงินมาคืนภายใน 2 ชั่วโมงที่กองร้อย อส.หากไม่มาจะเรียกสื่อทุกสำนักนะครับมาแถลงข่าว ซึ่งทุกครั้งที่โทรหาทั้งสองคนได้เปิดโฟนเพื่อบันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐาน โดยพนักงานสอบสวนและนักการเมืองท้องถิ่น ตอบกลับให้ใจเย็นๆ อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ และเพียงไม่นานทางนักการเมืองท้องถิ่นคันดังกล่าวก็ได้นำเงิน จำนวน 7 แสนบาทมาคืนที่หน้ากองร้อย อส.แล้วได้ทำการถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานก่อนคืนเงินให้กับ น.ส.ชลดา กลับไป
จสต.ฐิติวัชร์ บุญกิจ ป้องกัน จ.ชุมพร กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ทางสองสามีภรรยา ได้นำเอกสารหลักฐานเป็นหมายเรียกออกมาให้ดูซึ่งตนก็ถือว่าในช่วงที่ออกหมายเรียกตอนนั้นเพื่อเรียกให้ไปเจรจาต่อรองในเรื่องของผลประโยชน์ พอจ่ายเงินเสร็จ เขาก็บอก นายอาทิตย์ หรือ แดงว่าให้กลับมาอยู่บ้านได้แล้วนะครับไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้นแล้วมาทำงานได้ตามปกติหมายจับไม่มีออก ไม่ดำเนินคดีใดๆทั้งสิ้นเพราะนายอาทิตย์ หรือนาย แดงไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่วันดีคืนดีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากที่เรียกเงินคืน ก็ปรากฏว่ามี พนักงานสอบสวนออกหมายจับนายอาทิตย์ หรือ แดง ในคดี พรบ.ยาเสพติด
จ.ส.ต.ฐิติวัชร์ บุญกิจ ป้องกัน จ.ชุมพร กล่าวว่า หลังจากที่ตนเองไม่ยอมในกรณีดังกล่าว สร้างความไม่พอใจให้กับนักการเมืองท้องถิ่นคนดังกล่าวเป็นอย่างมาก และมีการโทรศัพท์มาพูดคุยและขู่ว่า จะเอามวลชนมากดดัน ขับไล่ตน ซึ่งตนเองก็ไม่หนักใจหรือหวั่นวิตกอะไร เพราะ 1 ปีเต็มที่มาทำงานด้านยาเสพติด จับกุมไป 300 กว่าคดีมีทั้งคดีเล็กคดีใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดชุมพร การทำงาน อาจจะมีเรื่องกระทบกระทั่งแต่ เพื่อปกป้องคนดีๆ ปกป้องสังคมกับลูกหลานของเราได้อยู่อย่างอบอุ่นในอนาคต
ข่าวนี้
