ชุมพร–ผกก.หัวแหลมย่องเงียบมือมีดฟันพี่เขย ทำแผน พบขู่ฆ่าต่อเนื่อง
วันที่ 24 กย.61 ที่ สภ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร พ.ต.อ.นิรันดร์ กันจู ผกก. สภ.หลังสวน สั่งการให้ ร.ต.อ.ธนกฤติ หลงสวัสดิ์ พงส.เจ้าของคดี นายยงยุทธ มุสิกสาร อายุ 29 ปี มือมีดที่สังหาร นายธีระพงศ์ ทองประสพ อายุ 51 ปี พี่เขย เสียชีวิต ตามข่าวที่นำเสนอมาแล้ว เพื่อนำผู้ต้องหาที่ให้การรับสารภาพ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ
ที่บริเวณ บ้านเลขที่ 76 หมู่ที่ 18 ต.นาพญา อ.หลังสวน จ.ชุมพร พบว่า มีเพียงญาติพี่น้องของนายยงยุทธไม่กี่คน ที่มารอดูการทำแผน เนื่องจากไม่มีชาวบ้านหรือ ญาติ ของนายธีระพงศ์ทราบว่าจะมีการทำแผนในครั้งนี้ นายยงยุทธ ได้นำตำรวจไปยังบ้านของนายยงยุทธ ที่อยู่ห่างจาก บ้านที่เกิดเหตุเพียงไม่ถึง 100 เมตร โดยนายยงยุทธ บอกว่าใช้เวลาคิดเพื่อสังหารพี่เขยไม่นาน เพราะแค้นที่ถูกขู่มานานนับเดือน หลังจากมีการทะเลาะกันมาตลอด และ ไม่ได้เตรียมอาวุธ แต่เมื่อเดินไปยัง หลังรถกระบะของผู้ตาย พบว่า มีมีดงอของผู้ตายวางอยู่ ด้วยอารมณ์เพียงชั่ววูบและ รู้ว่า ผู้ตายนั่งกินเหล้า ในบ้านที่เกิดเหตุ จึงคว้ามีดงอของคนตายเดินตรงไปยังบ้านที่ผู้ตายนั่งตั้งวงดื่มเหล้า
หลังจากพบพี่เขยที่ไม่ทันระวังตัวนายยงยุทธ จึงใช้มีดฟันไปยังศรีษะโดยที่ไม่รู้ว่าโดนตรงจุดไหนบ้าง จนเห็นว่าพี่เขยแน่นิ่งมีเลือดไหลออกมาก จึงวิ่งหนีไปยังบ้าน นำมีดงอไปวางที่ข้างกระถางดอกไม้ขนาดใหญ่ แล้วไปหลบซ่อนตัว ในสวนข้างบ้าน กำลังตัดสินใจจะเข้ามอบตัว แต่ ตำรวจมาพบเสียก่อนจึงนำตัวไปยัง สภ.หลังสวน
ในระหว่างการทำแผนนายยงยุทธยังมีท่าทางที่เคร่งเครียด เส้นเลือดโปนบนหน้าผากอย่างน่ากลัว และพูดกับตำรวจน้อยมาก บอกเพียงแต่ ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ที่โดนข่มขู่ และเกิดความกลัวพี่เขยจะทำร้าย ในเวลาที่ลงมือสังหารเสมือนไม่รู้สึกตัว ในขณะที่บรรดาญาติของนายยงยุทธ กลับออกมาเป็นกำลังใจให้กับนายยงยุทธ พร้อมทั้งบอกให้มีกำลังใจต่อสู้คดี อีกทั้งยังควักเงินให้นายยงยุทธ จำนวนหนึ่งด้วย ในขณะมารดาของนายยงยุทธ บอกว่า อยากให้ลูกชายได้ใช้สติสงบอารมณ์ในระหว่างที่ถูกจองจำ จะได้หายจากอาการเครียด เมื่อพ้นโทษจะได้ใช้ชีวิตปกติ ในขณะที่พี่น้องของนายยงยุทธ และเป็นพี่น้องของภรรยาผู้ต่างแสดงความเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากเป็นเรื่องในวงญาติพี่น้องทั้งสิ้น ต่อมาตำรวจได้ควบคุมตัวนายยงยุทธไปฝากขังยังศาลจังหวัดหลังสวน พร้อมทั้งคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากยังสอบปากคำไม่เสร็จ ในขณะรายงานข่าวยังไม่ทราบผลการพิจารณาของศาล
