X

จะตายแล้ว!! สวนทุเรียนเขตระนอง 50 เมตร เข้าไม่ได้ เสียหาย 300 ล้าน

ชุมพร-จะตายแล้ว!! สวนทุเรียนเขตระนอง 50 เมตร เข้าไม่ได้ เสียหาย 300 ล้าน

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่27 เมย 63 ที่บ้านในหุบ หมู่ที่ 4 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร  นายเจษฏา จำเริญนุสิทธิ์  กำนัน ต.เขาค่าย พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน ใน ต.เขาค่าย และชาวบ้านกว่า 300 คน เดินทางไปยัง ด่านคัดกรองโควิด 19 บนถนนสายเขาค่ายไปยัง อ.ละอุ่น จ.ระนอง หมู่ที่ 2 ต.ในวงศ์เหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง รอยต่อระหว่าง จ.ชุมพร และ จ.ระนอง เพื่อเรียกร้องให้ผ่อนปรนมาตรการห้ามเข้าเขต จ.ระนอง

เมื่อไปถึง รอยต่อ ระหว่าง จ.ระนอง และ จ.ชุมพร ท้องที่ หมู่ที่ 2 ต.ในวงเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง ชาวบ้านได้รวมกลุ่ม เว้นระยะห่างกันระยะ 1-2 เมตรและสวมหน้ากากอนามัย กลางถนน หน้าด่านคัดกรอง ในเขต จ.ชุมพร เป็นแถวยาวกลางถนน  พ.ต.อ.โกสิต กาญจนโกมล ผกก.สภ.นาสัก อ.สวี  จ.ชุมพร และตำรวจจาก สภ.ละอุ่น  จ.ระนอง นำกำลังมาดูแลความสงบเรียบร้อย  ชาวบ้านถือป้ายเรียกร้องให้ทางราชการจังหวัดระนองผ่อนปรนการข้ามแดนเพื่อเข้าไปดูแลสวนเกษตร ทั้งสวนปาล์มและสวนทุเรียนหลายพันไร่  นายชัยกฤต หมวดจันทร์ ปลัดอาวุโส อ.ละอุ่น จ.ระนอง พร้อม จนท เดินทางมาพบกลุ่มผู้ชุมนุม นายเจษฏา กำนัน ต.เขาค่าย ได้อ่านหนังสือความต้องการของชาวบ้าน ใน ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ใจความว่า”ในขณะนี้ พืชเกษตรที่สำคัญทางเศรษฐกิจคือ ทุเรียนหมอนทองกำลังออกผลและ ต้องดูแลเต็มที่ ทั้งใส่ปุ๋ย ระวังโรคพืชหลายชนิด  ระวังแมลงหนอนเจาะผลทุเรียน หรือ เข้าไปปรับแต่งต้นทุเรียน ให้เหมาะสมกับสภาพของลูกทุเรียนที่กำลังเติบโต ซึ่งถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญสุด ถ้าดูแลช่วงนี้ไม่ได้สวนทุเรียนนับพันไร่ของชาวสวนทุเรียน ในพื้น ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร จะเสียหายทั้งหมด ชาวสวนทุเรียนรายหนึ่งจะมีสวนทุเรียน ประมาณ 30ไร่ ถึง 50 ไร่ หลายร้อยราย จะขายทุเรียนได้ รายละ 2-3 ล้านบาท จะมีความเสียหายมากกว่า 300 ล้านบาท เนื่องจาก เป็นช่วงที่ทุเรียนหมอนทองเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลออกสู่ตลาด ในขณะนี้มีพ่อค้าจากประเทศจีนเริ่มเข้ามารับซื้อในราคาที่สูงมากกว่าปกติ ถึง กก.ละ 200 -250 บาท อีกทั้งชาวสวนทุเรียนได้ลงทุนใส่ปุ๋ย  ขุดสระ ปรับปรุงสวนทุเรียนก่อนหน้าเหตุการณ์โควิด 19 ต้องกู้ยืมเงินมานับล้านบาท กับสถาบันการเงินบ้าง กับนายทุนบ้าง ถ้าไม่สามารถขายทุเรียนหมอนทองได้ หลังโควิดคาดว่าจะมีผู้ล้มละลาย เสียหายนับร้อยครอบครัวแน่นอน

“ชาวสวนฯขอเพียงได้เข้าไป ทำสวน วันละ 5-6 ชม เท่านั้น จะไม่ออกนอกพื้นที่สวนฯ ไปเช้าเย็นกลับ และปฏิบัติตามระเบียบที่ จ.ระนองระบุไว้ อีกทั้ง ในพื้นที่ ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ไม่ปรากฏว่ามีใครรับเชื้อโควิด หรือเป็นผู้ต้องสงสัยว่าสัมผัสโรค แต่อย่างใด เพราะตำบลเขาค่ายก็มีการคัดกรองผู้ที่จะเดินเข้าสู่ ตำบลเขาค่ายเหมือนกัน แต่การที่ จ.ระนองจะให้ชาวสวนทุเรียนไปขอใบรับรองแพทย์ว่าไม่เป็นโควิด ซึ่งต้องเดินทางไปยัง รพ.เอกชน ที่ อ.เมือง จ.ชุมพร มีค่าใช้จ่ายหลายพัน ต่อครั้ง และใบรับรองแพทย์ใช้ได้พียง 3 วัน เพียงเดินทางไปหาหมอก็ 1 วัน ใช้ใบรับรองแพทย์ ได้อีก 2 วันก็ หมดอายุใบรับรองแพทย์ ต้องไปขอใหม่อีกในทางปฏิบัติจะทำได้อย่างไร”

ส่วนที่ปั๊ม พีที บ้านในหุบ หจก เค.อาร์.ออยล์  ใน ร้านกาแฟ  KR บ้านในหุบ  นางอมร สันหลี อายุ 57 ปี ชาวสวนทุเรียน กล่าวว่า “ขอให้ ผวจ.ระนองเห็นใจชาวสวนทุเรียน ในจุดรอยต่อจังหวัดด้วย เพราะในรอยต่อส่วนใหญ่เป็นพี่น้องกัน แต่ไปมาหาสู่กันไม่ได้ เข้าไปทำสวนก็ ไม่ได้  ชาวสวนทุเรียน ที่มีบ้านอยู่ในหมู่บ้าน ในวงเหนือ ก็ไม่สามารถออกมาทำสวนทุเรียนในเขตเขาค่ายได้ เพราะถ้าออกมาแล้ จะไม่สามารถกลับเข้าไป ใน จ.ระนองได้ ชาวสวนแทบไม่มีไรจะกินอยู่แล้ว”    นางน้อย นาคพันธ์ อายุ 56 ปี ชาวสวนทุเรียน ใน ต.เขาค่ายบอกว่า สวนทุเรียนอยู่ในเขต จ.ระนอง บางครอบครัว สามี และ ลูก อยู่บ้านในเขต จ.ระนอง แต่ เมีย มาบ้านพ่อแม่ ใน เขต จ.ชุมพรก็ กลับเข้าไปในระนองไม่ได้มานานร่วมเดือนแล้ว  บางครอบครัว มีบ้านในเขต จ.ระนอง มาบ้านญาติ ใน จ.ชุมพร กลับเข้าไปที่บ้านตัวเองไม่ได้ จนมีช้างป่าลงมาเหยียบบ้านจนพัง ก็กลับเข้าไปปกป้องบ้านตัวเองไม่ได้ จึงขอความเห็นใจด้วย”ชาวบ้านหลายคนบอกว่า สวนทุเรียนที่กำลังออกผลห่างจากจุดด่านคัดกรอง รอยต่อ จังหวัดเพียง 50 เมตร แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ หลายรายถึงกับหลั่งน้ำตา

นายชัยกฤต หมวดจันทร์ ปลัดอาวุโส อ.ละอุ่น จ.ระนอง  พร้อม จนท.รับมอบหนังสือ และ รับฟังข้อเสนอของกลุ่มชาวบ้าน เพื่อนำไปรายงานผวจ.ระนอง ต่อไป  ในขณะที่ชาวบ้านหลายสิบคน ใน จ.ระนอง ก็เกิดปัญหาที่จะเดินทางกลับมาหาครอบครัว ใน ตำบลเขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร มากันมารวมตัว ในเขต อ.ละอุ่น จ.ระนอง หน้าด่านคัดกรองเช่นเดียว ทุกคนมีสภาพปัญหาเดียวกัน เป็นที่น่าเวทนามาก หลายคนบอกว่า ถึงจะรอดจากเขื้อไวรัสโควิด แต่คงตายเพราะหนี้สินและความยากจนแน่นอน หลายคนเข้าขั้นหมดเนื้อหมดตัว ก่อนจะเดินทางกลับ ด้วยความหวังว่า นายกรัฐมนตรีจะได้รับทราบปัญหาของชาวบ้าน ใน จ.ชุมพร และ จ.ระนองด้วย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน