จากกรณีที่หนุ่มชาวเมียนมา วัย 28 ปี อ้างว่าถูกคนร้ายจำนวน 3 คน ใช้อาวุธปืนและมีดดักปล้นรถจักรยานยนต์ แล้วถีบตนเองตนลงไปในคลองส่งน้ำชลประทาน พื้นที่ตำบลหนองลาน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อช่วงเย็นเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา
หลังจากนั้นหนุ่มชาวเมียนมาได้เดินเท้าประมาณ 1 กิโลเมตร กลับมาที่แคมป์คนงานโดยบอกกับนายจ้างว่ารถจักรยานยนต์ที่ยืมเพื่อนมาถูกคนร้ายปล้นไปแล้ว จึงได้รีบเข้ามาแจ้งความกับตำรวจ สภ.ท่าเรือ
หลังจากรับแจ้ง พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.ท่าเรือ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อำนาจ ปรีชาวาท รอง ผกก.ป.สภ.ท่าเรือ ร่วมกับชุดสืบสวน ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี กระจายกำลังกันออกติดตามอยู่นานแต่ก็ไม่พบร่องรอยของคนร้ายกลุ่มดังกล่าว
ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหนุ่มเมียนมา คนดังกล่าวมาสอบปากคำที่โรงพัก โดยเค้นสอบอยู่นานจนทำให้ยอมรับว่าเรื่องที่ถูกคนร้ายปล้นเอารถไป ได้แต่งเรื่องขึ้นมาเพราะกลัวรถจักรยานยนต์ที่ยืมเพื่อนคนงานด้วยกันที่ตนเองขับตกน้ำไปจะหาไม่เจอแล้วกลัวจะโดนเพื่อนว่า
โดยทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวหนุ่มเมียนมาคนดังกล่าวไปชี้จุดบริเวณคลองที่ตนเองขับรถจักรยานยนต์ตกลงไปในคลอง จากนั้นจึงได้ช่วยกันงมหารถจักรยานยนต์ ใช้เวลาไม่นานก็พบรถจักรยานยนต์จมอยู่ก้นคลองที่มีความลึกเพียงระดับ 70 เซนติเมตร จึงได้ช่วยกันนำขึ้นมาบนฝั่ง
จากการสอบถามเจ้าของรถจักรยานยนต์ บอกว่า เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา เป็นวันหยุดของหนุ่มเมียนมาคนดังกล่าวซึ่งเป็นคนงานที่ทำงานก่อสร้างด้วยกันได้เดินมาขอยืมรถจักรยานยนต์ โดยอ้างว่าจะขับไปตลาดแล้วก็ไปโอนเงิน ซึ่งตนเองก็ยินยอมให้ยืม จากนั้นหนุ่มเมียนมาคนที่ยืมรถไปได้เดินกลับมาด้วยสภาพตัวเปียกไปทั้งตัว พร้อม กลับบอกว่ารถจักรยานยนต์ที่ยืมไปได้ถูกคนร้ายจำนวน 3 คน ใช้อาวุธปืนและมีดดักปล้นเอาไปแล้ว ซึ่งตนเองก็โดนคนร้ายถีบลงน้ำเช่นกัน และเงินจำนวน 12,000 บาท ที่จะนำไปโอน ก็ไหลไปไปกับน้ำพร้อมกับโทรศัพท์มือถือหนึ่งเครื่อง หลังจากนั้นนายจ้างจึงได้รีบนำตัวหนุ่มเมียนมาไปแจ้งความกับตำรวจ
กระทั่งมาทราบความจริงว่าเรื่องทั้งหมดนั้นได้แต่งขึ้นเพราะเกรงว่าจะถูกด่าและกลัวความผิดที่ขับรถจักรยานยนต์ตกลงไปในคลอง ซึ่งตนเองมองว่าเรื่องแค่นี้ไม่เห็นจะต้องโกหกกันเลยเป็นเรื่องเล็กน้อย รถเสียก็สามารถนำไปซ่อมใหม่ได้ แต่นี่กลับสร้างปัญหาจน เจ้าหน้าที่ตำรวจวุ่นวายกันไปทั้งโรงพัก
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวน หนุ่มเมียนมาคนดังกล่าวเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป.
