ที่ จ.ชลบุรี ชาวบ้านไร่หลักทอง อ.พนัสนิคม ขับไล่เจ้าอาวาสวัดกลางคลองหลวงประพฤติตนไม่เหมาะสม รื้อหลังคาโบราณอายุกว่า 100 ปี โดยใช้เท้าถีบแตกหักเสียหาย
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่วัดกลางคลองหลวง หมู่ 9 ต.ไร่หลักทอง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี นายวิชาญ ขุนเที่ยง อายุ 52 ปี พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ไร่หลักทองได้รวมตัวขับไล่พระครูสุชินชยาภิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดกลางคลองหลวง เนื่องจากได้มีการรื้อศาลาของวัดดังกล่าว ซึ่งสร้างมา 100 กว่าปี โดยมีการว่าจ้างให้คนไปรื้อ ซึ่งการรื้อนั้น ได้ทำให้หลังคากระเบื้องชำรุดเสียหาย ที่สำคัญใช้เท้าถีบลงมา ทำให้ชาวบ้านที่พบเห็นไม่พอใจ และยังได้มีการร้องเรียนไปยังเจ้าคณะตำบลไร่หลักทอง จนกระทั่งได้มีการสั่งให้ระงับการรื้อถอนศาลาภายในวัด
นอกจากนี้ได้นำรูปปั้นของหลวงพ่อสายหยุด ที่บวชมาตั้งแต่เป็นสามเณรจนกระทั่งมรณภาพ ได้หาเงินมาช่วยทำนุบำรุงวัดให้เกิดความเจริญ เป็นที่พึ่งของชาวบ้านในพื้นที่ไร่หลักทอง เอามาวางไว้บนพื้นซึ่งไม่เหมาะสม ชาวบ้านจึงเกิดความไม่พอใจ จึงได้มีการมารวมตัวขอนิมนต์ให้ออกจากวัด นอกจากนี้ยังกลุ่มชาวบ้านที่สนับสนุนพระครูสุชินชยาภิวัฒน์ ได้ออกมาโต้เถียง ทางด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ วนะบดีนิมิต ผกก.สภ.พนัสนิคม ได้นำกำลังตำรวจมาดูแลในด้านความปลอดภัย เกรงว่าจะเกิดความรุนแรง จึงได้นิมนต์พระครูสุชินชยาภิวัฒน์ ไปอยู่ที่ปลอดภัย
นายวิชาญกล่าวว่า ช่วงที่มีการปรับปรุงศาลาของวัดนั้นได้พยายามคัดค้าน เพราะหลวงพ่อสายหยุดได้สร้างมานานกว่า 100 ปี อยากให้เก็บไว้เป็นอนุสรณ์ แต่เจ้าอาวาสไม่ฟังคำคัดค้านของชาวบ้าน นอกจากนี้การรื้อในครั้งยังได้ทำเกิดความเสียหาย รวมทั้งยังนำรูปปั้นหลวงพ่อสายหยุดมาวางไว้กับพื้นอีก ซึ่งไม่เหมาะสม ที่สำคัญการรื้อครั้งนี้ส่วนใหญ่ใช้เท้าถีบลงมา ทำให้หลังคาชำรุดเสียหาย ทั้งที่ควรจะรื้อด้วยความเรียบร้อย และอาจจะนำมาใช้ใหม่ หรือไปทำวัตถุมงคลได้ เมื่อห้ามไม่ให้มีการรื้อถอน แต่ก็ยังดื้อดึง จึงทำให้ชาวบ้านรวมตัวมาขับไล่เจ้าอาวาสดังกล่าว
ทางด้าน พระครูสุชินชยาภิวัฒน์ กล่าวว่า อาตมาเป็นเจ้าอาวาสวัดนี้เกือบ 10 ปีแล้ว เห็นศาลาชำรุดทรุดโทรม จึงอยากให้มีการปฏิสังขรณ์ให้ดีขึ้น ญาติโยมจะได้มาใช้ประโยชน์ แต่ญาติโยมไม่พอใจ จึงได้รวมตัวมาขับไล่อาตมา ทั้งที่ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ อยากให้วัดสวยงามเหมือนกับวัดอื่นๆ
