ผู้ประกอบการร้านค้า ชายหาดสมประสงค์ บ้านอำเภอ ยื้อไม่ยอมขนย้ายสิ่งของ วอนรัฐทวบทวนคำสั่ง ด้านนายกเทศบาลนาอมเทียน ชี้ ไม่เคยรังแกชาวบ้านยึดหลักกฎหมายเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
วันนี้ (5 ส.ค.) ที่ บริเวณชายหาดสมประสงค์ บ้านอำเภอ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีผู้สื่อข่ายรางานว่า เจ้าหน้าที่สำนักการช่างเทศบาลนาจอมเทียน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่นิติกร เจ้าหน้าที่ตำรวจนาจอมเทียน และเจ้าหน้าที่เทศกิจ ร่วมลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติของผู้ประกอบการร้านค้าบริเวณชายหาดสมประสงค์ บ้านอำเภอ เพื่อขอคืนพื้นที่เพื่อเข้าไปดำเนินการพัฒนาชายหาดและก่อสร้างปรับปรุงพื้นที่บริเวณชายหาดสมประสงค์ บ้านอำเภอ รองรับนักท่องเที่ยว และรองรับการเป็นพื้นที่ EEC ในอนาคต ตามที่เทศบาลได้ออกคำสั่งให้กับผู้ประกอบการหรือไม่ ทั้งนี้พบว่า ได้มีกลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าชายหาดสมประสงค์ บ้านอำเภอ จำนวนหนึ่งรวมตัวร้องขอความเป็นธรรมและคัดค้านการขนย้ายสิ่งของและอุปกรณ์ออกจากร้านค้าและพื้นที่ชายหาด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เทศบาลก็ไม่ได้มีการขัดขว้างหรือมีปากเสียงกับกลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าแต่อย่างใด
นายพล ภูจอย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า หลังจากที่เทศบาลนาจอมเทียนจะมีการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณชายหาดใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาทางเทศบาลได้มีการเรียกผู้ประกอบการร้านค้าประชุมหารือเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องการรื้อถอนแล้ว แต่ทางผู้ประกอบกิจการนั้นก็พร้อมให้เทศบาลรื้อถอนอาคารและพัฒนาพื้นที่เพื่อให้บ้านเมืองเจริญ เพียงขอพื้นที่ทำกิน โดยให้เทศบาลออกสั่งให้ผู้ประกอบจัดหาซื้อเต้นท์สามารถตั้งทำอาหารขายของและวางอุปกรณ์ได้ มาตั้งประกอบกิจการชั่วคราวระหว่างรอการก่อสร้างปรับปรุงพื้นที่ แทนการขายบนรถพ่วงข้างหวั่นไม่สามารถประกอบกิจการไม่ได้ และเมื่อดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จก็ขอเข้าไปขายของได้เหมือนเดิม
ด้านนายสมพงษ์ สายนภา นายกเทศมนตรีตำบาลนาจมอเทียน กล่าวว่า จากที่มีคำสั่งให้รื้อถอนบริเวณหาดสมประวงค์นั้น เนื่องด้วยสภาพปัญหาบริเวณชายหาด ปัจจุบันเกิดความเสื่อมโทรมเป็นอย่างมาก เทศบาลนาจอมเทียนจึงได้มีการจัดตั้งงบประมาณปี 2562 เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารจำหน่ายสินค้า จำหน่ายอาหารให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดบ้านอำเภอ เพื่อเป็นการปรับปรุงและพัฒนาอาคารร้านค้าที่ปัจจุบัน เพื่อเป็นการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติของชายหาดบ้านอำเภอ ซึ่งระหว่างรอการโครงการดังกล่าว เทศบาลได้ผ่อนผันให้ประชาชนผู้เช่าสามารถใช้อาคารที่เช่าได้ โดยไม่มีการเก็บค่าเช่าหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งนี้จากที่เทศบาลจะเข้าดำเนินการโครงการในเบื้องต้นในการย้ายต้นไม้บริเวณชายหาดออก ระหว่างรอการเซ็นสัญญากับผู้รับจ้าง เทศบาลได้มีการเชิญผู้ประกอบการร้านค้าบริเวณชายหาดบ้านอำเภอเข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นในการดำเนินโครงการเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2564 ซึ่งหลังจากที่ได้มีการขี้แจงเหตุผลความจำเป็นดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่ของเทศบาล ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการร้านค้าทั้งหมดขนย้ายสิ่งของและอุปกรณ์ทุกอย่าง ออกจากอาคาร รวมทั้งขนย้ายโต๊ะเตียง เก้าอี้ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ออกจากพื้นที่ชายหาด ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เนื่องจากปัจจุบันกำหนดเวลาตามสัญญาเช่าสิ้นสุดลงแล้ว และเทศบาลมีความจำเป็นที่จะต้องเข้าดำเนินการปรับปรุงและก่อสร้างอาคารร้านค้า เพื่อให้การดำเนินโครงการแล้วเสร็จโดยรวดเร็ว ซึ่งหากไม่ดำเนินการภายให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ งบประมาณที่ตั้งไว้ก็จะตกไปไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก
หลังจากออกคำสั่งไปผู้ประกอบการยังไม่การปฏิบัติตามคำสั่งเทสบาลด้วยภาวะโควิด จึงได้มีการขยายาเวลาในการขนย้ายสิ่งของให้กับผู้ประกอบการออกไปเป็นวันที่ 1 สิงหาคม 2564 แต่ผู้ประกอบการก็ยังเพิกเฉยจึงต้องอาศัยอำนาจ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ออกคำสั่งให้ผู้ประกอบการขนย้ายสิ่งของออกจากอาคารร้านค้าและชายหาดภายในวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งก็ยังได้รับการเพิกเฉยจากผู้ประกอบการไม่ยอมขนย้ายสิ่งของและอุปกรณ์ ออกจากพื้นที่
แม้ที่ผ่านมาทางเทศบาลจะมีมาตรการในการบรรเทาความเดือดร้อน ให้ผู้ประกอบการร้านค้าบริเวณชายหาดบ้านอำเภอ สามารถย้ายไปจำหน่ายสินค้าหรืออาหาร ในบริเวณที่เทศบาลอนุญาตให้ผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าหรืออาหาร ประเภทรถเข็น รถสามล้อ หรือแผงลอย บริเวณชายหาดบ้านอำเภอจำหน่ายสินค้าอยู่ในปัจจุบัน เมื่อได้มีการก่อสร้างอาคารจำหน่ายสินค้า จำหน่ายอาหารให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดบ้านอำเภอเสร็จเรียบร้อยแล้ว เทศบาลจะดำเนินการจัดหาประโยชน์โดยการจัดให้ ประชาชนเช่าอาคารร้านค้าตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วย การจัดหาประโยชน์ในทรัพย์สินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2543 ก็ตามแต่ผู้ประกอบการก็ไม่ยินยอมที่จะขนย้ายสิ่งของและอุปกรณ์ออกจากพื้นที่ตามคำสั่งที่กำหนดไว้ อยากให้ผู้ประกอบการเสียสละเพื่อส่วนรวมอย่าเอากฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
