ที่จ.ชลบุรี นักท่องเที่ยวพัทยาพากันแตกตื่น หลังพ่อค้าโจ๊กชาวเวียดนามเขม่นกับพ่อค้าขายผลไม้ชาวเวียดนามจนบานปลาย ยกพวกเอามีดไล่ฟันกันเจ็บ 3
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
เมื่อเวลา 00.10 วันที่ 16 ธ.ค. 62 ร.ต.ท.อนันต์ มหากิจอัศวกุล รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในซอยบัวขาว ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาพร้อมนำกำลังรีบไปตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- บิ๊กแรก นำคอมมานโด ลุย “เด็ดปีก มังกรเทาดำ“ ค้นรังจีน ระดับสั่งการแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ตุ๋นเงินเหยื่อ เสียหายหลักพันล้าน
- ปริศนา!! พบศพหม่องมีดปักคาอก ตำรวจคุมเพื่อนรวมห้องสอบเครียด
- นครพนม: นรข.จับยาเสพติดลอตใหญ่ ยาบ้า 1.68 ล้านเม็ด ไอซ์ 135 กก. ข้ามชายแดนแม่น้ำโขง
- ตามรวบหนุ่มเมืองผู้ดีกล้ามโตวิ่งราวนักท่องเที่ยวจนมุมเพราะกล้องวงจรปิด
ที่เกิดเหตุเป็นกลุ่มบาร์เบียร์มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมากต่างอยู่ในอาการแตกตื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ พบมีผู้บาดเจ็บเป็นชาวเวียดนาม อาชีพขายโจ๊ก ได้รับบาดเจ็บถูกของมีคมฟันที่แขน 2 ราย ถูกฟันที่ศีรษะ 1 ราย มีนักท่องเที่ยวให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนผู้บาดเจ็บจะพากันส่งโรงพยาบาลเองก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง จากนั้นกำลังเจ้าหน้าที่จึงได้ไปตรวจสอบที่ รพ.ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ MR.TRAN THANHCONG อายุ 37 ปี MR.LUU VAN SON อายุ 36 ปี และ MR.TRAN DINH TANG อายุ 31 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ส่วนคู่กรณีเป็นชาวเวียดนามเช่นกัน ได้จอดรถเข็นขายผลไม้ทิ้งไว้แล้วหลบหนีไป
จากการสอบถาม น.ส.ปราณี เงินรัตน์ อายุ 35 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่าก่อนเกิดเหตุเห็นพ่อค้าโจ๊กชาวเวียดนาม เดินเข้ามาคุยกับพ่อค้าผลไม้ชาวเวียดนามด้วยกัน ก่อนพ่อค้าผลไม้จะหยิบมีดไล่ฟันกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง ทำให้นักท่องเที่ยวแตกตื่นพากันวิ่งหลบคนละทิศละทาง ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ นอกจากนั้นได้สอบถามหนึ่งในผู้บาดเจ็บชาวเวียดนามทราบว่า ก่อนหน้านี้ได้ขับขี่รถสวนกันแล้วมีการด่าทอกันไปมาจนกระทั่งเข้ามาเจรจาแต่ไม่เป็นผลจนเกิดเหตุบานปลายดังกล่าว
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความแตกตื่นตกใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก อีกทั้งกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดยังประกอบอาชีพค้าขายซึ่งเป็นที่ห้ามคนต่างด้าวทำ แต่กลับมีการลักลอบกระทำผิดและยังก่อเหตุรุนแรง จนทำให้นักท่องเที่ยวเสียขวัญ ถือเป็นการทำลายเสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยวทางอ้อมอีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: