พระนครศรีอยุธยา – กรมอุทยานฯไล่ติดตามจับกุมรถบรรทุกสิบล้อขนไม้มูลค่ามหาศาล หวังส่งต่างประเทศ ตำรวจ พบเป็นของนักการเมืองท้องถิ่น เตรียมใช้กฎหมายฟอกเงินเด็ดขาด
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 กพ นายธัญญา เนติวงศ์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ นายสมศักดิ์ ภู่เพชร ผ.อ.ส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม กรมอุทยานแห่งชาติ นายชาติชาย ศรีแก้ว หน.สปป.1 ภาคกลาง และนายชัยชาญ ศรียงศ์ หน.สปป.3 ภาคเหนือ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ ธรรมพิทักษ์ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา และกำลังทหารรักษาความสงบพื้นที่พระนครศรีอยุธยา
ได้ร่วมกันทำการจับกุมรถยนต์บรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 70-5117 เชียงใหม่ ขณะขับมาจอดบริเวณเลยแยกกำนันดิเรก ถนนสาย 347 เส้นทางสายเอเชีย มุ่งหน้าปทุมธานี หมู่ 5 ต.วัดตูม อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา พบไม้ประดู่และไม้ชิงชังประมาณ 20 ลบ.เมตร จำนวน กว่า 100 ท่อน วางซ้อนเรียงกันมา จึงทำการควบคุมตัวนายพงศกร จานนอก อายุ 40 ปีบ้านอยู่ 56 หมู่ 9 ต.หนองหมี อ.ราศีไสล จ.ศรีสะเกศ คนขับรถ
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบเพียงใบอนุญาตตัดไม้ในพื้นที่มีโฉนด ซึ่งออกในปี 2546 แต่ไม่พบใบอนุญาตเคลื่อนย้ายไม้ และมีเพียงไม้ประดู่เท่านั้นที่มีใบควบคุม ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้อง และจากการสอบถามนายพงศกร ทราบว่าเป็นเพียงคนรับจ้างขับรถ โดยรถบรรทุกเป็นรถของนายณัฐ ซึ่งเป็นเจ้าของรถให้เช่า และได้รับจ้างจากนายประเวศ ไม่ทราบนามสกุลให้ขับรถบรรทุกไม้ดังกล่าวออกมาจาก อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ ตั้งแต่คืนวันที่ 13 ก.พ.61 เวลาประมาณ 20.00 น. โดยให้ขับรถมาพักรถที่จุดจอดบริเวณแยกกำนันดิเรก เพื่อรอรับโทรศัพท์ว่าจะให้ไปส่งที่ใด แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานติดตามมา เข้าทำการตรวจค้นและจับกุมดังกล่าว
นายธัญญา กล่าวว่านายพงศกรให้การเพิ่มเติมว่า ได้รับจ้างมาเป็นจำนวนเงิน 2.5 หมื่นบาท และเคยนำไปส่งโรงไม้ใน อ.เสนา สองครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ทราบว่าจะให้ไปที่ใด ซึ่งเชื่อว่าน่าจะทำกันเป็นขบวนการ ก็ต้องดูว่าคนขับจะซัดทอดใครบ้าง ซึ่งไม้ทั้งหมดมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท เป็นไม้ใหม่ที่เพิ่งตัดมา
ส่วนโรงไม้ที่ อ.เสนา ที่มีการอ้างถึงเจ้าหน้าที่เคยเข้าไปตรวจค้นแล้วไม่พบไม้ผิดกฎหมาย และคาดว่าจะเตรียมนำส่งออกต่างประเทศ เนื่องจากเคยมีการจับได้ใกล้กับท่าเรือ ซึ่งจะต้องทำการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม โดยจะนำไม้ทั้งหมดอายัตไว้ตรวจสอบและติดตามเจ้าของรถมาสอบสวนเพื่อหาตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี
ล่าสุดเจ้าหน้าที่กรมอุทยานได้ส่งมอบรถและไม้ของกลางให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ทำการตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อทำการสอบสวนและดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยมีการนำรถบรรทุกไม้ดังกล่าวไปจอดที่ลานจอดรถหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อรอการตรวจนับและตรวจพิสูจน์จากผู้เชียวชาญในการจำแนกไม้
พ.ต.อ.ฉลอง สุขจันทร์ รองผบก.ภ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่าทางกรมอุทยานได้ส่งตัวคนขับรถให้กับทางพนักงานสอบสวนทำการสอบสวน เพื่อนำไปสู่การขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ชุดสืบสวนได้ติดตามกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลักที่รถบรรทุกไม้วิ่งผ่านมา เนื่องจากสงสัยว่าจะมีรถยนต์ของขบวนการวิ่งนำหน้าและปิดท้ายมาด้วย ซึ่งหากพบก็จะติดตามคนขับรถดังกล่าวมาสอบสวน
ในขณะเดียวกันยังได้สั่งการให้ใช้กฎหมายการฟอกเงินมาเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าจ้าง หรือคนที่รู้เห็น อย่างไรก็ตามต้องดูเรื่องของชนิดไม้ที่ผู้เชี่ยวชาญมายืนยัน รวมทั้งเอกสารต่างๆ โดยเบื้องต้นทราบว่าเจ้าของไม้เป็นนักการเมืองท้องถิ่น โดยมูลค่าไม้มากถึง 10 ล้านบาท
